ช่างตัดผม... ฝึกจิตน้อมธรรมนำทางชีวิต

โดย ปราชญ์แห่งธรรม โดย ราช รามัญ www.Facebook.com /nopraj

เส้นทางชีวิตของแต่ละคนนั้น เปรียบเหมือนมีแนวทางมาอยู่แล้ว ตั้งแต่เกิดราวกับมีผู้ลิขิตขีดเขียนเอาไว้แต่ปางไหน แต่บางคนอาจซัดค้านว่าทุกสิ่งอย่างของชีวิตนั้นล้วนก่อกำเนิดเกิดขึ้นเพราะกรรม หามีใครลิขิตไม่

แต่สำหรับบุคคลที่ผมจะพูดคุยด้วยวันนี้ เขาไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะเขาเชื่อมั่นว่ากรรมเป็นคำสั้นๆ ที่ลิขิตให้เราเป็นไปตามที่เราต้องการ แต่ไม่ใช่กรรมแบบที่คนทั่วไประลึกถึง แต่เป็นกรรมจากการกระทำของเราเองในปัจจุบันนี้มีส่วนร่วมอยู่อย่างมากด้วย

คุณธันยวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เจ้าของร้านแจ๊ซซิ่ง แชปเตอร์ทู ย่านอ่อนนุช  เป็นช่างตัดผมที่เราดูแล้วก็ธรรมดาๆ แต่ความเป็นจริงฝีมือไม่ธรรมดา มีรสนิยมทำตัวเรียบง่าย สมถะ และธรรมดามากๆ แต่เบื้องหลังของความธรรมดา คุณธันยวัฒน์ เคยสนองงานรับใช้ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี  ด้วยเป็นช่างตัดพระเกศา

“เป็นคนเรียบง่ายครับ...ไม่ค่อยยุ่งยาก อยู่ง่ายๆ เรียบๆ  แต่สิ่งที่มุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่สุด คือ ปรารถนาซึ่งความสุขอันมีหนทางแนวจิตวิญญาณแห่งธรรมเป็นที่ตั้ง เพราะคนเราเกิดมาแล้ว ตั้งอยู่ สักวันหนึ่งก็ต้องดับไปตลอดกาล เป็นอย่างนี้เหมือนกันทุกคนทุกท่าน ไม่มีใครคนไหนรอดพ้นสัจจะความจริงเรื่องนี้ไปได้ แต่ที่พูดนี่ก็ไม่ได้หมายความว่าปลง แล้วไม่ใช้ชีวิตอยู่กับทางโลกนะครับ”

เป็นประโยคแรกที่ได้พูดคุยกัน... เพราะด้วยบุคลิกคุณธันยวัฒน์มักจะพูดค่อนข้างน้อย คือ สันติและสงบในใจตลอดเวลา เพราะงานช่างตัดผมที่มีฝีมือระดับพระกาฬแบบนี้ สมาธิจะต้องมีมาเป็นอันดับหนึ่งทีเดียว

“ผมก็เหมือนคนไทยทั่วไป ไหว้พระสวดมนต์ แต่ที่สนใจอย่างมาก คือ เรื่องของพุทธศาสนาแบบมหายาน ใน วัชรยาน เพราะดูเหมือนว่าจะมีความเป็นพิเศษหลากหลายรูปแบบที่ทำให้เราสงบนิ่งได้มาก และทำให้เราตระหนักรู้ตัวตนได้เร็ว อีกทั้งรูปแบบการสอนก็ไม่ได้เป็นไปในลักษณะของการกดอารมณ์ หรือข่มอารมณ์อย่างเดินทางสายกลาง แบบที่ทรมานตนในเรื่องของเวทนา”

อันนี้เห็นด้วยกับคุณธันยวัฒน์เลยครับ...การปฏิบัติธรรมแล้วชอบสอนว่าต้องนั่งให้ผ่านเวทนา คือ อาการเจ็บปวดเมื่อยขา ในทางวิทยาศาสตร์บอกว่า นานไปเส้นเลือดจะขอดเดินไม่สะดวก สุดท้ายนั่งรถเข็น อย่างที่เราเห็นพระหลวงปู่หลวงพ่อบางรูป ที่นั่งสมาธิมากเกินไป มากเกินความจำเป็น พอวัยชราขาไม่มีแรงต้องนั่งรถเข็น ผิดกับคนธรรมดาบางคนที่อายุ  70 ปี ยังออกรอบตีกอล์ฟได้ก็มี

