ย้อนรอยปัญหา ที่จอดรถสุวรรณภูมิ
ชายฉกรรจ์กว่า 100 คน ที่มาปิดล้อมอาคารจอดรถเอ และ บี สนามบินสุวรรณภูมิ สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก โดยบริษัทที่เป็นตัวก่อปัญหานี้คือ บริษัทปาร์คกิ้ง แมนเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานการบริหารพื้นที่ภายในอาคารลานจอดรถเอและบีของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ชายฉกรรจ์กว่า 100 คน ที่มาปิดล้อมอาคารจอดรถเอ และ บี สนามบินสุวรรณภูมิ สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก โดยบริษัทที่เป็นตัวก่อปัญหานี้คือ บริษัทปาร์คกิ้ง แมนเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานการบริหารพื้นที่ภายในอาคารลานจอดรถเอและบีของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ที่ผ่านมา บริษัทดังกล่าว ชนะการประมูลเข้าเป็นผู้รับสัมปทานดังกล่าว เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เม.ย.53 เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า ผู้ถือหุ้นของบริษัทนี้มีความขัดแย้งภายในกัน ตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัท เพราะผู้ถือหุ้นทั้ง 2 กลุ่ม อยู่ระหว่างการฟ้องร้องกันไปมาในเรื่องสิทธิการบริหารบริษัท ปาร์คกิ้ง แมนเนจเมนท์ฯ
ทั้งนี้ ความขัดแย้งดังกล่าว เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย. 2553 หลังจากที่ ได้รับสัมปทานเข้าบริหารพื้นที่ลานจอดรถ ซึ่งผู้บริหารทอท.รับทราบปัญหาเป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถจัดการอะไรได้ เนื่องจากผู้ถือหุ้นบริษัทดังกล่าว มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสายทหารอย่างมาก
เรื่องของเรื่องเริ่มตั้งแต่ ทอท.ได้เปิดประมูลหาเอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่อาคารจอดรถ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าบริษัท บริษัท วี ดับเบิ้ลยู ไอเอ็น จำกัด ของนายจุมพล ญาณวินิจฉัย และบริษัทสแตนดาร์ด พร้อมพ์ จำกัด ของนายธนกฤต เจนกิตติโชค ได้ร่วมกันยื่นซองเสนอราคาคัดเลือกเป็นผู้บริหารจัดการอาคารและลานจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2553 และชนะการประมูล โดย ทอท. ได้แจ้งสิทธิให้บริษัทดังกล่าวเป็นผู้บริหารจัดการอาคารและลานจอดรถ เมื่อวันที่16 มี.ค.53 ที่ผ่านมา
แต่ปรากฏว่า ทั้ง 2 บริษัท ไม่มีงบประมาณในการดำเนินการบริหารจัดการ ทำให้ นายธนกฤต ตัดสินใจขายหุ้นจำนวน 90% ของบริษัท บริษัท สแตนดาร์ดพร้อมพ์ฯ ให้แก่นายธรรศ พจนประพันธ์ ก่อนที่บริษัท สแตนดาร์ดพร้อมพ์ฯ และบริษัท วีดับเบิ้ลยูไอเอ็นฯ จะร่วมกันเปิดบริษัท ใหม่ ปาร์คกิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด เป็นผู้บริหารลานจอดรถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แทน และในวันที่ 1 เม.ย.2553 นายธรรศ ได้มอบหมายให้นายธนกฤตและนายจุมพล เป็นผู้บริหารจัดการบริษัทสแตนดาร์ด พร้อมพ์ จำกัด ก่อนลงนามในสัญญากับทอท. วันที่ 23 เม.ย.53 โดยนายธรรศได้ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการของนายธรรศ โดยให้เข้าไปทำหน้าที่บริหารจัดการบริษัทแทนนายจุมพลและนายธนกฤต โดยระบุว่ามีการยักยอกเงินที่เก็บได้จากการประกอบการตามสัญญาไป
อย่างไรก็ตาม นายธนกฤต เจนกิตติโชค และนายธรรศ พจนประพันธ์ ได้ถือสิทธิในการคุมการบริหารพื้นที่ลานจอดรถ เพราะเป็นผู้ติดต่อกับ ฝ่ายบริหารทอท. ทำให้ดำเนินการเก็บค่าจอดรถแทน ฝ่ายนาย ธรรศ ซึ่งท้ายสุดหากทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ โดยเรื่องดังกล่าว มีการแจ้งความ และฟ้องร้องต่อศาลอยู่ ซึ่งความขัดแย้งดังกล่าว ทำให้ บริษัทปาร์คกิ้งฯ ยังไม่ได้ส่งเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้กับ ทอท. โดยได้ครบกำหนด 4 เดือน ไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ ทอท.ต้องไปหักเงินค้ำประกันที่วางไว้กับทางธนาคาร จำนวน 66 ล้านบาท และในขณะนี้ก็ยังพบว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นด้านนายธนกฤต เจนกิตติโชค ได้ขายหุ้นให้กับทางบริษัทซันไชน์ฯ ไปแล้ว และทางซันไชน์ ก็ได้มอบหมายให้ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นด้านนายธรรศ เข้ามายึดพื้นที่การบริหารลานจอดรถคืน


