posttoday

Update เรื่อง GI

04 ธันวาคม 2560

พวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ได้อ่านบทความของคุณ ณ กาฬ เลาหะวิไลย ในโพสต์ทูเดย์สัปดาห์ก่อนเรื่องตะเกียงวิเศษที่ถูกลืม ทำให้ดีใจและรู้สึกขอบคุณที่ยังมีคนนึกถึงตะเกียงวิเศษ ตะเกียงวิเศษในที่นี้ก็คือ สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า GI (Geographical Indication) และอย่าว่าแต่คนข้างนอกที่ลืมเรื่องสินค้า GI ของไทย แม้แต่คนในกระทรวงพาณิชย์เอง ก็ยังไม่ค่อยจะนึกถึงกัน

พวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์

ได้อ่านบทความของคุณ ณ กาฬ เลาหะวิไลย ในโพสต์ทูเดย์สัปดาห์ก่อนเรื่องตะเกียงวิเศษที่ถูกลืม ทำให้ดีใจและรู้สึกขอบคุณที่ยังมีคนนึกถึงตะเกียงวิเศษ ตะเกียงวิเศษในที่นี้ก็คือ สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า GI (Geographical Indication) และอย่าว่าแต่คนข้างนอกที่ลืมเรื่องสินค้า GI ของไทย แม้แต่คนในกระทรวงพาณิชย์เอง ก็ยังไม่ค่อยจะนึกถึงกัน

ปัจจุบันกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขึ้นทะเบียนสินค้าไทยเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์แล้ว 80 สินค้า ตัวอย่างเช่น กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง ผ้าไหมยกดอกลำพูน แพรวากาฬสินธุ์ ข้าวสังหยดเมืองพัทลุง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ สับปะรดห้วยหม่น ผ้าหมักโคลนหนองสูง ฯลฯ ซึ่ง 80 สินค้านี้อยู่ในจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย 55 จังหวัด

นอกจากนี้ ยังได้นำสินค้าของไทยไปขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในต่างประเทศ ได้แก่ สหภาพยุโรปแล้ว 4 สินค้า คือ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง และข้าวสังหยดเมืองพัทลุง อินโดนีเซีย คือ ผ้าไหมยกดอกลำพูน สาธารณรัฐประชาชนจีน คือ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มะขามหวานเพชรบูรณ์ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ เช่นเดียวกับอินเดีย และกัมพูชา คือ ผ้าไหมยกดอกลำพูน และกาแฟดอยตุง ตามลำดับ สุดท้ายคือเวียดนาม โดยมีสินค้าเส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ซึ่งครอบคลุม 25 จังหวัดทางภาคอีสานและได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว ยังคงเหลือมะขามหวานเพชรบูรณ์ และลำใยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูนที่อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียน

การมีเครื่องหมายรับรอง GI แปะไว้ที่สินค้า หลายท่านคงยังไม่ทราบว่า ทำให้สินค้านั้นมีมูลค่าสูงขึ้น 2-3 เท่าตัว และยิ่งเป็นเครื่องหมาย GI ของสหภาพยุโรปแปะไว้ที่สินค้าไทยที่ส่งไปขายในตลาดยุโรปก็ยิ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าไทยมาก และช่วยเพิ่มมูลค่าขึ้น มีการนำไปสู่นิชมาร์เก็ตได้ง่ายขึ้น ราคาสินค้าก็จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเช่นกัน

แต่การจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI นั้น ไม่ใช่ง่ายๆ เนื่องจากสินค้า GI เป็นสินค้าที่ต้องมีความเชื่อมโยงกับสถานที่ผลิต ไม่ว่าจะเป็นดิน อากาศ แร่ธาตุ รวมไปถึงขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม เช่น ข้าวหอมมะลิต้องเก็บเกี่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีประเพณีทำกันมา และพื้นดินที่ปลูกข้าวหอมมะลิจะต้องมีความแตกต่างออกไป เช่น ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ต้องเป็นดินทราย มีค่า pH = 4.0-5.5% O.M.< 1% available -P < 10 ppm extractable -K ประมาณ 10-15 ppm สภาพอากาศชื้น มีความชื้นประมาณ 78% เป็นต้น หรือแม้แต่ของชาวต่างชาติเช่น พาม่าแฮมก็ต้องตากตรงช่องเขาแอลป์ ช่วงนั้นๆ เพราะจะมีลมโกรกตลอดทั้งปี ทำให้ขาหมูสุขด้วยลมภูเขาและมีกลิ่นหอม เช่นเดียวกับแชมเปญที่ต้องใช้องุ่นที่ปลูกในแคว้นแชมเปญ และการเก็บหมักในห้องใต้ดินในแคว้นเดียวกัน การหมุนแก่วงลงล้อที่เสียบขวดไว้ในแต่ละครั้งต้องใช้คน ซึ่งมีความชำนาญตกทอดมาจากรุ่นปู่ย่า

