posttoday

รบแบบเจิงกว๋อฟาน ตั้งค่ายมั่นคง แล้วรบกันซื่อๆ

25 มีนาคม 2561

ช่วงปลายราชวงศ์ชิง เกิดกบฏไท่ผิงเทียนกว๋อ กบฏกลุ่มนี้ลุกลามใหญ่โตจนมีศักยภาพพอที่จะล้มล้างราชวงศ์ชิง

ช่วงปลายราชวงศ์ชิง เกิดกบฏไท่ผิงเทียนกว๋อ กบฏกลุ่มนี้ลุกลามใหญ่โตจนมีศักยภาพพอที่จะล้มล้างราชวงศ์ชิง

ด้านกองทัพของราชสำนักชิงที่ดุดัน ก็กลับอ่อนปวกเปียกในรุ่นลูกรุ่นหลาน ราชสำนักชิงกลัวจึงต้องรีบป่าวประกาศหากองกำลังเสริมมาช่วย

กองกำลังทหารอาสาคือคำตอบ มีขุนนางท้องถิ่นและชาวบ้านออกมาตั้งกองกำลังตอบรับราชสำนักหลายกลุ่ม หนึ่งในนั้นคือ “กองทหารเซียง” ซึ่งจัดตั้งโดยเจิงกว๋อฟาน

เจิงกว๋อฟานแม้ไม่ใช่ขุนนางสายบู๊ แต่เพราะรังเกียจอุดมการณ์ของกบฏไท่ผิงฯ ที่ประกาศลบล้างแนวคิดขงจื๊อ จึงเข้าร่วมปราบปรามกบฏ

รบแพ้จนเจิงกว๋อฟานรู้ตัวว่าเขาไม่มีความสามารถในการนำทัพ ฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดคืออย่าให้เขานำทัพออกรบ เจิงกว๋อฟานให้น้องชายทำหน้าที่แทน ส่วนเขาผันตัวมาทำหน้าที่จัดหาเสบียงและอาวุธ

อย่างไรก็ตาม เจิงกว๋อฟานยังเป็นผู้วางภาพใหญ่ในสงคราม ซึ่งรูปแบบที่วางไว้ช่างอนุรักษนิยม เพราะในขณะที่สงครามอันเด็ดดวงทั้งหลายในประวัติศาสตร์ต้องเอาน้อยชนะมาก แต่ยุทธวิธีที่เจิงกว๋อฟานใช้อย่างเคร่งครัดคือ “ตั้งค่ายมั่นคง แล้วรบกันซื่อๆ”

แต่ละครั้งที่ทัพเซียงทำศึก เจิงกว๋อฟานจะให้ก่อกำแพงสูง 3 เมตร และขุดคูลึก 2 เมตรรอบค่าย ซ้อนกันไว้ถึง 5-6 ชั้น

แม่ทัพร่วมยุคกับเขาต่างเห็นว่ายุทธวิธีของเจิงกว๋อฟานมีปัญหา แต่ผลคือทัพเซียงค่อยๆ รุกคืบไปทีละนิด

และแล้วท่ามกลางกองทหารอาสาอื่นๆ ที่หวือหวาแต่เผด็จศึกกบฏไม่ได้ ทัพเซียงกลายเป็นทัพที่บดขยี้กองกำลังกบฏที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้สำเร็จ

ที่จริงวิธีที่เจิงกว๋อฟานใช้ นอกจากจะไม่หวือหวาแล้ว ยังขัดกับธรรมชาติต่อการทำสงครามฝ่ายรุก พิชัยสงครามซุนวูยังเคยว่าไว้ การรบที่ “แย่ที่สุดคือการเข้าตีเมือง” นี่เขาเล่นประกาศไม่สนยุทธวิธีอื่นใด วิธีที่แย่ที่สุดนี่แหละ ดีที่สุด

อีกทั้งฝีมือการรบและขวัญกำลังใจของทัพกบฏไท่ผิงฯ ก็เหนือกว่าทัพเซียงมาก หลายต่อหลายศึกมีบันทึกเอาไว้ว่ากบฏไท่ผิงฯ สู้ด้วยความกล้าหาญ อันที่จริงกบฏไท่ผิงฯ มีจุดเสียเปรียบทัพเซียงที่เสบียงอาหาร...

เนื่องจากความรุ่งเรืองของกบฏไท่ผิงฯ เริ่มต้นด้วยการรบแย่งชิงเสบียงมาเติมเต็มกำลังกองทัพ แต่ก็ยังไม่มีระบบการเรียกระดมเสบียงและทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ในศึกแต่ละครั้งแม้จะเอาชนะและต้านทานทัพเซียงได้ในช่วงต้น แต่พอนานไปพอขาดเสบียงก็ต้องถอยร่น 

แต่อย่าเพิ่งคิดว่าทัพเซียงมีเสบียงสมบูรณ์ ราชสำนักชิงก็อยู่ในสภาพใกล้ถังแตก อีกทั้งกองกำลังอาสาทั้งหลายก็ยังไม่เคยแสดงศักยภาพ ราชสำนักชิงจึงให้กองกำลังอาสาหาเงินและเสบียงอาหารเอาเอง

ช่วงแรกเจิงกว๋อฟานจึงต้องขอกู้เงินจากพ่อค้ามาสร้างกองทัพ แต่ก็หาพอไม่ ปรากฏว่าหลานขุนนางคนหนึ่งเห็นช่อง เลยติดต่อมาว่าจะบริจาคเงินก้อนใหญ่ แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องช่วยอากงที่โดนใส่ร้ายว่าคอร์รัปชั่นหลุดคดี

เจิงกว๋อฟานดูก็รู้ว่าคดีนี้ไม่มีใส่ร้าย แต่พอเห็นเงินที่จะได้ จึงฝืนแจ้งแก่ราชสำนักว่าหยวนๆ หน่อยเพื่อปราบกบฏ ฮ่องเต้มีรึจะยอม แถมด่าว่าเจิงกว๋อฟานกลับมา

เจิงกว๋อฟานจึงคิดใหม่ ขอให้ราชสำนักออกประกาศ นียบัตรรับรองวิทยฐานะเพื่อเป็นเกียรติลอยๆ 4,000 ใบ จะเอาไปขายให้กับบรรดาผู้ดีมีเงินเอามาเป็นทุนในการตั้งกองทัพ

ทั้งสองตัวอย่างเห็นได้ชัดว่าเจิงกว๋อฟานขัดสนและดิ้นรนเพียงใด

แต่รายได้ข้างต้นก็ไม่มั่นคง เจิงกว๋อฟานจึงขอตั้งด่านลอยเก็บภาษีขนส่งสินค้า... เรื่องนี้ราชสำนักก็พอรับได้จึงอนุมัติด้วยดี

จะว่าด่านลอยก็ไม่ถูก เพราะด่านตั้งอยู่บนเส้นทางการขนส่งสินค้า โดยแต่ละด่านที่ตั้งจะเก็บภาษีจากมูลค่าสินค้าเพียง 1%

แม้เป็นจำนวนที่ดูไม่มาก แต่หากต้องขนถ่ายสินค้าผ่านหลายด่าน ก็ต้องเสียภาษีมากขึ้น อย่างไรก็ตามพ่อค้าก็ยินดีผ่านด่านภาษี เพราะหากไปผ่านทางกบฏ คงมิได้จ่ายแค่ภาษีเป็นแน่

เจิงกว๋อฟานยิ่งรบได้ดินแดน ก็ยิ่งมีกำลังเงินสนับสนุน โดยเฉพาะเมื่อได้เมืองอันชิ่งซึ่งมีแม่น้ำแยงซีเกียงไหลผ่าน การตั้งด่านภาษีในแม่น้ำยิ่งทำรายได้ให้ทัพเซียงมากพอจนสามารถรบยืดเยื้อได้

ที่สุดแล้วชัยชนะจึงเป็นของทัพเซียง เจิงกว๋อฟานมิได้คิดเอาชนะจากกลยุทธ์หวือหวา แต่กลับเอาชนะกันที่การหาทรัพยากรมาอุดหนุนกองกำลัง

ผู้นำกองทัพที่เป็นคนธรรมดาไม่ได้มีฝีมือรบหรือกลยุทธ์วิเศษวิโส จึงกลายเป็น 1 ใน 4 ขุนนางสำคัญปลายราชวงศ์ชิง ผู้ช่วยชีวิตราชสำนัก

เทคนิค กลยุทธ์ และทางลัด ล้วนเป็นคำสะดุดตาน่าตื่นเต้น แต่ทั้งหมดกลับไม่ใช่สิ่งจำเป็น บางครั้งการลงมือทำมันซึ่งๆ หน้า อย่างมั่นคงกลับเป็นวิธีที่ได้ผล ขอให้มีเพียงเงื่อนไขเดียวซึ่งก็คือ กระทำต่อเนื่องไม่สะดุดหยุดไป และนี่คือยุทธวิธีของเจิงกว๋อฟาน

คนธรรมดาที่ธรรมดา...แต่ชนะได้

(ป.ล. เจิงกว๋อฟานรู้ดีว่าการตั้งด่านเก็บภาษีสะเทือนพ่อค้าและเศรษฐกิจชาติ เมื่อปราบกบฏไท่ผิงฯ ได้ในปี 1864 จึงเสนอให้ยกเลิกด่านภาษีทันที แต่ขุนนางท้องถิ่นคุ้นชินกับรายได้พิเศษเสียแล้ว กว่าจะยกเลิกได้ก็ในปี 1931 โดยรัฐบาลของเจียงไคเช็ก)

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2