posttoday

สุสานโจโฉ อลเวง อลวน (1)

01 เมษายน 2561

เมื่อไม่นานมานี้ (26 มี.ค. 2018) มีข่าวยืนยันการค้นพบสุสานของโจโฉที่เมืองอันหยาง มณฑลเหอเป่ย

เมื่อไม่นานมานี้ (26 มี.ค. 2018) มีข่าวยืนยันการค้นพบสุสานของโจโฉที่เมืองอันหยาง มณฑลเหอเป่ย แต่ที่น่าสงสัยก็คือ ดูเหมือนข่าวนี้จะเคยมีมาแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้เกือบ 10 ปี (ปลายปี 2009)ทำเอาบรรดาผู้ติดตามสามก๊กในไทยต้องสงสัย จะประกาศว่ายืนยันการค้นพบทำไมสองรอบ...กับสุสานเดิม

เกร็ดเรื่องโจโฉกับสุสานเป็นเรื่องสนุก จึงขอเริ่มตั้งแต่โจโฉถูกกล่าวหาว่าเป็นบิดาแห่ง Tomb Raider (โจรปล้นสุสาน)

หากพูดอย่างเคร่งครัดก็บอกได้ว่าโจโฉไม่ใช่พ่อของ Lara Croftและก็ไม่ใช่คนริเริ่มปล้นสุสานเป็นคนแรก แต่ผู้คนยัดเยียดตำแหน่งนี้ให้เขา เพราะโจโฉเป็นผู้นำคนสำคัญที่ชาวบ้านลือกันว่าเคยจัดตั้งหน่วยปล้นสุสานเชื้อพระวงศ์ฮั่น

ว่ากันว่า เมื่อโจโฉเริ่มตั้งกองกำลังชิงอำนาจในช่วงเริ่มกลียุค โจโฉมีกองกำลังนับแสน แม้โจโฉเป็นลูกหลานคนใหญ่คนโต แต่ก็ใช่ว่าจะมีฐานะเลี้ยงกองทหารขนาดนี้ได้ จึงเป็นคำถามว่าได้ท่อน้ำเลี้ยงมาจากไหน คนที่ตอบได้รวดเร็วทันใจที่สุดคือ อ้วนเสี้ยว-คู่ปรับคนสำคัญคนแรกของโจโฉ

คำตอบของอ้วนเสี้ยวนี้อยู่ในประกาศที่เขาให้ตันหลิมเขียนประณามโจโฉ นอกจากด่าว่าโจโฉโฉดชั่วหลายประการ ลามปามไปถึงบุพการี ยังมีข้อหาที่โจโฉตั้งหน่วยปล้นสุสานเชื้อพระวงศ์ฮั่น

ซึ่งหน่วยปล้นสุสานนี้เองที่นำสมบัติในสุสาน มาหล่อเลี้ยงกองทัพของโจโฉ

แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีมูล หนึ่งเพราะออกมาจากเอกสารฝ่ายอ้วนเสี้ยวซึ่งมีจุดประสงค์ดิสเครดิตชัดเจน และสองคือหากมีมูลจริงป่านนี้ซุนกวนกับเล่าปี่คงเอามาพรรณนาใหญ่โต แถมฮ่องเต้ย่อมไม่สามารถทนพฤติกรรมขนาดนี้ได้ โดยเฉพาะในยุคที่การทำลายสุสานบรรพบุรุษถือเป็นการกระทำที่แสดงออกถึงความอาฆาตมาดร้ายอย่างรุนแรง

ซึ่งสถานการณ์ช่วงนั้น โจโฉย่อมไม่ควรแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อฮ่องเต้ฮั่น แต่อ้วนเสี้ยวต่างหากที่แสดงความอาฆาตโจโฉอย่างเต็มที่

แท้จริงท่อน้ำเลี้ยงของโจโฉเมื่อเริ่มตั้งตัวมาจากเศรษฐีท้องถิ่นคนหนึ่ง และจากวิสัยทัศน์ของโจโฉที่รู้ว่าวิกฤตบ้านเมืองจะยืดเยื้อจึงเร่งสร้างระบบให้กองทหารสามารถเพาะปลูกทำนาเพิ่มเสบียงให้กองทัพ

แม้ในยุคนั้นไม่มีใครถือคำประณามของอ้วนเสี้ยวเป็นจริงจัง แต่ข้อหา “บิดาแห่ง Tomb Raider” กลับวกมาหลอกหลอนโจโฉในยุคต่อๆ  มา

