ด่านชายแดนเชียงของ
กริช อึ้งวิทูรย์สถิตย์ครั้งที่ผ่านมาเล่าถึงที่มาที่ไปว่าผมทำไมต้องมาด่านชายแดนเชียงของ ผมคิดว่าเป็นชะตาชีวิตของผมที่ท่านพระพรหมได้ลิขิตให้ผมต้องทำการค้าชายแดนแน่ๆ เลยครับ เพราะหลังจากที่ผมได้มาถึงเชียงของ พี่สาวลูกลุงผมทำการค้าโดยเปิดร้านขายของชำ ชื่อร้าน "จังเลี่ยงฮง" อยู่ที่บ้านเลขที่ 74 ถนนสายกลาง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ตรงปากทางลงท่าเรือ ใกล้ๆ วัดหลวง
กริช อึ้งวิทูรย์สถิตย์
ครั้งที่ผ่านมาเล่าถึงที่มาที่ไปว่าผมทำไมต้องมาด่านชายแดนเชียงของ ผมคิดว่าเป็นชะตาชีวิตของผมที่ท่านพระพรหมได้ลิขิตให้ผมต้องทำการค้าชายแดนแน่ๆ เลยครับ เพราะหลังจากที่ผมได้มาถึงเชียงของ พี่สาวลูกลุงผมทำการค้าโดยเปิดร้านขายของชำ ชื่อร้าน "จังเลี่ยงฮง" อยู่ที่บ้านเลขที่ 74 ถนนสายกลาง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ตรงปากทางลงท่าเรือ ใกล้ๆ วัดหลวง
ตอนผมมาใหม่ๆ สิ่งแรกเลยที่พี่สาวให้ช่วยคือ กลางวันให้ช่วยเลี้ยงลูก ซึ่งท่านมีลูก 12 คน และช่วยขายของหน้าร้าน กลางคืนท่านได้จ้างครูจีนชื่อครูหลี่ หรือหลี่เล่าซือ มาสอนพิเศษที่บ้าน หลี่เล่าซือท่านเป็นชาวจีนฮ่ออพยพ เป็นพวกทหารก๊กมินตั๋ง ท่านก็เป็นผู้มีความรู้ภาษาจีนกลางดีมาก ผมจึงได้พื้นฐานภาษาจีนจากท่านผู้นี้แหละครับ
ส่วนกลางวันพี่สาวผมก็จะสอนผมและลูกๆ ของท่านให้จัดเรียงสินค้า หรือในยุคนี้ก็คือ การจัด Display นั่นเอง ทำให้พวกเรามีพื้นฐานในการทำมาร์เก็ตติ้งเบื้องต้นตั้งแต่เด็กๆ จากนั้นก็สอนผมพูดภาษาจีนฮ่อในการเรียกพวกชาวเขาเผ่าต่างๆ เช่น ม้ง เย้า มูเซอ อาข่า จีนฮ่อ ซึ่งชน กลุ่มนี้โดยมากจะมาจากมณฑลยูนนาน จึงสามารถสื่อสารภาษาจีนฮ่อได้
พี่สาวผมบอกว่า ถ้าเห็นเขาเหล่านี้เดินผ่านหน้าร้าน ให้ร้องเรียกเลยว่า "เหยา น่า ย๋าง" แปลว่า "ต้องการอะไร" พอเขาพูดตอบ แรกๆ พวกเราก็ไปต่อไม่เป็นแล้วครับ รีบวิ่งไปบอกพี่สาว ท่านก็จะสอนว่าเขาพูดอย่างนี้แปลว่าเขาต้องการอย่างนั้นอย่างนี้ พวกเราเด็กๆ ก็ครูพักลักจำเอา ก็ถูๆ ไถๆ ผ่านไปสามเดือนหกเดือน ชักเก่ง เริ่มเข้าใจภาษาจีนฮ่อได้มากขึ้น เริ่มมีชั่วโมงบินมากขึ้นครับ พี่สาวท่านก็สอนให้จำตัวอักษรจีนสิบตัว เป็นสัญลักษณ์เลขหนึ่งถึงสิบ และร้อย พัน เขียนอย่างไร
