posttoday

‘ทีพีพี-11’ เครื่องช้า จ่อพลาดดีลใหญ่ทันใจ

08 พฤศจิกายน 2560

ชญานิศ ส่งเสริมสวัสดิ์นับตั้งแต่ตัวตั้งตัวตีในอดีตอย่างสหรัฐผันตัวออกจากข้อตกลงการค้าพหุภาคีอย่างความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นรับตำแหน่ง ชะตากรรมของข้อตกลงการค้าในรูปแบบดังกล่าวก็ติดอยู่ระหว่างจะ "รอด" หรือ "ร่วง"

ชญานิศ ส่งเสริมสวัสดิ์

นับตั้งแต่ตัวตั้งตัวตีในอดีตอย่างสหรัฐผันตัวออกจากข้อตกลงการค้าพหุภาคีอย่างความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นรับตำแหน่ง ชะตากรรมของข้อตกลงการค้าในรูปแบบดังกล่าวก็ติดอยู่ระหว่างจะ "รอด" หรือ "ร่วง"

ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์เป็นตัวตั้งตัวตีในการผลักดันทีพีพีที่ไร้สหรัฐ หรือ "ทีพีพี-11" ประกอบไปด้วย 11 ชาติที่เหลือ ได้แก่ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย แคนาดา บรูไน ชิลี เม็กซิโก เปรู สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม

นิวซีแลนด์เป็น 1 ใน 2 ชาติที่ให้สัตยาบันในข้อตกลงทีพีพีเมื่อเดือน พ.ค. ตามหลังญี่ปุ่นที่ให้สัตยาบันในวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่ทรัมป์ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดี โดย บิล อิงลิช รัฐมนตรีพาณิชย์นิวซีแลนด์ในขณะนั้น ได้เดินทางไปญี่ปุ่นและผลักดันให้เกิดการพูดคุยทีพีพี-11 ขึ้น

การประชุมนอกรอบของความ ร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่จัดประชุมในเมืองดานังของเวียดนาม เป็นการพบปะกันครั้งแรกในระดับผู้นำประเทศของทีพีพี-11 (มีสหรัฐเข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์) โดยญี่ปุ่นและออสเตรเลียต่างเป็นตัวตั้งตัวตีในการผลักดันให้การประชุมครั้งนี้ได้ข้อตกลงหลักๆ ซึ่งญี่ปุ่นมั่นใจว่าจะต้องได้ข้อตกลงภายในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม หลายชาติเริ่มทยอยส่งสัญญาณว่าข้อตกลงนั้นไม่จำเป็นต้องประกาศทันทีในการประชุมครั้งนี้ แม้กระทั่งนิวซีแลนด์ที่เคยเป็นตัวตั้งตัวตีร่วมกับญี่ปุ่นก็ตาม โดย เดวิด ปาร์กเกอร์ รัฐมนตรีพาณิชย์ของนิวซีแลนด์คนปัจจุบัน เปิดเผยกับสำนักข่าวรอย เตอร์สว่า การเจรจายังคงไม่สามารถหาผลสรุปได้ ซึ่งแม้หลายชาติจะต้องการให้เสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้ แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้หรือไม่

จุดยืนของนิวซีแลนด์เปลี่ยนไปเมื่อเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง และได้รัฐบาลใหม่เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น ผู้นำคนใหม่ของนิวซีแลนด์ ระบุว่า ข้อตกลงใหม่อาจจะไม่สามารถตกลงกันได้ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากนิวซีแลนด์ต้องการเวลาเพื่อที่จะเจรจาให้ได้ข้อตกลงที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่นิวซีแลนด์

"พวกเรามีภาระรับผิดชอบที่จะมาเจรจาและทำให้ข้อตกลงนั้นเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับนิวซีแลนด์" อาร์เดิร์น กล่าว

นิวซีแลนด์ไม่ใช่ชาติเดียวที่ไม่ต้องการเร่งรัดการเจรจาการค้าระดับพหุภาคี โดย ฟรองซัวส์-ฟิลลิป แชมเปญ รัฐมนตรีพาณิชย์ของแคนาดา เปิดเผยว่า การเจรจาควรจะมุ่งไปที่ผลลัพธ์มากกว่าความรวดเร็ว ซึ่งข้อตกลงควรจะได้ผลในระยะยาว และได้รับประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย ทำให้ยากจะเจรจา แม้ทีพีพีจะเป็นรูปเป็นร่างมาก่อนหน้าแล้ว