การดำเนินงานทั้งก่อนและหลังขึ้นทะเบียนจึงต้องเข้มงวด สร้างความเข้าใจกับชุมชน ประชุมเลือกสินค้า ลงทะเบียนผู้ผลิตในชุมชนที่จะเป็นสมาชิกผลิตสินค้านั้น และไม่ให้นำสินค้าข้างนอกเข้ามาปลอมปนในพื้นที่ การผลิตต้องเป็นขบวนการที่เหมือนกัน ไม่ลัดขั้นตอน ไม่มักง่าย มีการจัดทำคู่มือให้กับชาวบ้าน นอกจากนี้ตลอดระยะเวลาการผลิตต้องมีการตรวจสอบสองระดับคือ การตรวจสอบภายใน ได้แก่ ระดับชาวบ้านในชุมชน ตรวจสอบกันเอง และระดับที่สองเป็นการตรวจสอบจากภายนอก โดยหน่วยงานที่เป็นที่เชื่อถือได้ สมัยที่ผู้เขียนเป็นอธิบดีใช้การจ้างบริษัทต่างประเทศในสินค้าที่จะนำไปขึ้นทะเบียนในสหภาพยุโรป เนื่องจากหน่วยงานของไทยยังไม่มีหน่วยงานใดสามารถดำเนินการได้ แต่ปัจจุบันเท่าที่ทราบ กรมข้าว กระทรวงเกษตรฯ ฯลฯ เป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบในเรื่องข้าว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ผู้เขียนกังวลใจจนต้องเกริ่นไว้ข้างต้นน่าจะสรุปได้สั้นๆ เป็น 2 เรื่อง คือ

1.กระบวนการตรวจสอบของไทย ทั้งภายในและภายนอกต้อง เข้ม ตรง ซื่อสัตย์ เพื่อรักษาชื่อเสียง เนื่องจากสินค้า GI นั้น สามารถถูกถอดจากทะเบียน GI ได้ หากคุณสมบัติไม่ใช่ แต่สิ่งที่ผู้เขียนได้เห็นเมื่อเดินซื้อของในห้างใหญ่แห่งหนึ่ง พบว่าที่ห่อมีการเขียนไว้ว่า "ข้าวสังหยดเมืองพัทลุง" ซึ่งไม่ผิดหากเป็นผู้ผลิตในชุมชนที่ลงทะเบียนไว้ แต่เมื่อนำมาหุงแล้วมีความอร่อยน้อยกว่ามาก เนื่องจากผู้เขียนชอบทานข้าวสังหยดเมืองพัทลุง และในสมัยเป็นอธิบดี หรือแม้แต่เกษียณมาแล้ว ก็ยังสั่งซื้อข้าวชนิดนี้จากชุมชนที่ผลิตเป็นประจำมาระยะหลังๆ จึงเลิกไปเพราะเห็นมีในห้าง

แต่ปรากฏว่าข้าวไม่ได้เคี้ยวแล้วมีความเหนียวหนุ่มมันอร่อยที่สำคัญคือที่ห่อไม่มีเครื่องหมายรับรองว่า GI ที่เป็นรูปทรงข้าวบินของกรมทรัพย์สินทางปัญญา จึงไม่แน่ใจว่าพลาดกันที่ขั้นตอนไหน เคยหยิบยกขึ้นแจ้งให้ผู้บริหารกรมทราบ แต่ไม่มีความคืบหน้าอาจเนื่องมาจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ตั้งใจขึ้นทะเบียนเพียงอย่างเดียวเพื่อจะทำให้ครบทุกจังหวัดตามนโยบาย ซึ่งผู้เขียนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการใช้ปริมาณมาเป็นเครื่องประชาสัมพันธ์ โดยไม่สนใจคุณภาพ หากดูสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นเจ้าของ GI ตัวพ่อก็ไม่ได้จำเป็นว่าต้องมีสินค้า GI ทุกจังหวัด สินค้าที่สหภาพยุโรปบอกว่าเป็น GI มาจากแหล่งไหนจึงเชื่อถือได้ในเรื่องคุณภาพที่เด่นและแตกต่าง

2.การทำตลาด โดยเฉพาะกับสินค้าที่ไปขึ้นทะเบียนในต่างประเทศควรมีความร่วมมือกันระหว่างกรมที่ทำตลาดส่งออกกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าจะไปได้ดีมาก เนื่องจากมีตราของสหภาพยุโรปแปะรับรองไว้ แต่กลับไม่มีการบูรณาการกัน ผู้เขียนได้ทราบมาด้วยความแปลกใจว่า กรมต่างๆ ในกระทรวงพาณิชย์ ไม่มีการเบิกงบประมาณแบบบูรณาการทั้งๆ ที่งานหลายๆ เรื่องรวมทั้งเรื่อง GI ควรจะบูรณาการกัน ไม่แน่ใจว่าที่ทราบมานั้นถูกไหม

จำได้ว่าในสมัยผู้เขียนเคยทำโครงการสินค้าคู่แฝด โดยจับคู่ระหว่างสินค้า GI ของฝรั่งเศส คือแชมเปญดอมเปริยองกับไหมยกดอกลำพูนของไทย โดยใช้ไหมยกดอกลำพูนทำแพ็กเกจ เนื่องจากฝรั่งเศสต้องการมาขึ้นทะเบียนแชมเปญเป็น GI ในไทย จึงเกิดความร่วมมือได้ไม่ยาก แต่ปรากฏว่าโครงการนี้ได้เงียบหายไปอย่างน่าเสียดาย n

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ส. ผนึก DEA สหรัฐฯ เตรียมจัดประชุม Regional IDEC 2026 ที่เชียงราย