พอท่านสั่งสินค้ามาขาย ของส่งมาจากยี่ปั๊วหรือโฮเซลส์เลอร์ที่ลำปาง ผมก็จะช่วยท่านตรวจนับสินค้า และช่วยกันเขียนสัญลักษณ์ต้นทุนสินค้าลงในตัวสินค้า เราก็ไม่ต้องจำต้นทุนของเราแล้ว พอเริ่มปีกกล้าขาแข็ง พี่สาวท่านก็ให้พวกเราเด็กๆ ช่วยกันขายและตัดสินใจกันเองเลย ถ้ามีกำไรก็สามารถขายเองได้เลย ถ้ากำไรน้อยก็ต้องถามพี่สาวว่าจะขายได้หรือเปล่า พวกเราจะช่วยกันขายปลีกอย่างสนุกสนานครับ เพราะทุกวันจะมีเรือข้ามมาจากฝั่ง สปป.ลาว ถ้าเป็นลูกค้ารายใหญ่ พี่สาวจะเป็นคนดูแลค้าขายเอง แต่ถ้าเป็นรายเล็กๆ ปลีกๆ ย่อยๆ พวกเด็กๆ อย่างพวกผมจะเป็นคนขายเองครับ
สำหรับลูกค้ารายใหญ่ๆ พี่สาวผมดูแลเองนั้น โดยมากจะเป็นลูกค้าที่มาจากเมืองไกลๆ เช่น เมืองน้ำเกิ่ง เมืองหลวงพระบาง เมืองหลวงน้ำทา เมืองสิงห์ ฯลฯ ซึ่งลูกค้ารายใหญ่ๆ เหล่านี้พอเข้ามาถึงเชียงของ เขาจะมีโพยมาด้วย พวกเราเลยต้องพยายามเรียนรู้การอ่านภาษาลาวให้ได้ แล้วเอาโพยมานั่งอ่าน ตีโจทย์ให้แตก กลางคืนก็เตรียมจัดของเพื่อเตรียมส่ง เช้ามืดฟ้าเริ่มสร่าง พวกเราก็จะช่วยกันเอากล่องสินค้าใส่รถเข็น ลากลงไปส่งที่เรือ แปดโมงส่งเสร็จก็จะไปทานข้าว เสร็จต่างแยกย้ายกันทำงานหรือไปโรงเรียนกันต่อไป
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการค้าขายที่ได้มาอีกอย่างหนึ่ง คือความใจเย็น เพราะพี่สาวผมเป็นมนุษย์ที่มีความใจเย็นเป็นที่สุด ท่านไม่ค่อยจะโกรธใคร ท่านเป็นคนใจดีมาก ไม่ค่อยจะตีลูก อีกทั้งท่านจะสอนลูกๆ ของท่านและพวกเราน้องๆ ทุกคนให้ใจเย็นๆ ทำอะไรให้รอบคอบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมมักจะเอามาใช้กับชีวิตผมในปัจจุบันเยอะมาก การที่พวกผมได้อยู่และเรียนรู้จากพี่สาว นับเป็นบุญอย่างใหญ่หลวง เสียดายที่ท่านจากไปเร็วเกินไป และลูกๆ ทุกคนได้ย้ายถิ่นฐานมาทำมาหากินที่ลำปางกันหมด เช่น หยาดฝนก็ไปทำโรงงานไม้ปาร์เกต์ที่ลำปาง ชูชัย จันทร์สกาว ก็ไปทำธุรกิจเปิดตลาดกาดทุ่งเกวียน ที่ใกล้ๆ ขุนตาน ส่วน ชูศักดิ์ จันทร์สกาว ก็เปิดโรงงานเซรามิก หลานสาวคนเล็กอีกสองคนก็เปิดโรงงานเซรามิก ที่ลำปางเช่นกัน เลยไม่มีใครทำธุรกิจที่เชียงของต่อ จึงเป็นที่น่าเสียดายที่ปัจจุบันนี้ร้าน "จังเลี่ยงฮง" ต้องปิดตัวลงไปครับ