การถอนตัวของสหรัฐยังสั่นสะเทือนผลประโยชน์ของแต่ละประเทศ และทำให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นสมาชิกทีพีพีเองได้รับประโยชน์น้อยลง ส่งผลให้แรงจูงใจน้อยลงที่จะเร่งการเจรจาทีพีพี-11 ให้บรรลุผลโดยเร็วน้อยลงตามไปด้วย

เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่จะได้ผลประโยชน์มากที่สุดจากทีพีพี แต่เมื่อสหรัฐถอนตัวออกไป ผลประโยชน์ที่จะได้รับก็ลดลง เช่น สินค้าประเภทสิ่งทอจากเวียดนาม แม้จะยังมีออสเตรเลียซึ่งเป็นตลาดชุดว่ายน้ำขนาดใหญ่ แต่จากผลการศึกษาของ แดน คิวเรียค อดีตรองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกรมกิจการและการค้าระหว่างประเทศของแคนาดา พบว่าเวียดนามจะสูญเสียโอกาสในการส่งออกมากที่สุด เนื่องจากสหรัฐยังคงเป็นตลาดใหญ่สำหรับการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

นอกจากนี้ จากการศึกษาของ คิวเรียค พบว่าทีพีพีโดยปราศจากสหรัฐจะช่วยเพิ่มการค้าระหว่างภูมิภาคได้ 2.43% เป็นเงิน 1.61 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.63 แสนล้านบาท) หากมีผลบังคับใช้ในปี 2017 ลดลงจากทีพีพี-12 ที่มากกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.4 ล้านล้านบาท)

สำหรับมาเลเซียแล้ว ส่งสัญญาณที่ไม่ยอมรับข้อตกลงที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยข้อตกลงบางประการของทีพีพีกลายเป็นความท้าทายของประเทศกำลังพัฒนา เช่น การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการยกระดับมาตรฐานสิทธิแรงงาน ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลให้การพูดคุยทีพีพีในสมัยของอดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา เป็นไปด้วยความยากลำบาก

"พวกเราคุยกับคู่ค้าว่ามีข้อบังคับบางประการจำเป็นต้องตัดทิ้งไป เพราะการเจรจาใหม่กินระยะเวลานาน ซึ่งพวกเราเห็นตรงกันว่าถ้าต้องเจรจาใหม่อาจกินเวลา 5 ปี หรือ 10 ปี ดังนั้นพวกเราจึงไม่ต้องการเจรจาใหม่" มุสตาฟา โมฮัมเหม็ด รัฐมนตรีพาณิชย์มาเลเซีย กล่าว

ในขณะเดียวกันการประชุมในเวทีหลักอย่างเอเปกก็มีชะตาไม่ต่างกับทีพีพี-11 มากนัก โดยทุกประเทศสมาชิกทีพีพี-11 ต่างเป็นสมาชิกของเอเปกด้วย

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างแหล่งข่าว 3 รายที่เกี่ยวข้องกับการประชุมเอเปกระดับรัฐมนตรี ว่า สหรัฐซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกเอเปก ไม่ต้องการให้แถลงการณ์ร่วมระบุข้อความแสดงการสนับสนุนการค้าเสรีและต่อต้านการปกป้องการค้า ส่งผลให้เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีพาณิชย์เอเปกไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมได้ จนต้องเร่งเจรจาอีกครั้งช่วงเช้าของวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้ทันก่อนพิธีเปิดประชุมระดับสุดยอดผู้นำในวันนี้

"พวกเรารู้สึกถึงอิทธิพลทรัมป์ในเอเปก" หนึ่งในแหล่งข่าวเปิดเผยกับเอเอฟพี ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายระบุว่า สหรัฐกังวลต่อการใส่ข้อความที่เกี่ยวข้องกับการค้าเสรีและการปกป้องการค้า

การพูดคุยการค้าในกรอบพหุภาคีจะยังคงดำเนินต่อไป แต่อาจไร้แรงขับมากพอที่จะเกิดเป็นรูปเป็นร่างได้ในเร็วๆ นี้ n

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