posttoday

คืนความทรงจำให้บ้าน(เก่า) สมัยรัชกาลที่ 5

27 กันยายน 2560

เรื่อง : มัลลิกา นามสง่าภาพ : ทวีชัย ธวัชปกรณ์มีโอกาสเยือน "บ้านลูกปัด" บ้านหลังใหญ่ที่อาศัยอยู่ 4 คน คือ ทวีศักดิ์ เสนาณรงค์ ท่านหญิงปัทมนรังษี เสนาณรงค์ (ท่านหญิงเม้า-พระธิดาของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ กับ หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา) และบุตรสาว มะปราง-ปัทมวดี เสนาณรงค์ และ จาร์-ปัทม สุจริตกุล

เรื่อง : มัลลิกา นามสง่าภาพ : ทวีชัย ธวัชปกรณ์

มีโอกาสเยือน "บ้านลูกปัด" บ้านหลังใหญ่ที่อาศัยอยู่ 4 คน คือ ทวีศักดิ์ เสนาณรงค์ ท่านหญิงปัทมนรังษี เสนาณรงค์ (ท่านหญิงเม้า-พระธิดาของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ กับ หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา) และบุตรสาว มะปราง-ปัทมวดี เสนาณรงค์ และ จาร์-ปัทม สุจริตกุล

ชื่อบ้านลูกปัด ท่านหญิงปัทมนรังษี เป็นคนตั้ง มีที่มาจากลูกทุกคนมีชื่อนำหน้าว่า "ปัทม" (ปัทมศักดิ์ ปัทมนิฐิ ปัทมวดี)

วันนี้มะปรางเปิดบ้านพาชมเรือนรับรอง พร้อมเล่าถึงที่มาของบ้าน ซึ่งผู้ที่ก่อร่างเขียนแบบแปลน คือคุณพ่อเอง

ภายในรั้วกำแพงสีขาว มีบ้านทั้งหมด 4 หลัง "อยู่กันมาตั้งแต่ปี 2534 ตอนพี่ชายแต่งงานก็ต่อเติมบ้านไปคนละหลัง

คุณพ่อออกแบบบ้านเพราะคิดถึงบรรยากาศตอนเด็กบ้านอยู่ติดน้ำ แถววัดเทวราชกุญชร วรวิหาร แล้วคุณปู่พูดเสมอว่า การที่เรามีที่ติดแม่น้ำทำให้คนในบ้านอารมณ์เย็น

บ้านหลังนี้จุดเด่นคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ อยู่บริเวณหลังบ้านติดกับเรือนรับรองและบ้านหลังใหญ่ แต่ไม่ค่อยมีใครลงไปเล่น"

ทุกหลังเป็นบ้านสไตล์โคโลเนียล ที่อิงบ้านเรือนสมัยช่วงยุครัชกาลที่ 5 "คุณพ่อชอบบ้านสไตล์นี้ และได้แรงบันดาลใจมาจากดิสนีย์แลนด์ที่ปารีส

คุณพ่อเล่าว่า ประทับใจตารางไม้ ซึ่งเป็นทรง โคโลเนียล พื้นไม้เป็นไม้สักทั้งหมด สิ่งที่คุณพ่อชอบที่สุดคือ เบย์วินโดว์ ทำเป็นกระจกคู่ ได้มองเห็นบรรยากาศข้างนอก มองเห็นสระน้ำ มองเห็นต้นไม้ ซึ่งท่านแม่เลือกไม้ดอกที่มีกลิ่นหอม ดอกไม้โบราณ"

เรือนรับรองอยู่บริเวณกลางพื้นที่ "ตอนสร้างบ้านคุณพ่อเริ่มมีอายุเยอะแล้ว ก็สร้างแค่ 2 ชั้นแต่ให้มีขนาดใหญ่ ด้านซ้ายเป็นบ้านพี่ชาย ตอนแต่งงานคุณพ่อต่อเติมชั้นบนโรงรถให้ อารมณ์ห้องแบบคอนโดมากกว่า ทุกวันนี้มะปรางกับน้องจาร์มานอนที่หลังใหญ่ นอนห้องเดียวกับคุณพ่อท่านแม่ หลังนั้นมะปรางเอาไว้อาบน้ำแต่งตัว เป็นห้องเก็บของ

ในส่วนเรือนรับรอง เข้ามาเป็นโถง มีห้องรับแขก นั่งคุย นั่งเล่นกันตรงนี้ ก่อนจะไปห้องรับประทานอาหาร ซึ่งต้องนั่งเรียงตามอาวุโส เด็กๆ ก็ตั้งโต๊ะเสริม

เรือนนี้มีทางเดิน ประตูเชื่อมกับหลังอื่นหมด มีที่นั่งเอาต์ดอร์ด้วย ด้านหลังเมื่อก่อนเป็นสวน ตอนนี้เป็นที่เลี้ยงหมู ไก่ บ้านเราก็จะกินไข่ไก่ออร์แกนิกที่น้องจาร์เลี้ยง"

เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งในเรือนรับรอง แทบทุกชิ้นเป็นของจากยุครัชกาลที่ 5 ทั้งยังเป็นมรดกตกทอดมาจากรัชกาลที่ 5 ด้วย

"เวลาหลานตัวเล็กๆ มาต้องเก็บเครื่องเบญจรงค์ ลายครามเข้าตู้ให้หมด ตั้งแต่อยู่มาก็ยังไม่มีชิ้นไหนแตกเสียหายเลยค่ะ ภาพดอกไม้ที่ติดผนังเป็นฝีมือท่านแม่ ท่านชอบงานศิลปะ

บางตู้คุณพ่อก็สั่งทำแต่ให้เป็นแบบของเก่า เพื่อใส่เครื่องแก้วเจียระไน ลายครามมรดกของท่านแม่ซึ่งเป็นของรัชกาลที่ 5 ทั้งหมด

ในห้องรับประทานอาหาร มีเปียโน 1 หลัง เป็นของของท่านตา ซึ่งเป็นมรดกจากรัชกาลที่ 5 ตอนคุณยายเสียชีวิตก็ยกให้น้องจาร์ วางรูปครอบครัว รูปที่เข้าเฝ้าพระราชวงศ์ รูปราชสกุลยุคล ผนังห้องนี้มีรูปรัชกาลที่ 5 พร้อมลายพระหัตถ์ที่ทรงเขียนให้ มจ.สาย ลดาวัลย์"

เรียกได้ว่า เรือนหลังนี้ ไม่ต่างอะไรกับพิพิธภัณฑ์ ที่พาเราย้อนไปดื่มด่ำบรรยากาศในยุครัชกาลที่ 5

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68