ธปท.โชว์ดัชนีเอกชนมั่นใจภาวะธุรกิจดี
ธปท.เปิดดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจผู้ประกอบการมอง 3 เดือนข้างหน้าธุรกิจจะดีขึ้น ส่วนดัชนีเชื่อมั่นเดือน ต.ค. ลดชั่วคราว
ธปท.เปิดดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจผู้ประกอบการมอง 3 เดือนข้างหน้าธุรกิจจะดีขึ้น ส่วนดัชนีเชื่อมั่นเดือน ต.ค. ลดชั่วคราว
ฝ่ายวิเคราะห์สนเทศธุรกิจและครัวเรือน ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจประจำเดือน ต.ค. พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองแนวโน้ม 3 เดือนข้างหน้าภาวะธุรกิจจะดีขึ้นจากปัจจุบัน โดยดัชนีรวมอยู่ที่ 55.5 ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของดัชนี จะพบว่า ผู้ประกอบการภาคการค้าเชื่อมั่นด้านผลประกอบการ การผลิต คำสั่งซื้อ และการจ้างงานเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการในภาคการผลิตยังมีความเชื่อมั่นอยู่ แต่สัดส่วนผู้ที่มีความเชื่อมั่นลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ต.ค. อยู่ที่ 50.6 ลดลงเล็กน้อยจากเดือน ก.ย. อยู่ที่ 52.2 เมื่อดูแยกย่อยความเชื่อมั่นในองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คำสั่งซื้อ การลงทุน การจ้างงาน การผลิต ผลประกอบการ ดัชนียังคงสูงกว่า 50 เป็นเครื่องสะท้อนว่ายังมีความเชื่อมั่นดีอยู่ เพียงแต่จำนวนคนที่เชื่อมั่นลดลงจากเดือน ก่อน ทั้งด้านการผลิต ผลประกอบการ คำสั่งซื้อ และการลงทุน
ขณะที่ ความเชื่อมั่นด้านต้นทุนอยู่ที่ 42.1 เป็นตัวเลขที่สะท้อนว่า เชื่อมั่นน้อยลงด้านนี้และทำให้ความ เชื่อมั่นโดยรวมลดลงไปด้วย โดยสรุปแล้ว ผู้ประกอบการภาคการผลิตยังเชื่อมั่นดีอยู่ แต่ความเชื่อมั่นที่ลดนั้นส่วนใหญ่มาจากผู้ประกอบการกลุ่มค้าปลีก พักแรม และบริการด้านอาหาร อย่างไรก็ตามมองว่าความเชื่อมั่นลดลงเป็นปัจจัยชั่วคราว เพราะในช่วงเดือนนี้มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการคาดการณ์เงินเฟ้อ 12 เดือนข้างหน้าจะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2% สอดคล้องกับสัดส่วนของผู้ที่เห็นว่าเดือนนี้การขึ้นราคาทำได้ยาก ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นด้านต้นทุนเดือนนี้และ 3 เดือนข้างหน้า ที่ออกมาแม้จะต่ำกว่า 50 แต่ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการ ที่ประเมินต้นทุนเพิ่มขึ้น มีจำนวน น้อยลงกว่าในอดีต โดยเฉพาะ ผู้ประกอบการภาคการผลิต
ด้าน กลุ่มที่ไม่ใช่ภาคการผลิตก็ยังมีจำนวนมากที่มองว่าต้นทุนจะสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่พักแรม และบริการอาหาร สอดคล้องกับที่มองว่าต้นทุนการผลิตและค่าแรงจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจขึ้นราคาอีก 12 เดือนข้างหน้า


