การกลับมาของกุ้งแม่น้ำ
หนึ่งในเรื่องจริงของเมืองไทยในอดีต ที่ผมฟังทีไรแล้วอิจฉาอย่างที่สุด เป็นคำบอกเล่าทำนองนี้
โดย ปริญญา ผดุงถิ่น
หนึ่งในเรื่องจริงของเมืองไทยในอดีต ที่ผมฟังทีไรแล้วอิจฉาอย่างที่สุด เป็นคำบอกเล่าทำนองนี้
“แต่ก่อนเวลาอยากกินกุ้งแม่น้ำ ก็แค่งมเอาแถวท่าน้ำหน้าบ้าน”
โห แม่น้ำไทยอะไรจะอุดมสมบูรณ์ขนาดนั้น ภาพเหล่านั้นไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว เฉกเช่นสายน้ำไม่หวนกลับ
ทุกวันนี้ กุ้งก้ามกรามแม่น้ำกลายเป็นของหายาก แม้จะมีกุ้งก้ามกรามเลี้ยงมาเติมให้เพียงพอต่อการบริโภค แต่ “กุ้งแม่น้ำ” กับ “กุ้งเลี้ยง” ได้แบ่งชั้นวรรณะกันอย่างชัดเจน ด้วยราคาที่ต่างกันมาก แม้จะถือเป็นกุ้งสายพันธุ์เดียวกันก็ตาม
อย่างไรก็ตาม มีปรากฏการณ์น่าสนใจเกิดขึ้นในปีนี้ เมื่อกุ้งแม่น้ำกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราดในแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
คนที่ประกาศเรื่องนี้ไม่ใช่กรมประมง แต่เป็นมัคคุเทศก์นำตกปลา ชื่อ “ไต๋ต้น เจ้าพระยา” เซียนปลาแห่ง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จู่ๆ เขาก็เลิกรับพาคนไปตกปลา แล้วเปลี่ยนเป็นพาคนไปตกกุ้งแทน มีคิวจองยาวเหยียดเชียวละ
ผมจองได้คิวโดดวันธรรมดา เลยลองไปสัมผัสการตกกุ้งแม่น้ำกับไต๋ต้น เห็นเลยว่ากุ้งแม่น้ำกำลังบูมจริงๆ
เอาง่ายๆ พอผมกับเพื่อน ก้าวลงเรือของไต๋ที่ผูกโยงไว้ตรงท่าน้ำหน้าบ้าน ไต๋ก็สั่งการให้ลงเบ็ดกุ้งกันตรงนั้นแหละ แค่นี้ก็ได้กุ้งขึ้นมาหลายตัวแล้ว โดยไม่ต้องสตาร์ทเครื่องไปหาที่ไหนเลย
ไต๋ต้นเล่าว่า แต่ก่อนกุ้งแม่น้ำแถวบ้านแกก็มีชุมพอสมควร แต่พวกมันพากันหายไปในพริบตาเมื่อปี 2553 หลังเกิดเหตุการณ์เรือน้ำตาลล่มกลางเจ้าพระยาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ไม่ใช่แค่กุ้ง แต่ปลาแม่น้ำนานาชนิดก็ลดจำนวนประชากรลงไปอย่างรู้สึกได้ (ต้องอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยเด็ดขาด เพราะนี่คือภัยพิบัติของกุ้งหอยปูปลาแม่น้ำอย่างแท้จริง)
กุ้งแม่น้ำไม่ถึงกับหมดเกลี้ยง แต่ก็มีตัวเบาบาง จนกระทั่งปีนี้แหละ หลังผ่านพ้นภัยพิบัติทางน้ำมาร่วม 8 ปี จู่ๆ น้องกุ้งก็มีจำนวนชุกชุมอย่างพรวดพราด เรือตกปลาแถวนั้นหันมาตกกุ้ง เช่นเดียวกับนักตกปลาตามฝั่งแม่น้ำ ก็ย้ายแนวมาตกกุ้งกันเป็นแถว
ผมสืบค้นข้อมูลดูก็พบว่า กุ้งก้ามกราม หรือ Giant River Prawn จะพบในแม่น้ำภาคกลางและภาคใต้ที่เชื่อมต่อกับทะเล เพราะวงจรชีวิตพวกมัน ต้องวางไข่ในน้ำกร่อยจัด แล้วไปโตในลำน้ำที่จืดสนิท
กรมประมงเริ่มทดลองเพาะพันธุ์กุ้งก้ามกรามมาตั้งแต่ปี 2500 เมื่อทำสำเร็จ กุ้งก้ามกรามจึงมี 2 พวก คือ กุ้งแม่น้ำกับกุ้งเลี้ยง ทั้งนี้ พวกที่เลี้ยงกุ้งในแม่น้ำ ก็เรียกกุ้งตัวเองว่า กุ้งแม่น้ำด้วย (เป็นคำถามยอดฮิตในพันทิป กุ้งแม่น้ำกับกุ้งก้ามกราม ต่างกันอย่างไร)
กุ้งแม่น้ำแท้ๆ ได้รับคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ว่า เนื้อแน่น อร่อยกว่ากุ้งเลี้ยง ที่น่าแปลกก็คือ ก้ามของมันใหญ่ยาวกว่ากุ้งเลี้ยง มีคนเชื่อว่าเพราะในกระแสน้ำตามธรรมชาติ กุ้งต้องปากกัดตีนถีบ ใช้ก้ามทำอะไรต่อมิอะไรมากมาย ไม่สุขสบายแบบ “กุ้งนอนกิน” ในบ่อเลี้ยง (เลี้ยงทั้งอาหารทั้งยา)
มีงานวิจัยของไทย แยกดีเอ็นเอกุ้งก้ามกรามในบ่อเลี้ยงที่กาฬสินธุ์ กลับพบกุ้งในบ่อเดียวกันถึง 3 ชนิด คือ กุ้งก้ามกรามก้ามสีฟ้า กุ้งก้ามกรามก้ามสีทอง และกุ้งก้ามกรามจิ๊กโก๋
โลกของกุ้งก้ามกรามจึงดูเหมือนมีอะไรลึกลับซับซ้อนซ่อนอยู่ แต่เราๆ ท่านๆ มักจดจำพวกมันอย่างเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ในฐานะ “กุ้งโคตรอร่อย” เท่านั้นเอง


