‘มนุษย์สมปรารถนา ทุกสิ่งทุกอย่างได้จริง’
อ่านหนังสือมหายานมาหลายเล่ม เกิดความเพลินใจอย่างมาก บอกเลยว่า การศึกษาพระพุทธศาสนา
โดย ราช รามัญ FB./nopraman
อ่านหนังสือมหายานมาหลายเล่ม เกิดความเพลินใจอย่างมาก บอกเลยว่า การศึกษาพระพุทธศาสนา ถ้ามีโอกาสศึกษาอย่างรอบด้านไม่มีใจอคติ ย่อมจะได้ในส่วนที่ดีที่เราอาจไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยก็ย่อมได้ เพราะในความเป็นพุทธนั้นแต่ละคนต่างก็มีมุมมองแนวคิดที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่ประสบการณ์และความรู้ของตนเอง แต่มีคนรุ่นใหม่คนหนึ่งเข้าใจในเรื่องของหลักศาสนาแบบปรัชญาและระบบวิทยาศาสตร์ในมุมของมวลพลังงาน
วันก่อนได้คุยกับ กฤตย์พงศ์ ตุละ หรือที่ในวงการวิทยากร เรียกว่า ครูดวง ผู้ที่กำลังได้รับความสนใจในเรื่องของพลังงานดึงดูด เมื่อคุยกันแล้ว ทำให้ผมมองเห็นหลายมิติและมุมมองอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องของจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ สัญชาตญาณ ปรีชาญาณ และปัญญาญาณ เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะแยกกันได้ และมนุษย์สามารถนำเอาทั้ง 3 ลักษณะนี้มาฝึกฝนและทำงานได้จริง ครูดวงบอกว่า หลายคนที่มีชีวิตแบบงงๆ ครึ่งๆ กลางๆ เพราะไม่มีความเข้าใจโลก ไม่เข้าใจในสิ่งที่อยู่ในความคิดซึ่งอยู่ในรูปของพลังงาน
พระพุทธเจ้าเคยตรัสสอน...“มนุษย์ปรารถนาสิ่งใด ย่อมสำเร็จสิ่งนั้น”
ถามว่า ทำไมสำเร็จ...ครูดวงให้ความรู้ว่า พระพุทธเจ้าทรงรู้เรื่องนี้มาเนิ่นนาน และรู้โดยรอบด้วยครับ เพราะว่าในทางพฤติกรรม เมื่อเราปรารถนาอะไร เรามักจะย้ำนึกย้ำคิดในสิ่งนั้น นี่เป็นสิ่งแรกเป็นสิ่งที่สำคัญแต่คิดเพียงอย่างเดียวไม่พอ ต้องเดินเข้าไปหา และลงมือทำในสิ่งนั้นๆ ด้วย ทำอย่างตั้งใจจริง ทำอย่างไม่มีเงื่อนไข ทำอย่างชนิดที่เรียกได้ว่า ทำๆๆๆ ผลจึงสำเร็จ
แต่ทว่าเราคิดเพียงอย่างเดียว แล้วพึงหวังให้สำเร็จ โดยไม่ได้ลงมือทำมันยากเหลือเกิน ถ้าอ่านพระพุทธประวัติแบบมหายานจะรู้จักและได้สัมผัสพระพุทธเจ้าแบบมนุษย์ๆ แต่ถ้าอ่านแต่เถรวาทเราจะรู้จักแต่พระพุทธเจ้าที่เหนือในทุกสรรพสิ่งทั้งปวงในด้านอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เราจะเลือกศึกษาด้านไหน หรือจะศึกษาทั้งสองด้านเลยก็เป็นการดีไม่น้อยทีเดียว
ครูดวงยังย้ำว่า...เมื่อเราปรารถนาอะไร เราตั้งสัจอธิษฐานแบบพระพุทธเจ้า นั่นคือ การตั้งเป้าหมายแล้ว เมื่อมีเป้าหมายอยู่ในใจ นั่นแสดงว่าเรามีภาพแห่งความสำเร็จแล้วอยู่ในหัวใจของเรา และเมื่อเราลงมือทำ สักวันหนึ่งก็จะสำเร็จตามที่เรามีภาพจินตนาการนั้นเอง
ครูดวงทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดนตรีวงโยธวาทิต และเป็นที่ปรึกษาทางด้านธุรกิจด้วย แต่สิ่งที่ครูดวงมีไม่เหมือนใคร คือ แนวคิดของการใช้ชีวิต
“ผมไม่ใช่คนธรรมะแบบมุ่งเน้นตัดตรงสู่นิพพาน แต่ผมมุ่งเน้นให้คนมีความสุข มีความสำเร็จตามความฝันของตัวเขาเองที่เขาต้องการ ส่วนตัวผมก็สวดมนต์ ทำบุญไปตามหน้าที่และความงดงามอันเป็นประเพณีเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรไปในมุมที่สุดโต่ง ไม่ได้คิดอะไรไปในมุมที่มโนเกินงาม ทุกอย่างผมจะเน้นความเรียบง่ายแต่ทว่าสมดุล
ไม่ได้เน้นในเรื่องของพิธีกรรม ไม่ได้เน้นในเรื่องของการปฏิบัติตามรูปแบบเฉพาะกาลแต่อย่างไร ทุกอย่างที่ผมทำนั้นผมทำตามภาวะแนวคิดอันเป็นธรรมชาติตามความจริงครับ อะไรที่เรียบง่าย ผมโอเคมากๆ อะไรที่เยอะ บางครั้งผมก็รับยาก”
มีคนกระซิบผมมาบอกว่า ครูดวง คือ เจ้าพ่อแห่งกฎแรงดึงดูด...
“ขอเป็นผู้ที่พอมีความรู้ดีกว่า ถ้าเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ ต้องหาที่สิงสถิตอีก ศาสตร์นี้ผมสนใจมากและผมเชื่อว่ามีพลังงานอยู่จริง และเราก็อาศัยพลังงานแบบนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งในตัวของเราและในสกลโลกนั้นเอามารวมร่วมเข้าไว้ด้วยกัน ถ้าใครฝึกและทำได้นะ บอกได้เลยว่า ทุกอย่างสำเร็จ เพราะถ้าลงมือทำเพียงอย่างเดียว แบบไม่มีของเสริม ไม่มีพลังงานมาช่วย ระยะเวลาที่จะไปถึงจุดหมายอาจช้าไป
กฎแห่งแรงดึงดูด กับ กฎแห่งกรรม มองให้ดีจะเห็นช่องว่างระหว่างมิติที่มีเหมือนกัน คล้ายกันแต่ทว่าอาจจะต่างกันบ้าง...แต่มีอยู่จริง ผลจากการกระทำของเรานี่เองแหละ ที่ดึงดูดคนที่ดีๆ มาหาเรา มาพบ มาคบกับเราทั้งสิ้น คนบางคนสร้างเหตุแห่งการกระทำดีและมีแรงในการดึงดูดให้ผลของการกระทำนั้นออกมาในลักษณะที่ดีด้วย แต่บางคนกลับกัน สร้างเหตุแห่งการกระทำได้ดี แต่ไม่มีแรงกระตุ้นให้ผลของการสร้างเหตุนั้นให้ออกมาดี ผลก็ออกมาแบบแค่ผ่านๆ ไปได้เท่านั้นเอง”
นับว่าเป็นอีกมุมมองที่น่าคิดอย่างมาก คนรุ่นใหม่ในยุคนี้ มีความเชื่อในเรื่องของพลังงาน ที่รวมตัวเป็นมวลพลังแบบมวลสาร และพร้อมที่จะเคลื่อนตัวไปไหนมาไหนได้ เหมือนกับเรามองไปที่ท้องฟ้าแล้วเห็นฟ้าลอยอยู่นิ่งๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ท้องฟ้าไม่ได้ลอยนิ่งอย่างที่เราคิด ยังมีมวลพลังแห่งลมนั้นล่องลอยไปมาอยู่บนฟ้านั้น
เด็กรุ่นใหม่...จึงมีความชื่นชอบในพลังงานแห่งแรงดึงดูดค่อนข้างมาก ที่สำคัญมีการเรียนรู้เรื่องในลักษณะแบบเป็นเรื่องเป็นราว และมีหลายคนที่ทำได้จริงและสำเร็จเพราะการใช้กฎแบบนี้มานักต่อนัก เมื่อครูดวงชี้ทางแนะนำเคล็ดลับวิธีให้ทำ พลังงานที่เกี่ยวเนื่องกันย่อมวิ่งเข้าหากันเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ดีๆ ในชีวิตเสมอมา
คุณว่าจริงหรือไม่