ถึงไม่มีหลักฐานว่าโจโฉทำ แต่ฝ่ายที่เชื่อก็แย้งว่าไม่มีหลักฐานว่าโจโฉบริสุทธิ์ พร้อมทั้งเติมแต่งรายละเอียดข้อสงสัยเสียสนุกตามธรรมชาติคนที่ชอบข่าวซุบซิบ

เรื่องของโจโฉกับสุสานยังไม่หมด แถมโยงกับเรื่องแรกอย่างแนบเนียน

ใครๆ ก็รู้ว่า โจโฉคือจอมเจ้าเล่ห์ขี้ระแวง เมื่อโจโฉใกล้ตายได้สั่งโจผีลูกชายผู้สืบตำแหน่งว่าในพิธีศพของตน ให้จัดคนแบกโลงศพไม้72 โลงแยกย้ายออกจากเมืองไปฝังโดยพร้อมเพรียง สุสานทั้งหมดให้ทำเป็นเนินขึ้นมา 72 แห่ง เพื่อพรางตาไม่ให้รู้ว่าสุสานข้าอยู่หนใด

น่าเห็นใจโจผียิ่งนัก มิใช่แค่เรื่องงบประมาณสร้างสุสาน แต่น่าเห็นใจที่ทุกปีในวันเช็งเม้ง โจผีคงยุ่งยากวุ่นวาย

โชคดีของโจผีที่เรื่องข้างต้นเป็นแค่เรื่องเล่า ซึ่งมีต้นกำเนิดเอาเมื่อสมัยราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเป็นยุคสมัยที่นักเล่านิทานเริ่มเติมแต่งบุคลิกภาพของโจโฉให้เป็นนักปกครองจอมเจ้าเล่ห์ตัวร้ายอย่างเข้มข้น

แต่เรื่องเล่าที่ทำให้คนเชื่อได้มันต้องมีเค้าลางอยู่นิดๆ เรื่องเนินดินที่ว่าก็เช่นกัน เนินดินที่ว่ามีอยู่จริงที่มณฑลเหอเป่ย อำเภอฉือ (&&0913;&>1439;)ซึ่งเนินดินจำนวนมากที่เห็นก็เป็นสุสานจริงๆ

เรื่องโจโฉมีสุสานปลอม 72 แห่ง จึงเป็นเรื่องที่มีหลักฐานเป็นเนินอยู่คาตา และเป็นเรื่องเล่าคาใจผู้คนตลอดมา

แต่พอมาถึงช่วงปี 2007 จีนทำโครงการชลประทานผันน้ำจากแดนใต้สู่แดนเหนือ จำเป็นต้องขุดผ่านแถบเนินสุสานที่ว่า (ปกติทางการจีนจะไม่เปิดสุสานโดยไม่จำเป็น ยกเว้นว่าจะต้องทำถนน ทางน้ำ หรือโดนสุสานโดนปล้นจนเสียหาย) จึงมีการขุดค้นสุสานทั้งหมดขึ้นมาวิจัย และพบว่าล้วนเป็นกลุ่มสุสานใหญ่ในยุคราชวงศ์เว่ยตะวันออกและฉีเหนือ ซึ่งอยู่ในยุคเหนือใต้หลังยุคสามก๊กไม่นานโดยมีทั้งหมด 134 สุสาน ไม่ใช่แค่ 72!

เรื่องที่ลือกันว่าโจโฉมีหลุมศพ 72 หลุม จึงควรจะหมดไป แต่ทำอย่างไรได้ เพราะหากยังไม่พบสุสานโจโฉโดยแท้จริง ก็ย่อมมีคนยินดีเชื่อตำนานเรื่องนี้อยู่

และมีคนเชื่อไม่น้อยเสียด้วย เพราะเชื่อเรื่องสนุก ย่อมถึงใจกว่าเชื่อเรื่องมีหลักฐาน

อันที่จริงหากสืบค้นเรื่องสุสานของโจโฉตามเอกสารประวัติศาสตร์ของทางการ กลับได้อารมณ์ตรงกันข้าม คำสั่งเสียเรื่องสุสานของโจโฉนั้นเรียบง่าย บ้านๆ แถมยังมีมุมให้ซึ้งใจ

ในช่วงโจโฉมีชีวิต เคยเขียนถึงการเลือกสุสานของตนใน “คำสั่งลา”(&&2456;&>0196;) ว่าพิธีศพของตนให้ฝังตนไว้ในสุสาน ซึ่ง “สร้างในที่ซึ่งไร้ประโยชน์ (ทางการเพาะปลูก) ให้ฝังแบบสมถะ (ไม่ต้องฝังทรัพย์สินสิ่งของลงตามไปเยอะแยะ) ...ตรงด้านตะวันตกของศาลซีเหมินเป้า ใช้เนินเขาเป็นสุสาน ไม่ต้องพูนดิน ไม่ต้องปลูกต้นไม้”

