posttoday

ลดน้ำหนัก-กำไรหุ้นแบงก์

24 มกราคม 2561

พลันที่ธนาคารพาณิชย์ประกาศกำไรงวดไตรมาส 4 และปี60 ออกมา ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์ หลายแห่งออกมาให้คำแนะนำต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์

โดย...ยินดี ฤตวิรุฬห์

พลันที่ธนาคารพาณิชย์ประกาศกำไรงวดไตรมาส 4 และปี 2560 ออกมา ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หลายแห่งออกมาให้คำแนะนำต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ดังนี้

บล.เอเซีย พลัส (ASP) ระบุว่า ได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์ เป็น “เท่ากับตลาด” จากเดิม “มากกว่าตลาด” ลดประมาณการกำไรกลุ่มแบงก์ปีนี้และปี 2562 ลง 4.6% และ 3.3% จากเดิม สะท้อนการเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ และ Credit Cost ที่รองรับ IFRS 9 ค่าใช้จ่ายดำเนินงานจากการลงทุนในระบบ IT

“กำไรไตรมาส 4 ปี 2560 ต่ำกว่าคาด 14% โดย 10 ธนาคารที่ฝ่ายวิจัยฯ ศึกษามีกำไร 4.16 หมื่นล้านบาท ลดลง 12.1% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 18.4% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ยังมีมุมมองบวกต่อธุรกิจหลักของกลุ่มแบงก์จากการเติบโตของสินเชื่อ ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่งขึ้น” บทวิเคราะห์ ระบุ

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ได้ฟังข้อมูลธนาคารกรุงไทย (KTB) หลังจากผลดำเนินงานลดลงกว่าคาด 28% เป็นผลจากการตั้งสำรองก้อนใหญ่ แต่หากดูคุณภาพของสินเชื่อฟื้นตัวแข็งแกร่ง สินเชื่อรวมโต 3% และ 1.8% จากไตรมาสก่อนหน้าและงวดเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อภาครัฐเติบโตถึง 31% และ 33% จากไตรมาสก่อนหน้าและงวดเดียวกันของปีก่อน สินเชื่อภาครัฐที่คิดเป็น 7% ของสินเชื่อรวม “KTB เผชิญกับการตัดหนี้เสียก้อนใหญ่ 1-1.2 หมื่นล้านบาท จากสินเชื่อโรงสีข้าวและโรงงานมันสำปะหลังเพื่อรักษาระดับเอ็นพีแอล และทำให้ NPL coverage เพิ่มขึ้น” บทวิเคราะห์ ระบุ

เพื่อให้ธนาคารก้าวไปข้างหน้า ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคาร ได้เปลี่ยนนโยบาย เช่น กระบวนการ Underwriting สินเชื่อ การจัดชั้นเอ็นพีแอลใหม่ การปรับทิศทางการปล่อยสินเชื่อใหม่ มุ่งไปลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำและเน้นสินเชื่อภาครัฐจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น

จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า กลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการปี 2560 ครบแล้ว โดยทั้ง 9 ธนาคารที่ FSS ศึกษาอยู่ พบว่ามีกำไรสุทธิรวม 1.83 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 7% หากดูเฉพาะในไตรมาสสุดท้าย ปกติเป็นไตรมาสที่กำไรน้อยที่สุดอยู่แล้ว แต่เนื่องจากบางธนาคารมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มมากกว่าที่คาด ทำให้กำไรไตรมาส 4 ลดลง 12% จากไตรมาส 3 และ 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เหลือ 4.09 หมื่นล้านบาท หลังจากประกาศผลประกอบการแล้ว ไม่ว่าจะดีแค่ไหน จะเห็นการขายทำกำไรทุกรอบ และครั้งนี้ก็เช่นกัน ตลาดหุ้นในระยะนี้จึงมีลักษณะซื้อขายเป็นรายตัว น้ำหนักอยู่ที่ผลประกอบการเป็นหลัก ซึ่งเป็นผลประกอบการที่จบไปแล้วในอดีต การพักฐานยังเป็นโอกาสให้ทยอยสะสม เพราะภาพระยะกลาง-ยาวที่ยังดูดีไม่เปลี่ยนแปลง

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เป็นหุ้นที่ FSS ชอบที่สุด แต่กำไรไตรมาส 4 ลดเหลือเพียงกว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งที่ปกติจะมีกำไรไตรมาสละ 1 หมื่นล้านบาท เป็นกำไรที่น้อยกว่าเราและตลาดคาดมาก แต่เหตุผลน่าจะเป็นที่ยอมรับได้ เพราะมาจากการตั้งสำรองส่วนเกินเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 9 โดยสำรองทั่วไป เพิ่มขึ้นราว 5,000 ล้านบาท จากไตรมาส 3 ถ้าบวกกลับรายการนี้เข้าไป กำไรในไตรมาส 4 จะไม่แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา และปรับประมาณการกำไรของ KBANK ปีนี้ลงเล็กน้อย เพราะธุรกิจประกันมีแนวโน้มแข่งขันแรงกว่าคาด และให้ราคาเป้าหมาย 264 บาท

สำหรับคุณภาพหนี้ยังคงแข็งแกร่งขึ้นจากเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ดีขึ้น เอ็นพีแอลในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 3.3% คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ในปีนี้

ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กำไรสุทธิทั้งปี 2560 อยู่ที่ 33,009 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% ดีกว่าที่คาดไว้ โดยกำไรในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 3 และ 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ทั้งที่ควรจะลดลง) เพราะรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิจากการปล่อยสินเชื่อ ค่าธรรมเนียมการขายประกันผ่านธนาคารและค่าบริการกองทุนรวมเพิ่มขึ้น ส่วนปัญหาคุณภาพหนี้ดีขึ้น จากการตั้งสำรองฯ ที่ลดลงจากไตรมาส 3 หรือคิดเป็นต้นทุนเครดิตอยู่ที่ 0.94% ต่ำที่สุดในรอบปี สัดส่วนเอ็นพีแอลปรับขึ้นเป็น 3.9% จากไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.8% เพราะสินเชื่อระหว่างธนาคารลดลง ยังคงประมาณการกำไรปีนี้เติบโต 12% ให้ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 244 บาท

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ผลประกอบการที่น่าผิดหวังและต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด เพราะรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยต่ำกว่าคาด ค่าใช้จ่ายด้านพนักงานและการตลาดสูงกว่าคาด และตั้งสำรองฯ มากกว่าคาด นอกจากนี้เอ็นพีแอลยังปรับขึ้น โดยสัดส่วนเอ็นพีแอลขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.83% จากไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 2.75% ส่วนใหญ่เป็นเอ็นพีแอลในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ซึ่งนโยบายการปรับลดทั้งสาขาและพนักงานของ SCB จะลดค่าใช้จ่ายได้ แต่คาดว่ากำไรในช่วง 2-3 ปี จะทรงๆ หรือเติบโตเล็กน้อย ยังคงให้ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 160 บาท

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