หมวก ดี.ไอ.วาย. โดนใจเซเลบ
เรื่อง ภาดนุ หลายคนนำงานอดิเรกมาสร้างเป็นอาชีพได้ ซึ่ง ทิพย์-ระวีนันท์ พุทธวิเชียร ก็เป็นหนึ่งในนั้น สิ่งที่เธอทำคือ หมวก D.I.Y. สุดเก๋ ที่เริ่มต้นจากความจำเป็นบีบบังคับ แต่ทุกวันนี้เธอกลับหลงรักการทำหมวกแฮนด์เมดแบบหมดใจ เพราะได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไป จนสามารถสร้างรายได้ให้อย่างงาม
เรื่อง ภาดนุ
หลายคนนำงานอดิเรกมาสร้างเป็นอาชีพได้ ซึ่ง ทิพย์-ระวีนันท์ พุทธวิเชียร ก็เป็นหนึ่งในนั้น สิ่งที่เธอทำคือ หมวก D.I.Y. สุดเก๋ ที่เริ่มต้นจากความจำเป็นบีบบังคับ แต่ทุกวันนี้เธอกลับหลงรักการทำหมวกแฮนด์เมดแบบหมดใจ เพราะได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไป จนสามารถสร้างรายได้ให้อย่างงาม
"เดิมทีดิฉันเปิดร้านขายเสื้อผ้าชื่อ 'พลอยนภัส' อยู่ที่ตลาดแอปเปิ้ลพลาซ่า (ด้านหลังตึกการบินไทย) และได้รับซื้อหมวก ดี.ไอ.วาย. มาขายที่ร้านควบคู่ไปด้วย แต่ต่อมาคนทำหมวกกลับไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามความต้องการของลูกค้า เป็นเหตุให้ดิฉันซึ่งไม่มีฝีมือในการประดิษฐ์มาก่อน จำเป็นต้องหันมาลงมือทำเอง ทั้งที่ไม่มีหัวทางด้านนี้เลยค่ะ
ตอนแรกก็คิดว่าคงทำไม่ได้ เพราะปกติไม่ชอบเย็บปักถักร้อยอยู่แล้ว แต่ที่ตัดสินใจทำเพราะรู้สึกว่าอยากทำเพื่อส่งให้ลูกค้าได้ตรงเวลาซะมากกว่า
ดิฉันจึงไปซื้ออุปกรณ์มาลงมือทำเอง แรกๆ ก็ทำออกมาไม่สวยเลย ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ งานไม่เรียบร้อย เลยต้องปรับตัวเองครั้งใหญ่ จากที่เคยเปิดนิตยสารดูแค่แฟชั่นเสื้อผ้า ก็เริ่มให้ความสำคัญกับหมวกและเครื่องประดับมากขึ้น ด้วยการเปิดชมการแข่งขันโปโลของอังกฤษที่มีคนชอบใส่หมวกกันเยอะๆ เพื่อให้มีไอเดียใหม่ๆ"
ทิพย์บอกว่า ไม่เพียงแต่ดูเพื่อให้เกิดไอเดียเท่านั้น แต่เธอยังลงลึกไปถึงเรื่องการออกแบบ ดูรูปทรงของหมวก และการนำวัสดุต่างๆ มาประดิษฐ์ตกแต่งด้วย โดยหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ รวมถึงเดินสำรวจแหล่งค้าส่งใหญ่ๆ อย่าง แพลทินัม ประตูน้ำ และย่านเจริญรัถ
"หมวกที่นำมาใช้ประดิษฐ์ ดิฉันจะเลือกหมวกที่พับแล้วไม่ยับ ไม่เสียทรงง่าย เพราะต้องคำนึงถึงการขนส่งและการนำไปใช้ของลูกค้าด้วย อย่างเวลาเดินทางถ้านำหมวกใส่กระเป๋า เมื่อหยิบออกมาแล้วไม่เสียทรง ลูกค้าก็จะรู้สึกประทับใจ สำหรับรูปทรงของหมวก ลูกค้าส่วนใหญ่จะบอกความต้องการมาว่าชอบทรงแบบไหน จากนั้นจะให้เราประดับตกแต่งเพิ่มเติม ตอนไปเลือกซื้อหมวกจะมีหลากหลายรูปทรงมาก มีทั้งหมวกมือหนึ่งและมือสอง ทั้งแบบเก๋ๆ ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งปัจจุบันก็หาซื้อในเว็บไซต์ด้วย แต่ราคาจะค่อนข้างสูงหน่อย