“ผมจะสวดมนต์ นั่งภาวนาพอสมเหตุสมผลที่สังขารร่างกายรับได้ เพื่อให้จิตนิ่ง มีกำลัง บางคราวเรื่องของฌานก็มาเอง บางคราวก็ได้สมาธิแบบขั้นต้น ก็ไม่ได้ไปใส่ใจ เพราะที่สุขของทุกข์ทั้งหลายไม่ได้ต้องการสมาธิมากมายเสมอไป ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ปัญญาของคนแต่ละคนเท่านั้น

สำหรับผมนิยมสมาธิพอสมควร...ไม่มากไป ไม่น้อยไป ที่เหลือเราน้อมพิจารณาธรรมเราจะเข้าใจเลยว่าตรงไหนที่เหมาะสมกับเรา การศึกษาธรรมไม่มีอะไรถูกหรือผิด เพียงแต่ว่าสิ่งไหน วิธีการใดที่เราทำไปแล้วใจเราสงบระงับเยือกเย็นเป็นสมาธิดี วิธีแบบนั้นก็เหมาะกับเราครับ

เลิกเถอะที่บางครั้งเราไปเข้าใจกันเอาเองว่าหลวงพ่อนั้นดี หลวงพ่อนี่ไม่ดี หลวงพ่อนั้นสอนถูก หลวงพ่อนั้นสอนผิด  ผมมองว่าทุกหลวงพ่อท่านสอนถูกหมด สอนตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเหมือนกันหมด เพียงแต่ว่า ท่านนั้นจะหยิบส่วนไหนมาเน้น มาย้ำ ให้เป็นกุศโลบายเพื่อทำให้จิตใจเข้าถึงความสงบของธรรมนั้น เคยเจอบางคนนำเอาเรื่องของครูอาจารย์มาพูดข่มกันอวดกัน ซึ่งได้ยินแล้วก็พยายามฟังแต่ไม่ได้แสดงออกอะไร ก็ปล่อยเขาไป ในทัศนคติของเขา อย่างที่พระท่านเคยสอนว่าบางครั้งการที่ให้หูทำงานให้มาก ย่อมกำไรกว่าใช้ปากพูดออกไปมาก”

เป็นมุมมองที่กว้างดีมาก...เพราะวันนี้อาการที่ลูกศิษย์ยึดติดหลวงพ่อครูอาจารย์มีเยอะ

“ศึกษาแนววัชรยานผมก็รับได้ แนวแบบบ้านเราผมก็รับได้ พุทธทุกสายดีหมด ไม่ว่าใครก็ตามนะครับในโลกนี้ถ้าใช้ธรรมนำชีวิต จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองจริงๆ  ชีวิตผมนี่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผมจะยึดมั่นไว้ตลอดจนสิ้นลมหายใจ  คนไทยโชคดีมาก...ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ทุกๆ พระองค์ทรงเป็นผู้รักษาธรรมอย่างเคร่งครัด คำว่า ธรรม หมายถึง ความยุติธรรม ความชอบธรรม ธรรมอันยิ่งที่ประเสริฐนั้นก็ได้ 

เคยอ่านพบจากหนังสือธรรมะ เขาบอกว่า...การเกิดมาเป็นมนุษย์นี้แสนยากและยิ่งยากไปอีกที่จะเกิดในแผ่นดินที่เป็นพุทธศาสนา แต่สำหรับผมอยากจะเพิ่มไปอีกว่าการเกิดเป็นมนุษย์นี่แสนยาก ยิ่งยากขึ้นไปอีกเมื่อเกิดมาพบพระพุทธศาสนา และยากขึ้นไปยิ่งๆ อีก ที่เราได้เกิดบนแผ่นดินสยามหรือแผ่นดินไทย”

นับว่าวันนี้ได้หลากหลายมุมมองเลยทีเดียว...สำหรับการสนทนาธรรมกับคุณธันยวัฒน์ และสิ่งที่เล่ามานั้นน่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่คนอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน