ความกตัญญูต่อศาสนา
ทันทีที่ผมได้รับแจ้งจากคุณวุฒิ นนทฤทธิ์ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ซึ่งได้รับสารจากคุณ ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ทันทีที่ผมได้รับแจ้งจากคุณวุฒิ นนทฤทธิ์ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ซึ่งได้รับสารจากคุณ ณ กาฬ เลาหะวิไลย รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจหนังสือพิมพ์กลุ่มโพสต์ ให้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่นำเสนอข่าว "โครงการอุปสมบทพระภิกษุ ณ ดินแดนพุทธภูมิ ประเทศอินเดีย ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก" ซึ่งจัดโดยมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม ร่วมกับบริษัท การบินไทยสมายล์ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-9 ธ.ค. 2560
ความรู้สึกแรกที่รู้ว่าได้รับมอบหมายให้ไปอินเดีย ผมรู้สึกขอบคุณผู้บริหารทั้งสองท่านที่เอ่ยนาม และผมได้พูดกับตัวเองว่า แหม...เรานี่โชคดีอีกแล้วที่จะได้ไปเข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังสถานที่จริงบนแผ่นดินพุทธภูมิอีกครั้ง หลังจากครั้งแรกเคยไปแสวงบุญ ณ สังเวชนียสถานทั้งสี่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยการอนุเคราะห์ของบริษัท กรุงเทพประกันภัย ซึ่งครั้งนั้นก็ได้ประสบการณ์ล้ำค่ามากที่สุดในชีวิต
ครั้งนี้ผมค่อนข้างไม่แปลกใจว่าทำไมผู้บริหารถึงมอบหมายให้ไปทำข่าวนี้ เพราะท่านรู้ว่าผมผ่านการบวชและศึกษาเล่าเรียนทางธรรมมาพอสมควร ที่สำคัญผู้บริหารก็คงเห็นว่าน่าจะทำอะไรได้มากกว่าการไปทำข่าว
ซึ่งก็จริง ผมไปครั้งนี้ได้ช่วยปรนนิบัติถวายความสะดวกแด่พระสงฆ์ในบางโอกาสแต่พองาม (ทำเยอะไปเดี๋ยวจะเกินหน้าที่) เช่น ถวายน้ำดื่มเวลาพระฉันภัตตาหารเช้าและเพล หรือแม้แต่สอนการนุ่งห่มผ้าจีวรให้กับหลายๆ รูป โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ยังห่มจีวรไม่เป็นปริมณฑล ก็ได้ช่วยเหลืออยู่หลายครั้งหลายครา
ทว่า สิ่งที่ผมอยากพูดถึงโครงการนี้ อย่างแรก ขอยกเครดิตให้กับผู้ริเริ่มโครงการ คือ ศ.กิตติคุณ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม ที่มีจิตกุศลและมีความกตัญญูเป็นที่ตั้ง
อาจารย์บวรศักดิ์ เห็นว่า สมเด็จพระ อริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก นั้นมีพระกรุณาธิคุณต่อสถาบันพระปกเกล้ามาตลอด เช่น เสด็จมา ทรงเป็นประธานในการบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทุกปี ดังนั้น ปี 2561 ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระสังฆราชจะทรงเจริญพระชันษา 91 พระชันษา ในวันที่ 26 มิ.ย. จึงได้ดำริจัดโครงการนี้เพื่อถวายพระกุศลแด่พระองค์
การจัดให้มีโครงการนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าคำพูดที่ว่า นี่แหละคือการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีในฐานะชาวพุทธที่ดีต่อพระพุทธศาสนาและต่อประมุขสงฆ์ ซึ่งน่ายกย่องและควรค่าแก่การอนุโมทนาอย่างยิ่ง


