BIMSTEC เชื่อมเอเชียใต้กับอาเซียน
สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD)www.itd.or.thBIMSTEC เป็นกรอบความร่วมมือทางวิชาการและเศรษฐกิจระหว่าง 7 ประเทศในอ่าวเบงกอล ประกอบด้วย บังกลาเทศ อินเดีย เมียนมา ศรีลังกา ไทย ภูฏาน และเนปาล เกิดจากการริเริ่มของไทยเมื่อปี 2540 ครอบคลุมพื้นที่ซึ่งมีประชากรรวมประมาณ 1,500 ล้านคน เป็นกรอบความร่วมมือที่เชื่อมเอเชียใต้เข้ากับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นกลไกที่ไทยสามารถขยายความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบและทรัพยากรที่สำคัญ
สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD)www.itd.or.th
BIMSTEC เป็นกรอบความร่วมมือทางวิชาการและเศรษฐกิจระหว่าง 7 ประเทศในอ่าวเบงกอล ประกอบด้วย บังกลาเทศ อินเดีย เมียนมา ศรีลังกา ไทย ภูฏาน และเนปาล เกิดจากการริเริ่มของไทยเมื่อปี 2540 ครอบคลุมพื้นที่ซึ่งมีประชากรรวมประมาณ 1,500 ล้านคน เป็นกรอบความร่วมมือที่เชื่อมเอเชียใต้เข้ากับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นกลไกที่ไทยสามารถขยายความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบและทรัพยากรที่สำคัญ
เมื่อปี 2557 เมียนมาได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำ BIMSTEC ภายใต้หัวข้อ "หุ้นส่วนเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวและความมั่งคั่ง" ผู้แทนพิเศษไทยได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแก่ประชาชนใน BIMSTEC เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และเตรียมรับกับโอกาส ความเปลี่ยนแปลง ตลอดจนความท้าทายในระดับภูมิภาคและระดับโลก พร้อมทั้งผลักดันประเด็นการเจรจากรอบความตกลงการค้าเสรี BIMSTEC และการเชื่อมโยงในภูมิภาคซึ่งจะเปิดประตูการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีสีเขียวเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนและทั่วถึง
ในการประชุมดังกล่าวนี้ ไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและได้เสนอแนะในการส่งเสริมเทคโนโลยี และการถ่ายทอดความรู้เรื่องความมั่นคงทางอาหาร สิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข รวมทั้ง ส่งเสริมบทบาทของการประชุมกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาและลดช่องว่างในการพัฒนาในภูมิภาค ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้บรรดาผู้นำจากชาติสมาชิก BIMSTEC ได้ลงนามตราสารการจัดตั้งสำนักเลขาธิการถาวร ที่บังกลาเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสมรรถนะการ ขับเคลื่อนการทำงานและประสานการดำเนินการ รวมทั้งติดตามกิจกรรมต่างๆ ของ BIMSTEC ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ในมิติการค้าระหว่างประเทศ ไทยสามารถอาศัยกลไกความร่วมมือ BIMSTEC เป็นพื้นฐานในการเข้าสู่ตลาดสินค้า รวมถึงขยายการค้าและการลงทุนในเอเชียใต้ได้มากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคในภูมิภาคนี้มีความต้องการสินค้าที่หลากหลายตามกำลังซื้อที่ขยายตัว สินค้าที่ไทยมีโอกาสขยายตลาด ได้แก่ สินค้าอุปโภคและบริโภคเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร รถยนต์และอุปกรณ์ นอกจากนั้น ภูมิภาคนี้ยังสามารถเป็นแหล่งวัตถุดิบแหล่งใหม่ของภาคการผลิตของไทย รองรับการ กระจายความเสี่ยงและลดภาวะพึ่งพาตลาดส่งออกเดิมที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งส่งเสริมการปรับมาตรฐานและกฎเกณฑ์ของไทยให้สอดคล้องและเป็นมาตรฐานเดียวกันกับประเทศสมาชิกอื่นๆ เพื่อส่งผลให้เกิดการอำนวยความสะดวกทางการค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงเสริมสร้างและยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศคู่ขนานกับความสามารถในการใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงด้านการคมนาคม อาทิ ถนน และท่าเรือ
อย่างไรก็ตาม ประเทศสมาชิก BIMSTEC ยังคงมีมาตรการทางการค้าที่ ซับซ้อนมาก โดยเฉพาะอินเดียที่ยังคงมีการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษีสูง นอกจากนี้ เรื่องมาตรฐานและการทดสอบมาตรฐานยังเป็นอุปสรรคต่อการค้าขายระหว่างกัน ซึ่งหลายประเทศสมาชิกยังบังคับใช้มาตรฐานที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมทั้งมีข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานและความเชื่อมโยงด้านกายภาพ
ความท้าทายของประเทศสมาชิก BIMSTEC คือ การปรับกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษีที่ซับซ้อนให้โปร่งใสและสอดคล้องกับกติกาสากลมากขึ้นและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับความเชื่อมโยง เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนภายใต้ความตกลงทางการค้าเสรี BIMSTEC ให้เกิดขึ้นจริง n


