คาวบอยขวัญใจตลอดกาล จอห์น เวย์น
วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 111 ของ จอห์น เวย์น ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่ง “เวสเทิร์น มูฟวี” หรือ “หนังคาวบอย”
โดย เพ็ญแข สร้อยทอง
วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 111 ของ จอห์น เวย์น ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่ง “เวสเทิร์น มูฟวี” หรือ “หนังคาวบอย” แม้ว่าเขาจะจากโลกนี้ไปนาน 39 ปีแล้ว แต่ผลงานและภาพลักษณ์อันโดดเด่นของเขาไม่เคยถูกลืมเลือน เขาคือ คาวบอยผู้เป็นขวัญใจของคนทั่วโลกตลอดกาล ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า เฮนรี ฟอนดา, เกรกอรี เปค, เกลนน์ ฟอร์ด, เจมส์ สจวร์ต, แกรี คูเปอร์ ฯลฯ
ในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 111 ของ จอห์น เวย์น ทั่วโลกจัดงานเพื่อรำลึกถึงเขา ทีวีอเมริกันช่อง HDNET Movies ก็ได้นำหนังของเขามาฉายให้ได้ชมกันอิ่มอกอิ่มใจ โดยมี อีธาน ลูกชายของ จอห์น ซึ่งเป็นประธานของ จอห์น เวย์น เอ็นเตอร์ไพร์ซ มาร่วมรายการ และให้ข้อมูลเบื้องหน้าเบื้องหลังเบื้องลึกต่างๆ ที่น่าสนใจ
จอห์น เวย์น หรือ มาเรียน โรเบิร์ต มอร์ริสัน เกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 1907 ที่ไอโอวาสหรัฐ ก่อนจะย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนีย เพราะชื่อจริงที่ฟังเหมือนชื่อผู้หญิง เขาจึงตั้งชื่อเล่นให้ตัวเองว่า ดุ๊ก ส่วนชื่อ จอห์น เวย์น นั้น ผู้บริหารบริษัทหนังเป็นคนตั้งให้
หลังจบไฮสกูล จอห์น เวย์นได้รับทุนฟุตบอลไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย หลังจากบาดเจ็บก็ไม่ได้รับทุนต่อ จึงออกไปทำงานในกองถ่าย เริ่มจากเป็นเด็กดูแลพร็อบและตัวประกอบ ด้วยหน้าตา รูปร่าง และบุคลิกที่โดดเด่น ผู้กำกับ ราอูล วอลช์ เลือกเขามานำแสดงใน The Big Trail (1930) ของ หลังจากนั้นก็แสดงหนังเกรดบีอยู่อีกหลายเรื่อง กระทั่งปี 1939 ผู้กำกับชื่อดัง จอห์น ฟอร์ด ก็มองเห็นความสามารถของเขา จึงได้มอบโอกาสให้รับบทนำใน Stagecoach ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในหนังคาวบอยสุดคลาสสิก
จากนั้น จอห์น เวย์น ก็กลายเป็นดาวที่โดดเด่น เขามีงานตามออกมามากมายรวมถึง Red River (1948) Fort Apache (1948) She Wore a Yellow Ribbon (1949) Rio Bravo (1959) The Man Who Shot Liberty Valance (1962) ฯลฯ ไม่เพียงบทคาวบอย จอห์น เวย์น ยังแสดงเป็นวีรบุรุษทหารผู้ผ่านสงครามมาอย่างกล้าหาญใน Sands of Iwo Jima (1949), Flying Leathernecks (1951) ฯลฯ
เขามีงานหนังทั้งหมด 142 เรื่อง ในจำนวนนั้น 83 เรื่อง เป็นหนังตะวันตก ผลงานเหล่านี้สร้างภาพชายผู้มีบุคลิกแกร่งกล้า เจ้าของดวงตาอันสัตย์ซื่อ คาวบอยผู้ทรงคุณธรรมให้อยู่ติดตัวของ จอห์น เวย์น ตลอดมา
ปลายปี 1960 ชาวอเมริกันบางส่วนก็เริ่มเบื่อ จอห์น เวย์น กับคาแรกเตอร์แมนๆ แสนรักชาติ ประจวบกับตอนนั้นหนังเวสเทิร์นเองก็เปลี่ยนมานำเสนอเรื่องราวที่สลับซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งตัว จอห์น เวย์น เองก็พยายามที่จะปรับเปลี่ยน หนีจากภาพเก่าๆ ไปลองรับบทอื่นๆ ดูบ้าง จอห์น เวย์น ได้รับรางวัลออสการ์จาก True Grit ในปี 1969 แต่นั่นก็ไม่อาจจะลบคำครหาว่า “จอห์น เวย์น แสดงไม่เป็น” งานเรื่องสุดท้ายของเขาคือ Shootist (1976) ก็ชนะใจคนดูอย่างท่วมท้น ตลอด 3 ทศวรรษที่โลดแล่นในวงการ เขาเป็นนักแสดงยอดนิยมที่ทำให้ผลงานมีรายได้ติดอันดับสูงๆ ในบ็อกซ์ออฟฟิศ ผลที่เป็นรูปธรรมนี้ อาจจะยิ่งใหญ่กว่าคำติฉินใดๆ
ชีวิตส่วนตัว จอห์น เวย์น แต่งงาน 3 ครั้ง หย่า 2 ครั้ง มีลูก 7 คน รวมถึง ไมเคิล, แพทริก และ อีธาน ที่ก้าวตามรอยเท้าพ่อเข้าสู่วงการหนังฮอลลีวู้ด
เพื่อนสนิทของเขาคือ อัลฟอนโซ อี. เบลล์ จูเนียร์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐแคลิฟอร์เนีย เคยเขียนถึง จอห์น เวย์น ว่า บุคลิกภาพส่วนตัว รวมทั้งอารมณ์ขันของเขานั้นใกล้เคียงกับสิ่งที่คนดูเห็นผ่านจอหนัง แต่เจ้าตัวเคยกล่าวว่า คนที่อยู่บนจอนั้นไม่ใช่ตัวตนเขาที่แท้จริง เพราะว่า เขาคือ ดุ๊ก มอร์ริสัน แต่คนบนจอนั้นคือ จอห์น เวย์น!
นักแสดงผู้ยิ่งใหญ่นี้เป็นนักดื่ม และสิงห์อมควัน เขายังเป็นนักเล่นหมากรุกที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถจดจำและท่องบทกวีชั้นเยี่ยมของโลกได้ขึ้นใจ ทั้งยังเป็นนักสะสมหนังสือ “ทุกคนต่างมีทั้งดีและไม่ดีอยู่ในตัว แต่ควรจดจำแต่สิ่งดีๆ ของกันไว้ ทั้งไม่ควรตัดสินคนอื่น เพียงเพราะว่า เขาสกปรก น่าขยะแขยง ...” จอห์น เวย์น กล่าว
จอห์น เวย์น ป่วยด้วยโรคมะเร็งถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกที่ปอดในปี 1964 จนต้องสูญเสียปอดข้างซ้ายไป ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 11 มิ.ย. 1979 ขณะอายุ 72 ปีด้วยมะเร็งในช่องท้อง
วันนี้ จอห์น เวย์น ยังคงเป็นหนึ่งในนักแสดงยอดนิยมในใจผู้คน หนังของเขาขึ้นชั้นคลาสสิก ชื่อของเขาถูกนำมาเรียกท่าอากาศยานในแคลิฟอร์เนีย รูปของเขาปรากฏอยู่บนแสตมป์ ฯลฯ ... โลกนี้ไม่มีทางลืม จอห์น เวย์น


