ดาวพฤหัสบดี อยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์
สัปดาห์นี้เป็นช่วงที่ดาวพฤหัสบดีผ่านตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์เมื่อมองจากโลก
โดย วรเชษฐ์ บุญปลอด
สัปดาห์นี้เป็นช่วงที่ดาวพฤหัสบดีผ่านตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์เมื่อมองจากโลก เป็นช่วงเวลาที่เราเห็นดาวพฤหัสบดีมีขนาดใหญ่ที่สุดและสว่างที่สุดในรอบปี เป็นวัตถุตามธรรมชาติที่สว่างเป็นอันดับที่ 3 บนท้องฟ้าเวลากลางคืน รองจากดวงจันทร์และดาวศุกร์ ดาวพฤหัสบดีอยู่บนท้องฟ้านานหลายชั่วโมงตลอดทั้งคืน นับตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตกจนถึงดวงอาทิตย์ขึ้น
ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่และมีมวลมากที่สุดในระบบสุริยะ เส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่าโลกประมาณ 11 เท่า ดาวพฤหัสบดีอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 5 โดยดาวพุธและดาวศุกร์อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลก ถัดออกไปคือดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ตามลำดับ ดาวพฤหัสบดีจึงถูกจัดเป็นดาวเคราะห์วงนอก ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่มีวงโคจรอยู่ไกลจากดวงอาทิตย์มากกว่าวงโคจรของโลก คาบการโคจรที่ยาวนานเกือบ 12 ปี ทำให้ดาวพฤหัสบดีเคลื่อนผ่านกลุ่มดาวจักรราศีประมาณปีละกลุ่ม แปลว่าในเมื่อปีนี้เราเห็นดาวพฤหัสบดีอยู่ในกลุ่มดาวคันชั่ง ปี 2562 ควรจะอยู่บริเวณกลุ่มดาวแมงป่อง-คนแบกงู ปี 2563 อยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนู เป็นต้น
สำหรับผู้สังเกตบนโลก ดาวเคราะห์วงนอกมีตำแหน่งบนฟ้าที่สำคัญเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ 4 ตำแหน่ง ได้แก่ ร่วมทิศกับดวงอาทิตย์ (ลองจิจูดฟ้าห่างกัน 0 องศา) ตั้งฉากกับดวงอาทิตย์โดยห่างไปทางทิศตะวันตกของดวงอาทิตย์ (ลองจิจูดฟ้าห่างกัน 90 องศา) ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ (ลองจิจูดฟ้าห่างกัน 180 องศา) และตั้งฉากกับดวงอาทิตย์โดยห่างไปทางทิศตะวันออกของดวงอาทิตย์ (ลองจิจูดฟ้าห่างกัน 90 องศา) โดยมีตำแหน่งบนฟ้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ปัจจัยหลักมาจากการเคลื่อนที่ของโลกรอบดวงอาทิตย์ ปัจจัยรองคือการเคลื่อนที่ของดาวพฤหัสบดี ซึ่งค่อนข้างช้าเพราะอยู่ไกลจากดวงอาทิตย์มากกว่าโลก
ที่ตำแหน่งร่วมทิศ ดาวเคราะห์จะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ จึงไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากโลก ที่ตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์จะขึ้นทางทิศตะวันออกเมื่อดวงอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตก อยู่สูงสุดบนฟ้าในเวลาประมาณเที่ยงคืน และดาวเคราะห์จะตกทางทิศตะวันตกเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก
สำหรับประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ในละติจูดต่ำใกล้เส้นศูนย์สูตร หากดาวเคราะห์ทำมุมตั้งฉากกับดวงอาทิตย์โดยห่างไปทางทิศตะวันตกของดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์จะขึ้นในเวลาประมาณเที่ยงคืนและอยู่สูงสุดบนฟ้าในเวลาเช้ามืด ขณะที่เมื่อดาวเคราะห์ทำมุมตั้งฉากกับดวงอาทิตย์โดยห่างไปทางทิศตะวันออกของดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์จะอยู่สูงสุดบนฟ้าในเวลาหัวค่ำ และตกในเวลาประมาณเที่ยงคืน