มองโจโฉในแง่ดีคือ ไม่ต้องการเบียดเบียนที่ดินเพาะปลูก ไม่ต้องการให้หรูหราฟุ่มเฟือย ไม่ต้องลงทุนลงแรงมาตกแต่งสุสาน ไม่ต้องสิ้นเปลืองแรงงานหรือหาดินมาถม (ก็ใช้เนินเขานี่แหละทำเป็นเนินดิน) ซึ่งต้องยอมรับว่ามีผู้นำในประวัติศาสตร์จีนไม่กี่คนที่สั่งลดระดับความยิ่งใหญ่หลังความตายเช่นนี้

สิ่งน่าสนใจอีกเรื่องคือศาล “ซีเหมินเป้า” ซีเหมินเป้า คือ นักปกครองยุคจ้านกว๋อ ได้ชื่อว่าล้มล้างความงมงายเรื่องพ่อมดหมอผีของชาวบ้าน พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน เป็นบุคคลที่โจโฉให้ความยกย่อง ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่เมื่อโจโฉพูดถึงตำแหน่งสุสานของตนทีไร ก็เอาศาลซีเหมินเป้ามาเป็นจุดอ้างอิงว่าสุสานของตนอยู่ใกล้ศาลซีเหมินเป้า

แต่หากมองโจโฉในแง่ร้ายก็บอกได้ว่าโจโฉพยายามทำให้สุสานตนเองไม่เตะตา (ใช้ภูเขาเดิม) หายาก (ไม่ต้องตกแต่ง) ไม่มีค่าควรคู่แก่การปล้น (สมถะ) เพราะมีปมที่ตนเองสร้างศัตรูไว้เยอะ และเคยปล้นสุสานของราชวงศ์ฮั่นมาก่อน จึงกลัวคนอื่นมาปล้นสุสานเช่นกัน และโจโฉก็ยกย่องซีเหมินเป้าผู้ไม่งมงาย เลยกล้าปล้นสุสานราชวงศ์ฮั่น

แน่ะ! ก็บอกแล้วไงว่าเรื่องปล้นสุสานไม่มีมูล ก็ยังโยงกันอยู่ได้

ขอเล่าแทรกว่าผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์จีนอีกคนที่โดนข้อหาปกปิดที่ตั้งสุสานคือ เจงกิสข่าน ว่ากันว่าเจงกิสข่านสั่งให้ฝังร่างตนเองไว้ในทุ่งหญ้าแล้วให้กองทัพม้าเหยียบย่ำไปจนไม่ให้ใครรู้ว่าร่างของตนฝังไว้ที่ไหน

ทั้งคู่สร้างศัตรูไว้เยอะ จึงน่าเชื่อถือว่าต้องตั้งใจปกปิดสุสานของตนแน่ๆ... เป็นความคิดที่เข้าใจได้

แต่ความตั้งใจจะให้สุสานของตนเรียบง่ายสมถะ จริงใจของโจโฉก็ปรากฏเป็นหลักฐานในเอกสารประวัติศาสตร์ร่วมสมัยนั้นอีกมากมาย

ในบทไว้อาลัย (&&5796;&>5991;) ที่โจสิด (ลูกชายโจโฉที่มีความสามารถทางวรรณกรรมมากที่สุด) เขียนบรรยายพิธีศพของโจโฉไว้ว่า

“เมื่อนำร่างบรรจุโลง ท่านยังสวมใส่เสื้อปุปะที่ใช้ประจำเมื่อครามีชีวิต ตราประทับประจำตัวท่านก็มิได้นำเข้าสุสานไปด้วย เพียงแต่นำเชือกไหมที่เคยผูกตราใส่ลงในโลงไว้เป็นสัญลักษณ์ ของที่ร่วมฝังไม่มีเครื่องเงินเครื่องทอง มีเพียงแต่เครื่องดินเผา”

รายละเอียดความเรียบง่ายของพิธีศพที่โจสิดอธิบาย อาจพูดให้ตื่นเต้นน่าติดตามได้ว่า เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เป็นเสมือนระเบิดเวลา ทำให้การขุดค้นสุสานโจโฉกลายเป็นเรื่องวุ่นวายในอีก 1,800 ปีถัดมา แต่ด้วยข้อจำกัดทางเนื้อที่ จึงขออนุญาตเชิญทุกท่านรออ่านในตอนต่อไป...

ข่าวล่าสุด

ตำรวจไซเบอร์-ทหาร ถกเข้มชายแดนสระแก้ว เตรียมรับคนไทยจากกัมพูชากลับบ้าน!