นิทรรศการและ บูชาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่พิพิธภัณฑ์
ก่อนสิ้นปี พ.ศ. 2560 สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จัดนิทรรศการผลงานพุทธศิลป์ให้ได้ชมและสักการะกันอย่างคุ้มค่า ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มาที่นี่ที่เดียวคุ้มค่ามาก
โดย กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร
ก่อนสิ้นปี พ.ศ. 2560 สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จัดนิทรรศการผลงานพุทธศิลป์ให้ได้ชมและสักการะกันอย่างคุ้มค่า ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มาที่นี่ที่เดียวคุ้มค่ามาก
เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ธ.ค. 2560
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดนิทรรศการ
“พุทธปฏิมาวิจักษณ์จากภารตะสู่สุวรรณภูมิ” (Featuring Buddhist Imagery from Bharata to Suvarnabhumi) ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมี วีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ภควันต สิงห พิศโนอี (H.E. Mr. Bhagwant Singh Bishnoi) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม เฝ้าฯ รับเสด็จ
เนื่องในปี พ.ศ. 2560 เป็นวาระครบรอบ 70 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสาธารณรัฐอินเดียและราชอาณาจักรไทย อีกทั้งยังเป็นวาระครบรอบ 25 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสาธารณรัฐอินเดียกับกลุ่มประเทศอาเซียน กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร จึงกำหนดจัดนิทรรศการพิเศษ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวาระดังกล่าว
นิทรรศการในครั้งนี้ ได้นำโบราณวัตถุที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และคลังกลาง จำนวน 62 รายการ และของสะสมของเอกชนจำนวน 2 รายการ มาจัดแสดง โดยแบ่งโบราณวัตถุออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ โบราณวัตถุศิลปะอินเดีย โบราณวัตถุศิลปะไทยที่ได้รับอิทธิพลศิลปะอินเดีย และโบราณวัตถุศิลปะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับอิทธิพลศิลปะอินเดีย อาทิ ธรรมจักรและกวางหมอบ ศิลปะอินเดียแบบคันธาระ พุทธศตวรรษที่ 6-11 พระพุทธรูปปางประทานอภัย ศิลปะอินเดียแบบคันธาระ พุทธศตวรรษที่ 6-11 พระพุทธรูปเสด็จจากดาวดึงส์ ศิลปะอินเดียแบบปาละ พุทธศตวรรษที่ 14
นิทรรศการ เรื่อง “พุทธปฏิมาวิจักษณ์จากภารตะสู่สุวรรณภูมิ” (Featuring Buddhist Imagery from Bharata to Suvarnabhumi) เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม ระหว่างวันที่ 23 ธ.ค. 2560-23 มี.ค. 2561 ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (ปิดวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-224-1402, 02-224-1333 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เช่นกัน กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากรเชิญชวนสักการะพระพุทธรูป ณ วังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “ทศพุทธปฏิมาธิราช”
เนื่องในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2561 โดยอัญเชิญพระพุทธรูปทรงเครื่อง 10 องค์ ให้ประชาชนกราบสักการบูชา ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร มีพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สมัยสุโขทัยเป็นประธาน และได้คัดสรรพระพุทธรูปอีก 9 องค์ ที่มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับพระพุทธรูปทรงเครื่องและหลักธรรมราชา ซึ่งเป็นหลักธรรมที่ใช้สำหรับพระราชา หรือผู้ปกครองที่ทำให้ประชาชนพึงพอใจโดยธรรมและนำมาซึ่งความผาสุกของบ้านเมือง อาณาประชาราษฎร์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี นำมาประดิษฐานให้ประชาชนสักการบูชา เพื่อน้อมนำถึงพระมหากรุณาธิคุณและอำนวยความสุขสวัสดิ์พิพัฒน์มงคล ในวาระแห่งการเริ่มต้นสู่ศักราชใหม่
กิจกรรมพิเศษสักการะพระพุทธรูป ณ วังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน เนื่องในเทศกาลปีใหม่นี้ กรมศิลปากรได้จัดต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 8 แล้ว ทั้งนี้ ในแต่ละปีได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ต่างเดินทางมาสักการบูชาพระพุทธปฏิมา เพื่อความเจริญศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทั้งมีความประสงค์ที่จะทราบตำนานความเป็นมาของพระพุทธรูปทรงเครื่องดังกล่าว คติการสร้าง และรูปแบบทางศิลปกรรมของพระพุทธรูปทั้ง 10 องค์ ตลอดจนตระหนักรู้ในคุณค่า ความสำคัญ และร่วมกันดูแลปกป้องมรดกของชาติให้คงอยู่คู่กับประเทศไทยสืบไปชั่วกาลนาน
กระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประชาชนชาวไทยจะได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบูรพมหากษัตริย์ไทย รวมทั้งได้รับประโยชน์ทางความรู้ และความสุขสวัสดีโดยทั่วกัน
ทั้ง 10 องค์ ได้แก่
1.พระพุทธสิหิงค์ ปางสมาธิ
2.พระพุทธรูปทรงเครื่องแสดงวิตรรกมุทราสองพระหัตถ์
3.พระพุทธรัตนมหามุนี (พระแก้วน้อย) ปางประทานพร
4.พระไภษัชยคุรุ ปางสมาธิ
5.พระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางมารวิชัย
6.พระพุทธรูปปางประทานธรรม
7.พระพุทธรูปไสยา (ปางไสยาหรือปรินิพพาน)
8.พระพุทธรูปห้ามสมุทร
9.พระพุทธรูปทรงเครื่อง
10.พระล้อม (พระห้าร้อย)
กิจกรรมพิเศษสักการะพระพุทธรูป ณ วังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “ทศพุทธปฏิมาธิราช” นี้ จะจัดแสดง ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2560-31 ม.ค. 2561 ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์


