posttoday

อัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์ เสิร์ฟความสุขจากห้องครัว

13 เมษายน 2561

ถึงวันนี้จะสวมบทบาทเป็นทั้งเชฟและเจ้าของร้านอาหารเต็มตัวแล้ว แต่ป๋วย-อัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์

โดย พุสดี สิริวัชระเมตตา, จุฑามาศ นิจประพันธ์ ภาพ : ทวีชัย ธวัชปกรณ์

ถึงวันนี้จะสวมบทบาทเป็นทั้งเชฟและเจ้าของร้านอาหารเต็มตัวแล้ว แต่ป๋วย-อัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์ สาวสวยที่มีพลังบวกอยู่ล้นตัว จนบางครั้งยังแผ่ขยายมาปกคลุมคนรอบข้างได้อย่างน่าทึ่ง กลับถ่อมตัว ไม่ขอเรียกตัวเองว่าเป็นเชฟ ขอเป็นแค่คนที่รักการทำอาหารเท่านั้น

“ป๋วยไม่กล้ายกตัวเองว่าเป็นเชฟ ป๋วยคิดว่าอาชีพเชฟเป็นอาชีพที่เราต้องให้เกียรติ ไม่ใช่ว่าใครทำอาหารได้ก็เรียกตัวเองว่าเชฟหมด ป๋วยคิดว่าการเป็นเชฟต้องผ่านการฝึกฝน สั่งสมประสบการณ์มาเยอะมากกว่าจะได้ชื่อว่าเป็นเชฟ” ป๋วยกล่าวอย่างถ่อมตัวตั้งแต่แรกเจอ ก่อนจะบอกเล่าถึงเส้นทางชีวิตของเด็กสาวที่หลงรักในการทำอาหารเข้าอย่างจัง หลังจากได้ดูซีรี่ส์เรื่องดังอย่าง “แดจังกึม”

อัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์  เสิร์ฟความสุขจากห้องครัว

“สมัยเรียน ม.ปลาย ได้มีโอกาสดูซีรี่ส์เกาหลีเรื่องแดจังกึม ดูแล้วประทับใจมาก โดยเฉพาะความสามารถของนางเอกในเรื่องที่สามารถนำพืชผักที่ปลูกมาทำเป็นยาได้ ภาพที่เห็นนั้นจุดประกายให้ป๋วยอยากรู้ว่า ถ้าเราจะทำอย่างนั้นได้บ้าง ต้องเรียนอะไร”

เพื่อคลายคำถามในใจ ป๋วยไม่รอช้าใช้ประโยชน์ของโลกไร้พรมแดนใบนี้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเข้ากูเกิลเพื่อตามหาจนเจอว่า ถ้าอยากจะเป็นเหมือนแดจังกึมในยุคนี้ต้องทำอย่างไร สุดท้ายเธอได้คำตอบว่าสาขาที่อยากเรียนนั้นมีอยู่จริง แต่ไม่มีหลักสูตรในไทย

“ตอนนั้นหลักสูตรที่ใกล้เคียงที่สุด คือ นักกำหนดอาหาร พอเจอปุ๊บ ป๋วยก็ตัดสินใจสมัครเรียนเลย ป๋วยไปเรียนที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งการไปเรียนที่นี่ นอกจากจะเติมเต็มความฝัน ยังทำให้ป๋วยได้เรียนรู้การทำอาหาร เพราะตอนไปเรียน ถ้าจะไปซื้ออาหารกินทุกมื้อก็เปลือง ป๋วยกับรูมเมทเลยหาวิธีประหยัดด้วยการซื้ออาหารมาทำกินกันเอง ปรากฏว่าทำออกมาแล้วกินได้ (หัวเราะ) รสชาติไม่แย่นะ รูมเมทก็บอกว่ากินได้ เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้ได้เข้าครัวทำอาหารและเริ่มชอบมาตั้งแต่ตอนนั้น”

อัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์  เสิร์ฟความสุขจากห้องครัว

หลังจากเรียนจบปริญญาตรี สาวสวย เจ้าของรอยยิ้มสดใสราวกับโลกทั้งใบเป็นสีชมพู เลือกเรียนต่อปริญญาโทในสายเดิมที่มหาวิทยาลัยทัฟส์ ที่อังกฤษ พอเรียนจบ ก็ไปลงเรียนที่แนเชอรัล กูร์เมต์ อินสติติวท์ ซึ่งเป็นสถาบันสอนทำอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะเธออยากทำอาหารเพื่อสุขภาพที่รสชาติอร่อย แถมหน้าตาอาหารยังออกมาดูดีไม่แพ้อาหารทั่วไป

“ป๋วยเรียนที่นี่ 6 เดือน พร้อมกับไปฝึกงานที่ร้านอาหารอีก 2 แห่ง คือ ร้านเดิร์ท แคนดี ซึ่งนำอาหารมังสวิรัติมารังสรรค์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์สุดๆ อีกร้านคือ แอนนิสา เป็นร้านมิชลิน 1 ดาวซึ่งตอนนี้ปิดไปแล้ว พอเรียนจบป๋วยก็กลับมาทำงานเป็นนักโภชนาการที่โรงพยาบาลเทพธารินทร์ แต่ทำอยู่ 1 ปี ก็รู้สึกยังไม่ใช่ทาง จึงตัดสินใจลาออก”

อัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์  เสิร์ฟความสุขจากห้องครัว

จากนั้น ป๋วยลองเปลี่ยนแนวไปสู่วงการนักเขียน เธอเริ่มต้นด้วยการไปทำงานเป็นคอลัมนิสต์อยู่ที่นิตยสารด้านอาหารฉบับหนึ่ง แต่ทำได้ 6 เดือนก็ตัดสินใจลาออกอีกครั้ง เพื่อมาทำตามความฝันของตัวเองที่อยากจะเป็นเจ้าของคาเฟ่เล็กๆ

“สมัยอยู่นิวยอร์ก เวลาเห็นร้านกาแฟ ร้านขนมน่ารักๆ ป๋วยก็คิดว่าอยากจะมีร้านเล็กๆ เป็นของตัวเองบ้าง จนวันหนึ่งโอกาสมาถึง ป๋วยก็คว้าไว้” ป๋วยบอกเล่าด้วยแววตาเป็นประกายถึงที่มาของ ลิตเติ้ล ซันไชน์ ( Little Sunshine) คาเฟ่เล็กๆ บรรยากาศชวนนั่ง ที่เธอถ่ายทอดทุกรายละเอียดด้วยความตั้งใจ “ป๋วยใช้เวลาคิดแค่คืนเดียวก็ตอบตกลงว่าจะทำคาเฟ่ที่นี่ (ยิ้ม) ตกลงทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำอาหารแนวไหนขาย รู้แต่ว่าอยากทำ หลังจากนั้นก็ไปยื่นใบลาออกจากที่ทำงานเลย เพราะเวลาที่เราตั้งใจทำอะไรแล้วเราเต็มที่ อยากโฟกัสกับธุรกิจตรงนี้”

อย่างไรก็ตาม ป๋วยยอมรับว่า ถึงจะรักในศาสตร์ของการทำอาหาร แต่พอต้องมาสวมหมวกเจ้าของร้านอาหารจริงๆ ทุกอย่างกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด

อัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์  เสิร์ฟความสุขจากห้องครัว

“พอมาเปิดร้านจริงๆ รู้เลยว่า หัวใจหลักที่จะทำให้ร้านไปได้ ไม่ใช่แค่ทำอาหารอร่อย แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องของธุรกิจ เราต้องคิดทุกอย่างให้รอบด้านว่าทำอย่างไรร้านถึงจะไปได้ จากแต่ก่อนเป็นคนที่ไม่ค่อยคิดอะไร พอมาทำร้านกลายเป็นต้องคิดตลอด (หัวเราะ) จากที่เป็นคนไม่เครียดก็เริ่มเครียด ช่วงแรกร้องไห้บ่อยมาก ไม่ใช่กลัวร้านไปไม่รอดนะคะ แต่กลัวว่าอาหารที่ทำออกมาจะไม่อร่อย ไม่ถูกปากลูกค้า” ป๋วยบอกเล่าอย่างอารมณ์ดี 

ทุกวันนี้ ป๋วยนิยามตัวเองว่าเป็น โฮมกุ๊ก (Home Cook) ซึ่งหมายถึงคนที่รักในการทำอาหาร  แต่เธออาจจะพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่ได้มีโอกาสเปิดร้านอาหารเป็นของตนเอง

“ความสุขของป๋วย คือ ทุกครั้งที่เดินออกมาจากครัวแล้ว เห็นว่าลูกค้าชอบอาหารที่เราทำ บางคนถึงกับถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงอินสตาแกรม แคปชั่นว่าอาหารจานนี้อร่อยมาก ไม่เคยกินมาก่อนเลย หรือเวลาได้ยินที่ลูกค้าต่างชาติมาที่ร้านแล้วบอกว่านี่เป็นร้านที่ดีที่สุดเท่าที่เคยไปมา คำพูดเหล่านี้ คือ พลังที่ทำให้ป๋วยมีความสุข และยิ้มได้ทุกวัน” สาวสวยกล่าวทิ้งท้าย ก่อนโปรยยิ้มหวานซึ่งเหมือนเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวไปแล้ว

ข่าวล่าสุด

อีลอน มัสก์ สร้างสถิติเป็นคนแรกของโลกที่รวยเกิน 700,000 ล้านดอลลาร์