ปีนี้ดาวพฤหัสบดีผ่านตำแหน่งตั้งฉากกับดวงอาทิตย์โดยห่างไปทางทิศตะวันตกของดวงอาทิตย์เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2561 จากนั้นดาวพฤหัสบดีจะอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ในวันที่ 9 พ.ค. 2561 ขณะนั้นอยู่ห่างโลกประมาณ 658 ล้านกิโลเมตร วันที่ 7 ส.ค. 2561 ผ่านตำแหน่งตั้งฉากกับดวงอาทิตย์โดยห่างไปทางทิศตะวันออกของดวงอาทิตย์ มุมระหว่างดาวพฤหัสบดีกับดวงอาทิตย์จะลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งอยู่ร่วมทิศกับดวงอาทิตย์ในวันที่ 26 พ.ย. 2561 ขณะนั้นอยู่ห่างโลกประมาณ 950 ล้านกิโลเมตร ช่วงเดือน พ.ค.ถึงปลายเดือน พ.ย. 2561 จึงเป็นช่วงที่เราจะเห็นดาวพฤหัสบดีอยู่บนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำของทุกวัน
สิ่งที่นักดาราศาสตร์สมัครเล่นซึ่งมีกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็กสามารถสังเกตได้สำหรับดาวพฤหัสบดี คือพายุหมุนที่อยู่ในบรรยากาศของดาว พายุขนาดใหญ่ที่สุดบนดาวพฤหัสบดีคือพายุที่เรียกว่าจุดแดงใหญ่ (Great Red Spot) ที่เรียกเช่นนี้เนื่องจากมีสีแดง เห็นเป็นจุดแดงเมื่อดูด้วยกล้องโทรทรรศน์ มีหลักฐานบันทึกการเห็นพายุนี้ซึ่งดำรงอยู่มาแล้วนานกว่า 300 ปี จุดแดงใหญ่มีขนาดมโหฬารมากพอที่จะกลืนโลกได้ทั้งดวง แต่เราไม่ได้เห็นจุดแดงใหญ่ตลอดเวลาที่ส่องกล้องดู ขึ้นอยู่ว่าช่วงที่สังเกตเป็นช่วงที่ดาวพฤหัสบดีหันด้านที่มีจุดแดงใหญ่มาทางโลกหรือไม่
ดาวบริวารของดาวพฤหัสบดีก็เป็นสิ่งที่นักดาราศาสตร์สมัครเล่นสามารถสังเกตได้ กาลิเลโอใช้กล้องดูดาวกำลังขยายเพียง 30 เท่า ก็สามารถค้นพบดาวบริวารทั้ง 4 ดวง อันประกอบด้วย ไอโอ ยูโรปา แกนีมีด และคัลลิสโต ดาวบริวารทั้งสี่สว่างเพราะมีขนาดใหญ่ เคลื่อนที่เปลี่ยนตำแหน่งไปตามการโคจรรอบดาวพฤหัสบดี เป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าวัตถุท้องฟ้าไม่ได้โคจรรอบโลกอย่างที่สมัยโบราณเชื่อกัน
นอกจากดาวบริวารขนาดใหญ่ทั้งสี่ซึ่งมักเรียกรวมกันว่าดวงจันทร์ของกาลิเลโอ ดาวพฤหัสบดียังมีดาวบริวารอีกจำนวนมาก เมื่อรวมทั้งหมดถึงขณะนี้ยืนยันการค้นพบอย่างเป็นทางการไปแล้ว 69 ดวง บางดวงสามารถเห็นได้ด้วยกล้องขนาดใหญ่ หลายดวงค้นพบเมื่อยานอวกาศโคจรผ่านใกล้ดาวพฤหัสบดี
ดาวพฤหัสบดีมีรูปร่างเป็นทรงรีเนื่องจากหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็วด้วยคาบ 9 ชั่วโมง 55 นาที สิ่งที่เห็นได้ค่อนข้างชัดบนบรรยากาศของดาวพฤหัสบดีคือแถบเมฆหลายแถบซึ่งพาดอยู่ในแนวขนานกับเส้นศูนย์สูตร กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่มีกำลังแยกภาพสูงมีประสิทธิภาพมากพอที่จะเห็นพายุขนาดเล็กที่มักพบอยู่ระหว่างแถบเมฆ พายุเหล่านั้นมีการเคลื่อนที่และบางครั้งก็รวมเข้ากัน
การสังเกตดาวพฤหัสบดีในช่วงนี้ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกในเวลาหัวค่ำ ดาวพฤหัสบดีจะอยู่ใกล้ขอบฟ้า โดยเยื้องไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เล็กน้อย เมื่อเวลาผ่านไป ดาวพฤหัสบดีจะเคลื่อนสูงขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ อยู่สูงสุดในเวลาเที่ยงคืนโดยอยู่สูงบนท้องฟ้าด้านทิศใต้ หลังจากนั้นเคลื่อนต่ำลงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตกลับขอบฟ้าเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น


