อมตะพระเครื่อง เมืองสยาม
สมาน สุดโตวันนี้ชมพระสมเด็จวัดเกศไชโยพิมพ์ 7 ชั้น นิยมพิมพ์ A เป็นพระเนื้อแก่ปูน หรือเนื้อแกร่งที่สวยมากองค์หนึ่ง เส้นสายคมชัดเหมาะเป็นแนวทางในการศึกษาสะสม สวยๆ แบบนี้ค่านิยมหลักล้านกลางเป็นของ ดร.อธิโชค วินทกร
สมาน สุดโต
วันนี้ชมพระสมเด็จวัดเกศไชโยพิมพ์ 7 ชั้น นิยมพิมพ์ A เป็นพระเนื้อแก่ปูน หรือเนื้อแกร่งที่สวยมากองค์หนึ่ง เส้นสายคมชัดเหมาะเป็นแนวทางในการศึกษาสะสม สวยๆ แบบนี้ค่านิยมหลักล้านกลางเป็นของ ดร.อธิโชค วินทกร
- พระสมเด็จวัดเกศไชโยสร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มีเอกลักษณ์คือ มีอกร่อง หูบายศรี มีขอบกระจกเกือบทุกพิมพ์เป็นพระเนื้อปูนขาว ด้านหลังขององค์พระจะมองเหมือนหินสบู่ พิมพ์ที่นิยมมี 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 7 ชั้นนิยม พิมพ์ 6 ชั้นอกตัน และพิมพ์ 6 ชั้นอกตลอด
- เนื้อพระสมเด็จวัดเกศไชโยอาจแบ่งได้ 3 ลักษณะ คือ เป็นพระเนื้อนุ่ม เนื้อนุ่มปานกลาง และเนื้อแกร่ง พระเนื้อนุ่ม หรือเนื้อจัด มีสีขาวขุ่นอมน้ำตาลเหมือนเนื้อสมเด็จวัดระฆัง ส่วนพระเนื้อนุ่มปานกลาง ส่วนใหญ่สีขาวอมเหลืองเหมือนเนื้อสมเด็จบางขุนพรหม และพระเนื้อแกร่งเป็นพระเนื้อแก่ปูน ผิวแห้งแกร่ง
- ตามบันทึกของพระยาทิพโกษา (สอน โลหะนันท์) ได้บันทึกจากการบอกเล่าของพระธรรมถาวร จันทโชติ สามเณรที่ช่วยท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ตำผงเพื่อสร้างพระสมเด็จประมาณปี พ.ศ. 2409 ที่วัดระฆังฯ ว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นผู้สร้างสมเด็จวัดเกศไชโยขึ้น เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับโยมมารดาที่ชื่อเกศ
- ท่านสร้างพระพิมพ์สมเด็จ 7 ชั้น หลังจากแจกแล้วได้บรรจุที่วัดไชโยวิหาร ซึ่งท่านได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่วัดนี้ พระสมเด็จวัดเกศไชโยทั้ง 3 พิมพ์นี้ เป็นพระพิมพ์ทรงสี่เหลี่ยมตัดขอบทั้ง 4 ด้านจะ มนแทบทุกองค์ รวมทั้งมุมทั้ง 4 มุมด้วย มีกรอบกระจกจากพื้นผนังกรอบอีกชั้นหนึ่ง และมีพุทธลักษณะ คล้ายกัน ต่างกันแค่ที่ฐานอาสนะ 7 ชั้น และ 6 ชั้น เท่านั้น
พระสมเด็จวัดเกศไชโยทั้ง 3 พิมพ์ พิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ พระสมเด็จวัดเกศไชโย พิมพ์ 7 ชั้น ซึ่งมีทั้งพิมพ์เอและบี
จุดตำหนิที่สำคัญในการพิจารณาของพิมพ์เอคือ
- พระเกศจะเป็นปลีป่องตรงกลาง
- พระกรรณข้างซ้ายจะสูงกว่าพระกรรณข้างขวา
- พระพักตร์กลมเหมือนเม็ดพริกไทย
- พระพักตร์และพระศอดูคล้ายไม้ขีดไฟ
- เส้นคอจะเห็นแยกเป็นสองเส้น
- องค์พระที่ติดคมชัด ช่วงโคนแขนและหัวไหล่จะมองเหมือนอินธนูวางบนบ่า
- ปลายติ่งหูด้านซ้ายมือจะเห็นเส้นแตกบางๆ แต่คมมาก
- ปลายฐานชั้นล่างสุดทั้งสองข้างจะเป็นเดือยวิ่งเข้าชนเส้นครอบแก้ว
- ปลายฐานชั้นล่างสุดทางซ้ายขององค์พระจะแหลมคมกว่าทางด้านขวา
- การแตกลายงาจะเป็นเส้นที่ไม่ตรงต่อเนื่องกันทั้งองค์
- ที่ขอบพระมักจะมีรอยแตกรายงา
- เนื้อพระจะละเอียดมองไปคล้ายหินสบู่ที่มันลื่นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- ขอบพระส่วนมากจะมน
- จุดสำคัญอีกจุดคือมุมขวาบนของกรอบกระจกองค์พระ มองไปคล้ายชายธงและจะเป็นแอ่งเล็กๆ
- ขอบกระจกด้านล่างขวามือของเราจากฐานชั้นที่สามนับจากข้างล่างเป็นแอ่งท้องช้าง
- เส้นขอบล่างของหน้าตักแอ่นโค้งขึ้นเล็กน้อย
- เส้นฐานล่างสุดโค้งขึ้นเล็กน้อย
จากกันด้วยข้อคิด "หากเราปรับตัวได้เหมือนน้ำ ไม่ว่าอยู่ในภาชนะใดก็จะเป็นทรงนั้น ชีวิตย่อมพบแต่ความสุข"
อาจารย์ชวินทร์ [email protected]


