posttoday

สัญญาณอันตราย ‘น้ำทะเลเปลี่ยนสี’

29 เมษายน 2561

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและสิ่งแวดลอม

 โดย ...ธเนศน์ นุ่นมัน

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ที่เกิดขึ้นและสร้างผลกระทบต่อทะเลบ่อยครั้งขึ้น เช่น ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า เจลลีฟิชบูม ซึ่งได้รับคำอธิบายว่าเกิดจากสภาพน้ำทะเลที่มีการปนเปื้อนน้ำเสียอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. สุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ออกมาแจ้งเตือนประชาชนที่ประกอบกิจกรรมการเกษตรและการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ให้ระมัดระวังปรากฏการณ์ “น้ำทะเลเปลี่ยนสี” ซึ่งพบบ่อยที่ จ.ระยอง ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. และที่ จ.ชลบุรี ช่วงเดือน พ.ค.-ก.ย.ของทุกปี

คพ.ยังอธิบายด้วยว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะทำให้แพลงก์ตอนพืช (สาหร่ายขนาดเล็ก) เพิ่มจำนวนมหาศาลบริเวณผิวน้ำ ทำให้แสงแดดส่องไปสู่ใต้น้ำได้น้อยลง เมื่อแพลงก์ตอนพืชตายลงและถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนในการย่อยสลาย ก็ทำให้ปริมาณออกซิเจนน้อยลงตามไปด้วย จึงเป็นสาเหตุให้น้ำเน่าเสีย

น้ำทะเลเปลี่ยนสีนั้นเกิดจากน้ำเสียเพราะกิจกรรมของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม มีแสงแดดและอุณหภูมิของน้ำสูง เรียกว่า "แพลงก์ตอนบลูม" ส่วนใหญ่ที่พบในประเทศไทย คือ น้ำทะเลมักเปลี่ยนเป็นสีเขียวและสีน้ำตาลแดง ชาวประมงเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "ขี้ปลาวาฬ"

สัตว์น้ำบริเวณดังกล่าวก็จะเป็นผู้รับเคราะห์ในลำดับถัดไป และในที่สุดก็จะกระทบมาถึงคน กระทบกับการท่องเที่ยว และการประมง ขี้ปลาวาฬนั้นอาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของสัตว์น้ำบางชนิด เช่น เป็นอุปสรรคกีดขวางทางอพยพของปลาทู ทำให้ฝูงปลาต้องเดินทางกลับลงใต้เร็วกว่าปกติ

นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลกระทบทางอ้อมกับคน เช่น หากแพลงก์ตอนมีพิษในบริเวณที่เกิดสภาวะน้ำเปลี่ยนสี และสัตว์น้ำอย่างหอยกินแพลงก์ตอนเหล่านั้นเข้าไป และพิษจะถูกสะสมไว้ โดยไม่เป็นอันตรายกับหอย แต่หากคนบริโภคหอยที่สะสมพิษจากแพลงก์ตอนเข้าไป พิษก็อาจจะแสดงอาการ พิษบางชนิดอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

จึงพบว่า เมื่อเกิดสภาวะน้ำเปลี่ยนสีขึ้น ก็จะมีคำเตือนให้หลีกเลี่ยงการบริโภคหอยหรือสัตว์น้ำเคลื่อนไหวช้าจากบริเวณบริเวณดังกล่าวตามมาอีกด้วย

ช่วงต้นเดือน พ.ย.ของปี 2560 ชาวประมงในประเทศเอลซัลวาดอร์พบเต่าทะเลตายปริศนากว่า 400 ตัว บริเวณนอกชายฝั่ง Jiquilisco ห่างจากกรุงซานซัลวาดอร์ประมาณ 114 กิโลเมตร โดยสันนิษฐานอาจได้รับสารพิษเจือปนอยู่ในน้ำทะเลระดับสูง

กระทรวงสิ่งแวดล้อมของเอลซัลวาดอร์ ระบุว่า ไม่ทราบสาเหตุการตายที่ชัดเจน แต่มีเจ้าหน้าที่รัฐออกมาบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคล้ายกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดในช่วงเดือน ก.ย.และเดือน ต.ค.ของปี 2556 ซึ่งพบเต่าทะเลจำนวนมากตายบริเวณชายฝั่งของกรุงซานซัลวาดอร์

ในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุการตายอาจเกิดจากปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ สารพิษที่ปนอยู่ในน้ำกระจายไปสะสมอยู่ในสาหร่ายทะเล เมื่อเต่าทะเลกินสาหร่ายเข้าไป จึงส่งผลให้ระบบประสาทถูกทำลายลง มีรายงานด้วยว่า ในปี 2549 และปี 2553 เคยมีเต่าทะเลกว่า 600 ตัวตายด้วยสาเหตุนี้

ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งแปซิฟิกยังได้ถูกนำไปเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในภาพรวม อย่างปรากฏการณ์เอลนินโญอีกด้วย แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังมีการถกเถียงกันว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ รวมถึงยังคงหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬจึงเกิดขึ้นบ่อย และลามไปในหลายพื้นที่

ข่าวล่าสุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสม หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์–พลังงานกดดัน S&P 500