เจ้าฟ้ากุ้ง กวีสมัยกรุงศรีอยุธยา
เมื่อผมเดินทางไปทำข่าวในโอกาสที่นายกลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มอบเงินกว่า 3 แสนดอลลาร์สหรัฐให้กรมศิลปากร
โดย ส.สต
เมื่อผมเดินทางไปทำข่าวในโอกาสที่นายกลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มอบเงินกว่า 3 แสนดอลลาร์สหรัฐให้กรมศิลปากร เพื่อฟื้นฟูและบูรณะวัดไชยวัฒนารามนั้น นอกจากชื่นชมความอัศจรรย์ในวัดโบราณที่สร้างในสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2173) แล้ว ได้ใช้เวลาอันจำกัดชมโบราณสถานที่อยู่โดยรอบ และมาสะดุดตากับพระเจดีย์องค์เล็กที่อยู่นอกกำแพงแก้ว ที่กรมศิลปากรเขียนคำบรรยายว่า เป็นพระเจดีย์บรรจุพระอัฐิเจ้าฟ้ากุ้ง ซึ่งมีข้อความว่า เจดีย์บรรจุพระอัฐิเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง) ตั้งอยู่ในพื้นที่ระหว่างระเบียงคตกับกำแพงแก้วทางด้านทิศเหนือ เป็นเจดีย์ก่ออิฐสอปูน ทรงระฆังกลม ตามรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย ผิวด้านนอกของเจดีย์มีร่องรอยทาสีแดง ซึ่งยังปรากฏอยู่ที่บัวปากระฆัง และปล้องไฉน
เจดีย์องค์นี้สร้างสมัยพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศ เพื่อบรรจุพระอัฐิของเจ้าฟ้าธรรมา ธิเบศร์ พระโอรสองค์ใหญ่ ซึ่งปรากฏในพระราชพงศาวดารว่าพระองค์ทรงกระทำความผิดฐานลักลอบเป็นชู้กับเจ้าฟ้าสังวาล พระสนมของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ จึงต้องพระราชอาญา ถูกเฆี่ยนจนสิ้นพระชนม์ หลังจากทำพิธีพระราชทานเพลิงพระศพตามพระราชประเพณี ณ วัดไชยวัฒนาราม พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงโปรดให้สร้างพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระอัฐิ
ผมเชื่อว่าเมื่อเอ่ยถึงเจ้าฟ้ากุ้ง หลายคนต้องคุ้นเคยบทเห่เรือ ที่มีความบางตอนว่า สุวรรณหงส์ทรงภู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลือนเตือนตาชม เรือไชยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน
พระนิพนธ์อมตะนี้เป็นของเจ้าฟ้ากุ้งในสมัยพระเจ้าบรมโกศ เมื่อพบพระเจดีย์ที่บรรจุพระอัฐิกวีแห่งแผ่นดินสยาม จึงต้องกราบด้วยความเคารพ เพราะประทับใจกับบทเห่เรือ
เมื่อศึกษาพระประวัติแล้วก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าชีวิตที่รุ่งโรจน์ คาบช้อนเงินช้อนทองมาแต่ประสูติ เมื่อเจริญพระชันษามิใช่เป็นแต่กวีเท่านั้น แต่ทรงถูกวางตัวให้เป็นรัชทายาท มีสิทธิในราชสมบัติอีกด้วย แต่อนาคตเป็นเรื่องบอกไม่ได้ เพราะนอกจากเจ้าชีวิตจะลิขิตให้แล้ว ยังถูกกรรมลิขิตอีกต่างหาก ดังนั้นจากชีวิตที่รุ่งโรจน์ก็อับแสง สิ้นพระชนม์เลวร้ายยิ่งกว่าสามัญชนคนธรรมดา ทั้งๆ ที่เป็นพระราชโอรส และเป็นกรมพระราชวังบวร หรือวังหน้า
ที่ต้องโทษและถูกเฆี่ยนถึงสิ้นพระชนม์ เนื่องจากทำกรรมหนักขั้นมหันตโทษ ละเมิด กฎมณเฑียรบาล คือเป็นชู้กับเจ้าฟ้าสังวาล พระสนมเอกองค์หนึ่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พูดภาษาชาวบ้านก็ว่าเป็นชู้กับภรรยาพ่อ เมื่อถูกจับได้ แม้จะรับสารภาพก็ต้องถูกลงโทษ แบบว่าไม่ให้ใครเอาเยี่ยงอย่างต่อไป ดังนั้นชีวิตที่เริ่มต้นด้วยบุญบารมีสูงส่ง ต้องจบลงแบบอัปยศ เพราะกรรมแท้ๆ ทีเดียว
พระราชอิสริยยศก่อนถูกถอดหมดทุกตำแหน่งคือ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ประสูติ พ.ศ. 2258 โดยมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเป็นพระราชบิดา และกรมหลวงอภัยนุชิตเป็นพระราชมารดา สวรรคตเพราะถูกเฆี่ยนเมื่อ พ.ศ. 2298 สิริพระชนมายุ 40 พรรษา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศพระราชบิดาให้สร้างพระเจดีย์บรรจุพระอัฐิไว้ที่วัดไชยวัฒนาราม เคียงคู่กับเจดีย์เจ้าฟ้าสังวาล พระสนมเอกที่ถูกเฆี่ยนจนถึงพิราลัยเช่นกัน แต่เจดีย์ของเจ้าฟ้าสังวาลล่มไปแล้ว ยังคงแต่เจดีย์บรรจุพระอัฐิเจ้าฟ้ากุ้งให้เราได้ กราบไหว้ทุกเมื่อนึกถึงคุณูปการด้านวรรณกรรมครับ