สำหรับวัสดุที่นำมาตกแต่ง จะมีทั้งลูกปัด โบ และลูกไม้ โดยต้องเลือกที่คุณภาพดี ยกตัวอย่าง ลูกไม้ ก็จะเลือกใช้สินค้านำเข้าจากอิตาลีหรือฝรั่งเศส ที่นิยมนำมาใช้ตัดชุดเจ้าสาว แม้ลูกไม้จะมีราคาแพง แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพและความหรูหราแล้ว ก็ควรค่าแก่การซื้อมาตกแต่งหมวก เพราะสามารถเพิ่มมูลค่าตอนขายได้ ซึ่งจะขายใบละ 1,590-3,690 บาท อย่างหมวกมือสองก็จะเลือกที่สภาพดี ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ส่วนมากเป็นแบรนด์ดังของต่างประเทศ แต่เมื่อนำหมวกมาตกแต่งขาย ดิฉันจะแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนทุกครั้ง ถือเป็นความซื่อสัตย์ต่อกัน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยอมรับได้ แถมชอบด้วย เพราะหมวกบางแบบหายากมาก"
ด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการประดิษฐ์ที่จะเน้นวิธีเย็บมากกว่าติดกาว เพื่อให้เกิดความคงทน แต่หากลูกค้านำไปใช้แล้วเกิดชำรุด ก็สามารถนำกลับมาให้ซ่อมได้เช่นกัน
"แม้ตอนนี้คู่แข่งจะน้อยมาก แต่ดิฉันก็ไม่มองข้ามความคิดสร้างสรรค์ที่จะผลิตหมวก ที่มีคุณภาพออกมา สิ่งที่ทำให้อยู่มาได้จนถึง ทุกวันนี้ก็คือ บริการหลังการขายที่พร้อมจะดูแลลูกค้าไปตลอด ชำรุดเสียหายก็ซ่อมให้ฟรี หรือถ้านำหมวกใบเก่ามาตกแต่งใหม่ ก็จะคิดค่าอุปกรณ์ไปตามความเหมาะสม อีกอย่างความจริงใจ ความใส่ใจ คือสิ่งสำคัญ ทำให้ตลอดเกือบ 8 ปีที่ผ่านมา ดิฉันจึงยืนอยู่ในอาชีพนี้ได้
อย่างถ้าลูกค้าใส่หมวกทรงนี้ไม่เหมาะ เราก็จะบอกตรงๆ เลยค่ะ หรือว่าทรงที่ลูกค้าต้องการ พอทำออกมาแล้วดูไม่สวย เราก็จะถามและร่วมกันแสดงความคิดเห็นกับลูกค้า เพราะผู้ขายควรแนะนำแต่สิ่งดีๆ ให้กับลูกค้าเสมอ ถ้าลูกค้าใส่แล้วสวย เมื่อไปพบเจอใครเขาก็จะได้รับคำชม โอกาสที่คนจะถามถึงแหล่งซื้อก็ตามมา"
ทิพย์บอกว่า โดยเฉลี่ยต่อเดือนจะขายหมวกได้ 50-100 ใบ ซึ่งพอทำเสร็จเธอจะโพสต์ ลงไอจี ไลน์ และเฟซบุ๊ก ลูกค้าประจำที่มีอยู่ก็ จะเข้ามาจับจอง บางคนซื้อครั้งหนึ่ง 10-20 ใบ ก็มี นอกจากนี้ยังมีหมวกบางส่วนที่ทำแล้วไปวางโชว์ไว้ที่ร้านเพื่อน เพื่อสร้างการพบเห็นให้กับลูกค้ารายใหม่ๆ ด้วย
"กลุ่มลูกค้าหลักๆ จะเป็นระดับบีบวกขึ้นไป โดยมีทั้งเซเลบริตี้ นักธุรกิจ ผู้บริหาร แอร์โฮสเตส ภริยานายทหาร และดารา และยังมีกลุ่มลูกค้าผู้ชื่นชอบการสวมใส่หมวกชนิดที่เรียกว่าติดเลยเยอะมาก บางคนแต่งตัวเรียบๆ แค่มีหมวกเก๋ๆ ใบเดียว ก็ดูดีขึ้นมาแล้ว ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง แล้วก็จะมีกลุ่มที่ต้องการหมวกเพื่อไปใช้ในงานปาร์ตี้ด้วย ดังนั้นช่วงเทศกาลปีใหม่ยอดขายจึงดีมากๆ"
ทิพย์ทิ้งท้ายว่า ไม่เพียงแต่สินค้าประเภทหมวกเท่านั้นที่เธอมองไว้ แต่เธอยังมองไปถึงเครื่องประดับ เช่น ต่างหู กิ๊บติดผม และที่คาดผม ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้เธอจะเริ่มทำออกมาขายด้วย
"ข้อดีของการทำธุรกิจเล็กๆ นี้คือ มีคู่แข่งน้อยรายมาก และถ้าจะมีคนทำขายเพิ่มขึ้น ก็ไม่ถือว่าแย่งตลาดกัน พูดตรงๆ ว่าไม่เคยกลัวเรื่องก๊อบปี้นะ เพราะเชื่อว่าอย่างไรก็ไม่เหมือน ขนาดทำเองแต่ละใบยังไม่เหมือนกันเลย (หัวเราะ) นี่คือข้อดีของงานแฮนด์เมดหรืองานที่ใช้ไอเดีย จึงสามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง และมีลูกค้าประจำเหนียวแน่นมากค่ะ"
สนใจติดต่อได้ที่โทร. 08-1682-0682 Line ID : Raveenan, IG : hat_tippy และ FB : Raveenan Putavichein n


