จรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ ความท้าทายใหม่...ธุรกิจส่วนตัว
พูลศรี เจริญ จรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ ปัจจุบันทำงานประจำในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการกองทรัสต์อิสระรายแรกในประเทศ
พูลศรี เจริญ
จรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ ปัจจุบันทำงานประจำในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการกองทรัสต์อิสระรายแรกในประเทศ
บริษัทดังกล่าวชายหนุ่มวัย 39 ได้ร่วมก่อตั้งกับพันธมิตรที่ล้วนมีความเชี่ยวชาญในแวดวงการเงิน การธนาคาร บัญชี การบริหารทรัพย์สินและกฎหมาย
รวมถึงมีประสบการณ์ตรงในการเป็นผู้เกี่ยวข้องในการจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และการเป็นผู้จัดการกองทรัสต์ โดยเริ่มตั้งแต่การขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อเดือน ม.ค. 2560
ขณะเดียวกัน ยังได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ให้เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ที่เข้าลงทุนในทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ทุกประเภท จึงทำให้สามารถบริหารจัดการกองทรัสต์ที่เข้าลงทุนในทรัพย์สินได้อย่างหลากหลาย
ซึ่งมีความแตกต่างจากผู้จัดการกองทรัสต์บางรายที่ได้รับความเห็นชอบให้เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ที่บริหารกองทรัสต์ที่เข้าลงทุนในทรัพย์สินเฉพาะประเภทเท่านั้น
นอกจากนี้ เขายังมีธุรกิจส่วนตัวอีกหลายธุรกิจ ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และโปรดักชั่นเฮาส์ ซึ่งทำมา 6-7 ปีแล้ว ทั้งหมดล้วนก่อตั้งขึ้นมาเองกับเพื่อนๆ ไม่ได้เป็นของครอบครัว
ขณะเดียวกัน จรัสฤทธิ์ยังช่วยธุรกิจครอบครัวด้วย ซึ่งปัจจุบันพ่อ-แม่ของเขาซึ่งเคยโลดแล่นในแวดวงตลาดเงิน ตลาดทุน ได้ทำอสังหาริมทรัพย์ประเภทเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ขนาด 7 ชั้น จำนวน 50 ห้อง บนพื้นที่ 1 ไร่ ย่านสุขุมวิท 31 โดยชายหนุ่มมีหน้าที่ดูเรื่องการเงิน
"แม้ผมจะเป็นลูกคนเดียว แต่พ่อ-แม่ไม่ได้เลี้ยงแบบตามใจ ท่านบอกว่าให้มีชีวิตเป็นของตัวเอง ผมก็เลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้เรายืนได้ด้วยตัวเอง และทำแล้วมีความสุข"
จรัสฤทธิ์ บอกว่า การทำธุรกิจส่วนตัวในช่วงที่ผ่านมา มีทั้งประสบความสำเร็จและความล้มเหลว
พร้อมยกตัวอย่างว่า เคยทำร้านอาหาร แต่ก็ต้องปิดตัวลงเนื่องจากตอบโจทย์ตัวเขาเอง คือ การรักษาเมนูอาหารไทยแบบดั้งเดิม แต่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า
แน่นอนเขาบอกว่ามนุษย์เรามองหาการสร้างเวลท์ หรือความมั่งคั่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจส่วนตัว ทำให้ได้ข้อคิดหลายเรื่องที่สำคัญ คือ ต้องมีเวลากับสิ่งที่ทำให้เต็มที่
นอกจากนี้ การเลือกพาร์ตเนอร์หรือพันธมิตร ที่มีแนวคิดเดียวกัน และการอยู่กับใครนานๆ จะทำให้เรารู้จักเขามากขึ้น ดังนั้นถ้าไม่รู้จักกันดีจริงๆ ก็คิดให้ดีก่อนร่วมทางกับใคร
อีกประการที่สำคัญสำหรับการทำธุรกิจ แน่นอน คือ เรื่องการทำนิติกรรม ที่ต้องละเอียด รอบคอบ
ชายหนุ่มบอกว่า "ประสบการณ์จะเป็นตัววัดความสำเร็จและความล้มเหลว"
กับธุรกิจล่าสุดของจรัสฤทธิ์ เขาเล่าว่า ก่อนมาลงเอยก่อตั้งบริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานในสายการเงิน ผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ ผู้อำนวยการ ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้อำนวยการ ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของทีมผู้บริหารบริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จรัสฤทธิ์ เชื่อว่าจะสามารถบริหารกองทรัสต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์
ขณะเดียวกัน สามารถให้คำปรึกษาในด้านการระดมทุนผ่านกองทรัสต์ ทั้งในด้านการเตรียมความพร้อมของทรัพย์สิน กระบวนการเข้าลงทุนของกองทรัสต์ และข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในฐานะที่ผ่านการทำงานมาทั้งในฐานะลูกจ้างและเป็นเจ้าของกิจการ ชายหนุ่มมีหลักคิดว่า "ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และรู้จักปล่อยวางบ้าง รวมถึงวิเคราะห์สิ่งที่ทำ"
ประวัติการศึกษา จรัสฤทธิ์ จบปริญญาโท (เกียรตินิยม) บริหารธุรกิจ (เอ็มบีเอ) สาขาการบริหารการเงิน Lubin School of Business, Pace University, New York สหรัฐอเมริกา ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ สาขาการเงินและการธนาคาร คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สำหรับการวางแผนทางการเงินส่วนตัว ปัจจุบันจะแบ่งเงินออกเป็น 3 ก้อน ก้อนแรก สัดส่วน 30% สำรองไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ก้อนที่สอง สัดส่วน 30% ทำธุรกิจส่วนตัว และที่เหลือเป็นเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ
จรัสฤทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ถือได้ว่า ตัวเองได้ปรับพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยงแล้ว หากเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา จะทุ่มเงินที่มีทั้ง 100% ไปกับการทำธุรกิจส่วนตัว
คำแนะนำสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรักเจอร์ฟันด์) กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีท) เขาบอกว่าเนื่องจากผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่า เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้น นั่นก็หมายความว่า ราคาหน่วยลงทุนไม่ผันผวนมาก อีกทั้งสร้างรายได้สม่ำเสมอในรูปแบบการจ่ายเงินปันผล การลงทุนในกองทุนประเภทนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย
จรัสฤทธิ์ ชายหนุ่มผู้ผ่านประสบการณ์การทำงานมามากและหลากหลายอาชีพ อาจกล่าวได้ว่าในวัย 39 ย่าง 40 ปี ของเขาใช้ชีวิตได้คุ้มในโลกของการทำงานทั้งการเป็นลูกจ้างและการทำธุรกิจส่วนตัว
"การจะวิ่งให้ถึงเป้าหมาย บางทีก็ ต้องชะลอบ้าง หยุดบ้าง ถอยหลังบ้าง เพื่อก้าวต่อ"
จรัสฤทธิ์ ปิดท้ายการสนทนาด้วยประโยคที่คมคาย สะท้อนถึงการผ่านร้อน ผ่านหนาวที่มากกว่าอายุจริง


