posttoday

ค่าจ้างและค่าตอบแทนความหมายต่างกัน

23 มกราคม 2561

เดชา กิตติวิทยานันท์ช่วงนี้มีข่าวว่าสถาบันการเงินและบริษัทการค้าขนาดใหญ่กำลังลดขนาดองค์กร ลดคนงานจำนวนมาก เลิกจ้างลูกจ้างเนื่องจากมีปัญหาด้านต้นทุนที่สูงกว่าคู่แข่งไม่สามารถแข่งขันได้ และเมื่อมีการเลิกจ้างก็จะต้องมีการนำค่าจ้างที่มีการเรียกชื่อต่างกัน เช่น เงินเดือน ค่าประจำตำแหน่ง หรืออื่นๆ มาเป็นฐานในการคำนวณค่าชดเชยตามกฎหมาย

เดชา กิตติวิทยานันท์

ช่วงนี้มีข่าวว่าสถาบันการเงินและบริษัทการค้าขนาดใหญ่กำลังลดขนาดองค์กร ลดคนงานจำนวนมาก เลิกจ้างลูกจ้างเนื่องจากมีปัญหาด้านต้นทุนที่สูงกว่าคู่แข่งไม่สามารถแข่งขันได้ และเมื่อมีการเลิกจ้างก็จะต้องมีการนำค่าจ้างที่มีการเรียกชื่อต่างกัน เช่น เงินเดือน ค่าประจำตำแหน่ง หรืออื่นๆ มาเป็นฐานในการคำนวณค่าชดเชยตามกฎหมาย

เร็วๆ นี้จะมีการแก้ไขกฎหมายแรงงานกำหนดคำนิยามให้ชัดแจ้งว่าค่าตอบแทนคืออะไร แยกออกจากค่าจ้างอย่างชัดเจน นายจ้างและลูกจ้างจะต้องมีความเข้าใจอย่างรู้แจ้งเห็นจริงเกี่ยวกับคำนิยามต่างๆ เหล่านั้น ตัวอย่างคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ตีความเกี่ยวกับความหมายของค่าจ้างและค่าตอบแทนต่างๆ ที่ผ่านมามีดังนี้

กรณีที่ถือเป็นค่าจ้าง

คำพิพากษาฎีกาที่ 2075-2078/2557 หนังสือรับรองเงินเดือนที่จำเลยที่ 2 ออกให้แก่โจทก์ที่ 1 เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2547 ระบุว่า โจทก์ที่ 1 ได้รับเงินเดือนเดือนละ 28,495 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่รวมค่าน้ำมันไว้ด้วย ดังนี้แสดงให้เห็นถึงเจตนาการจ่ายค่าน้ำมันของจำเลยที่ 2 ให้แก่โจทก์ที่ 1 ได้ว่าจำเลยที่ 2 มีวัตถุประสงค์ในการจ่ายเงินค่าน้ำมันดังกล่าว เพื่อเป็นการตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้างสำหรับระยะเวลาทำงานปกติ ค่าน้ำมันที่จำเลยจ่ายให้แก่โจทก์จึงเป็นค่าจ้าง

คำพิพากษาฎีกาที่ 4704/2557 จำเลยจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้โจทก์เดือนละ 3,000 บาท เป็นประจำและคงที่ โดยไม่ปรากฏว่ามีวัตถุประสงค์ในการจ่าย เพื่อการอย่างอื่นทุกเดือน เบี้ยเลี้ยงตามสัญญาจ้างจึงเป็นค่าตอบแทนในการทำงาน ซึ่งต้องนำมารวมเป็นค่าจ้างในการคำนวณค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าด้วย

คำพิพากษาฎีกาที่ 11425-12061/2558 จำเลยผู้เป็นนายจ้าง จ่ายค่าครองชีพให้ลูกจ้างมีกำหนดจ่ายเป็นรายเดือนทุกเดือนตลอดมา โดยไม่ปรากฏชัดว่าเหตุที่จำเลยจ่ายค่าครองชีพให้แก่ลูกจ้างเกี่ยวข้องกับภาระค่าครองชีพ โดยเฉพาะหรือเป็นเงินที่จ่ายเพื่อช่วยเหลืออื่นใด ค่าครองชีพดังกล่าวที่จำเลยจ่ายให้แก่โจทก์ จึงเป็นการจ่ายเพื่อการตอบแทนการทำงานเป็นเวลาทำงานปกติของวันทำงานตามสัญญาจ้างแรงงานถือเป็นค่าจ้าง

คำพิพากษาฎีกาที่ 8692/2559 จำเลยจ่ายเงินค่ายานพาหนะให้แก่โจทก์พร้อมเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งเป็นประจำทุกเดือน จำนวนเท่ากันทุกเดือนในลักษณะเหมาจ่ายเป็นรายเดือน โดยที่โจทก์ไม่ต้องแสดงใบเสร็จค่าน้ำมันรถเป็นหลักฐานการรับเงินดังกล่าว โดยไม่ได้ความว่าเป็นเงินสวัสดิการหรือเงินช่วยเหลืออื่นใดแก่โจทก์ เงินดังกล่าวจึงเป็นเงินที่มีจำนวนแน่นอนที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้างเป็นจำนวนแน่นอนถือเป็นค่าจ้าง

กรณีที่ไม่ถือเป็นค่าจ้าง

คำพิพากษาฎีกาที่ 2067-2068/2557 ค่าเช่ารถหรือค่าชดเชยการใช้พาหนะส่วนตัวนั้นจำเลยจ่ายให้แก่พนักงานที่ต้องใช้รถส่วนตัว เพื่ออำนวยความสะดวกและความจำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานของพนักงาน ค่าเช่ารถจึงเป็นการจ่ายเงินเพื่อทดแทนสวัสดิการรถที่จำเลยต้องจัดให้แก่พนักงานในการเดินทางเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงาน ดังนั้น ค่าเช่าบ้านและค่ารถจึงไม่เป็นค่าจ้าง

คำพิพากษาฎีกาที่ 608/2559 ค่าตอบแทนอินเซนทีฟ ซึ่งมิใช่เงินที่โจทก์และจำเลยตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญา แต่เป็นเงินจูงใจในการทำงาน จึงมิใช่ค่าจ้าง

คำพิพากษาฎีกาที่ 2513-2514/2559 เงินโบนัสที่จำเลยจ่ายให้โจทก์เป็นรางวัลในการปฏิบัติงานมิใช่เงินที่จำเลยจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้างสำหรับระยะเวลาการทำงานปกติ หรือตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้ในเวลาทำงานปกติ จึงไม่ใช่ค่าจ้าง

คำพิพากษาฎีกาที่ 2469/2559 เงินค่ารักษาพยาบาลที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้างกรณีที่ลูกจ้างเจ็บป่วยและได้รับการรักษาพยาบาลจริงเท่านั้น มิได้มีลักษณะเป็นการเหมาจ่ายโดยไม่พิจารณาว่าลูกจ้างจะเจ็บป่วยและได้เข้ารับการรักษาพยาบาลจริงหรือไม่ การจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลูกจ้างจึงเป็นการจ่ายเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย มิใช่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานโดยตรงแต่อย่างใด จึงไม่ใช่ค่าจ้าง

เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับค่าจ้างหรือค่าตอบแทนนายจ้างควรกำหนด คำนิยามให้ชัดแจ้ง

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา