พระสงฆ์วัดอินทารามค้าน ไม่ให้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระเจ้าตากฯ
ส.สต สืบเนื่องจากผู้เขียนแสดงความเห็นว่าจะให้การฉลอง 250 ปี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีความหมาย และเป็นการเฉลิมพระเกียรติมหาราชที่ทรงเป็นวีรบุรุษชาวไทยให้ยั่งยืน จึงเสนอให้ราชการและคณะสงฆ์เปลี่ยนชื่อวัดอินทาราม เป็นชื่อวัดสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ส.สต
สืบเนื่องจากผู้เขียนแสดงความเห็นว่าจะให้การฉลอง 250 ปี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีความหมาย และเป็นการเฉลิมพระเกียรติมหาราชที่ทรงเป็นวีรบุรุษชาวไทยให้ยั่งยืน จึงเสนอให้ราชการและคณะสงฆ์เปลี่ยนชื่อวัดอินทาราม เป็นชื่อวัดสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
วันที่ 5 ม.ค. 2561 ผู้เขียนไปกราบเรียนถามความเห็นพระครูสุวิมลธรรมโสภิต เจ้าอาวาสวัดอินทารามวรวิหาร และพระมหาพิน พุทธวิริโย พระมัคคุเทศก์ประจำวัด
พระครูสุวิมลธรรมโสภิต เจ้าอาวาส บอกว่า การเปลี่ยนชื่อเป็นวัดสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ นั้น คงเป็นไปได้ยาก เพราะหลักฐานเอกสารยืนยันมีไม่มากพอ แม้ว่าสาธารณชนจะรู้กันทั่วว่า วัดนี้คือวัดสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ตาม
ที่ยืนยันกันตลอดมาคือพระแท่นบรรทมที่ทรงเคยใช้เป็นที่ประทับแรมทรงธรรมและกรรมฐาน พระเจดีย์กู้ชาติที่บรรจุพระบรมอัฐิ
ส่วนพระมหาพิน พุทธวิริโย บอกว่า ไม่เห็นด้วยและขอค้านอย่างแรง เพราะวัดเป็นของส่วนรวม ที่จะให้เปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ เพราะมองในอนาคต หากพระในวัดทำเรื่องมิดีมิงามเป็นข่าวก็จะพูดว่าพระวัดสมเด็จพระเจ้าตากฯ ทำให้เสียชื่อพระองค์ท่าน ดังนั้นเป็นวัดอินทารามดีแล้ว เพราะสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ นั้นทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงอุปถัมภ์ทุกวัด
ที่ว่าชื่ออินทารามนั้นดีแล้ว เพราะอินทาราม แปลว่า วัดใหญ่ ซึ่งในอดีตนั้นมีที่ดินกว้างใหญ่ มีพระภิกษุสามเณรมาก และที่เป็นความรู้ใหม่คือวัดนี้ พระอินทร์อุปถัมภ์ รวมทั้งเป็นสำนักเรียนที่มีชื่อเสียงด้วย แต่ปัจจุบันมีแต่ชื่อและอาคารเรียนใหญ่โต แต่ไม่มีนักเรียน เพราะตั้งแต่สร้างโรงเรียนปริยัติธรรมโดยอดีตเจ้าอาวาสตอนนั้น มีพระ 53 รูป และสามเณร 40 รูป แต่หลังจากนั้นนักเรียน ก็หมด อาคารเรียนไม่มีคนดูแล ตัวท่าน มหาพินจึงขออนุญาตเจ้าอาวาสมาอยู่ที่โรงเรียนปริยัติธรรม เมื่อ พ.ศ. 2550 เพื่อรักษาอาคารและสถานที่มิให้ชำรุดทรุดโทรม
ในการที่ผู้เขียนได้กราบนมัสการครั้งนี้ ท่านให้ปฏิทินที่พิมพ์ในงานกฐินพระราชทาน พ.ย. 2558 มา 1 เล่ม เป็นปฏิทินเต็มไปด้วยข้อมูลประวัติศาสตร์ของวัดอินทาราม และเรื่องราวสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พร้อมทั้งภาพงามๆ ที่หายากด้วย
ข้อมูลของวัด จากปฏิทินดังกล่าวนั้น ดังนี้
วัดอินทารามวรวิหาร
วัดอินทารามวรวิหารเป็นวัดสำคัญ สมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานี เป็นวัดอนุสรณ์สันติสถานที่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงประกอบพระราชกุศล มีโบราณวัตถุที่เกี่ยวเนื่องกับพระองค์หลายอย่าง วัดอินทาราม ขณะนี้เป็นวัดอารามหลวงชั้นตรี ชนิด วรวิหาร ตั้งอยู่ ถนนเทอดไท ริมคลอง บางกอกใหญ่ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
วัดอินทารามวรวิหาร เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า "วัดบางยี่เรือนอก" คู่กับวัดราชคฤห์ ซึ่ง เรียกว่า "วัดบางยี่เรือใน" วัดนี้ไม่ปรากฏว่าผู้ใดสร้างและสร้างมาแต่ครั้งใด เพิ่งปรากฏในพงศาวดารสมัยกรุงศรีอยุธยา
ต่อมาเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงตั้งเมืองธนบุรีเป็นราชธานี ทรงบูรณปฏิสังขรณ์อย่างถึงขนาด แล้วสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ใช้เป็นที่ประกอบพระราชกุศลอย่างยิ่งใหญ่หลายครั้ง ทรงถวายที่ดินเป็นที่ธรณีสงฆ์เป็นอันมาก ทรงสร้างกุฏิ เสนาสนะสงฆ์ 120 หลัง บูรณะพระปฏิมาและพระอุโบสถ เจดีย์ วิหาร ถวายพระไตรปิฎก พระหีบปิดทองคู่หนึ่งสำหรับ เก็บวิธีอุปเทศพระกรรมฐาน พระองค์ก็ยังเสด็จมาทรงศีลบำเพ็ญพระกรรมฐานแรม พระตำหนักอยู่ถึง 5 เวร ทรงถวายเรือ โขมดยาปิดทองทึบหลังคาบัลลังก์คาดสีสักหลาดเหลือง 1 ลำ คนพาย 10 คนมาเป็นปะขาวอยู่วัด
เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จกลับจากพระราชสงครามจากสระบุรี ได้โปรดให้สร้างพระเมรุที่วัดอินทารามเพื่อถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระราชชนนี ใช้เวลาสร้างถึง 2 เดือน และนำพระบรมอัฐิพระราชชนนีมาประดิษฐาน ณ วัดอินทาราม เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีสวรรคต ได้นำพระบรมศพมาประดิษฐาน (ฝัง) ไว้ ณ วัดอินทารามนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้เสด็จเสวยราชสมบัติแล้ว ยังทรงรับวัดอินทารามเป็นวัดอารามหลวงอยู่อีก พระองค์ได้เคยทรงเสด็จมาพระราชทานผ้ากฐิน 2 ครั้ง จึงเป็นประเพณีในรัชกาลต่อๆ มา
วัดอินทารามได้ขาดการปฏิสังขรณ์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 จนล่วงมาถึงรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ฯ วัดอินทารามซึ่งได้เสื่อมสลักหักพังไป เพราะขาดผู้ทำนุบำรุง ก็ได้ผู้ศรัทธาปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ผู้ที่มีศรัทธาปฏิสังขรณ์วัดอินทารามขึ้นใหม่ครั้งนี้ ได้แก่ พระยาศรีสหเทพ (ทองเพ็ง) ต้นตระกูลศรีเพ็ญ การปฏิสังขรณ์ครั้งนี้มิได้ ทำกันเพียงสิ่งใดปรักหักพังก็ใช้ซ่อมแซม หรือปรับปรุงโยกย้ายของเก่ามาเป็นของใหม่เท่านั้น แต่พระยาศรีสหเทพได้ปลูกสร้างถาวรวัตถุเสนาสนะขึ้นใหม่ ตั้งแต่พระอุโบสถอันเป็นสิ่งใหญ่ลงไปจนถึงสิ่งเล็กน้อยเสร็จเรียบร้อยแล้วทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระ นั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวให้เป็นพระอารามหลวงอีกครั้งหนึ่ง พระองค์พระราชทานนามว่า วัดอินทาราม เป็นอารามหลวงชั้นตรี ชนิด วรวิหาร จึงได้เรียกว่า วัดอินทารามสืบมาจนทุกวันนี้
แม้ว่าที่ผู้เขียนจุดประเด็นไว้จะเดินต่อลำบาก แต่เรื่องสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ยังมีให้พูดถึงอีกครับ


