วันแรกที่เหมือง เขาใบลาน
เหมืองแร่ฟลูออไรด์ที่เขาใบลาน บ้านยางน้ำกลัดเหนือของ จ.เพชรบุรี เป็น
โดย ถาวร หลีกภัย
เหมืองแร่ฟลูออไรด์ที่เขาใบลาน บ้านยางน้ำกลัดเหนือของ จ.เพชรบุรี เป็นการทำเหมืองแบบใต้ดิน โดยการเจาะอุโมงค์เข้าหาสายแร่ที่พาดผ่านกลางเขา
การเจาะอุโมงค์เพื่อเข้าไปหาแร่เป็นการลดต้นทุนเพราะว่าถ้าทำแบบเหมืองเปิดจะต้องใช้เครื่องจักรเปิดหน้าดินทิ้งไว้เป็นจำนวนมหาศาลกว่า จะถึงสายแร่ อุโมงค์ที่เจาะในแนวราบผ่านชั้นหิน มี 5 อุโมงค์ ที่ต่างระดับกัน มีทั้งอุโมงค์ที่เจาะเข้าหาสายแร่ และอุโมงค์ตามสายแร่อันเป็นการเจาะหน้างานด้วยเครื่องแจ๊กแฮมเมอร์ เพื่อให้ได้รูตามขนาดและจำนวนที่ต้องการก่อน หลังจากนั้นแล้วจึงใส่ปุ๋ยยูเรียผสมกับน้ำมันลงในรู และอัดปิดด้วยแท่งไดนาไมต์ แล้วจึงจุดระเบิด ด้วยแก๊ปไฟฟ้า
หินและแร่ที่ได้จากการระเบิดนี้ จะถูกเข็นออกจากอุโมงค์ด้วยรถเข็น ที่วิ่งบนราง และไปผ่านสายพานเพื่อให้คนงานตัดหินออกจากแร่ ก่อนที่แร่จะถูกส่งจากเหมืองต่อไปยังโรงงานแต่งแร่ลอยแร่ ที่ตั้งอยู่ที่บ้านลาด
เหมืองเขาใบลานเป็นเหมือนเมืองชนบทตั้งอยู่กลางป่าใหญ่ที่มีผู้คนมากหลายร้อยคนเข้ามาทำมาหากินเป็นชาวเหมืองอยู่ที่นี่ มีร้านค้าตั้งเรียงราย มีทั้งร้านตัดผม ร้านตัดเสื้อผ้า ร้านขายของชำ ร้านอาหาร จนถึงตลาดสดที่เปิดขึ้นในบางวัน สิ่งก่อสร้างทั้งหมดทำด้วยไม้ไผ่ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า บ้านพักคนงาน หรือบ้านพักผู้จัดการ ยกเว้นสำนักงานของเหมืองแห่งเดียวเท่านั้นที่ใช้ปูนซีเมนต์ในการก่อสร้าง
ทีมงานเหมืองส่วนใหญ่นับแต่ผู้จัดการเหมือง จนหัวหน้างานที่ควบคุมการเจาะในอุโมงค์เป็นชาวฟิลิปปินส์ เพราะการทำเหมืองใต้ดินสำหรับประเทศไทยในยุคนั้นยังเป็นเรื่องใหม่ แต่อย่างไรเหมืองนี้ก็ยังมีคนไทยเป็นวิศวกร ในขณะนั้นวิศวกรเหมืองแร่เป็นคนไทยชื่อวิเชียร ปลอดประดิษฐ์ ซึ่งต่อมาเมื่อออกจากการทำงานเหมืองแล้วก็ได้เข้ารับราชการในกรมทรัพยากรธรณีอยู่จนกระทั่งเกษียณ
คุณวิเชียร เป็นเลขาธิการสภาการเหมืองแร่ช่วงปี พ.ศ. 2553-2556
ต้นเดือน พ.ย. 2514 คือวันแรกที่ผมเข้าไปทำงานที่เหมืองใบลาน จำได้ว่ามาถึงเหมืองประมาณ 4 ทุ่ม เจ้าหน้าที่ได้พาผมไปส่งที่บ้านพักซึ่งเป็นกระต๊อบไม้ไผ่ที่อาศัยแสงไฟสลัวจากเครื่องปั่นไฟ เดินไปพอเข้าที่พักได้ก็หลับนอนในทันที
ผมเดินทางมาไกล เหนื่อยและยังไม่คุ้นกับสถานที่ เมื่อเข้าห้องแล้วปิดประตูถอดรองเท้าแล้วขึ้นนอนเตียงไม้ไผ่เลย โดยน้ำท่าไม่อาบ ผมนอนหลับสนิทจนถึงรุ่งเช้าจึงได้ลืมตาตื่นขึ้น
ผมนอนกวาดตาไปมาภายในห้อง เพราะแปลกต่อสถานที่ สำรวจดูจนทั่วแล้วถึงได้ก้มหน้าดูเข้าไปใต้เตียงไม้ไผ่ ถึงกับผงะหงาย งูเหลือมตัวเบ้อเริ่มนอนขดอยู่ใต้เตียงนอน ความใหญ่โตของงูทำให้ผมตกตะลึงตาค้างไป ชั่วขณะ ก่อนที่พยายามจะตั้งสติมองตรงไปที่ประตู เห็นประตูใส่กลอนอยู่ พุ่งกระโจนพังประตูออกไปเลยคงไม่ไหวจะทำอย่างไรดี
ที่สุดผมตัดสินใจค่อยเดินย่องไปที่ประตูให้เบาที่สุด ด้วยพื้นห้องเป็นไม้ไผ่เดินแล้วไหว ยวบยาบ ผมรวบรวมกำลังใจ ก้าวเท้ายาวจากเตียงได้ประมาณ 3-4 ก้าว ก็ถึงประตูดึงกลอนแล้วผลักสุดแรงพ้นประตูออกไปได้ก็วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
ปากก็ตะโกนไป "งู งู งู"
ผมวิ่งไปที่ลานกลางแจ้งของเหมืองซึ่งอยู่เชิงเขาใบลาน เสียงผมที่ ดังก้องไปทั่วบริเวณเหมือง ในเช้าตรู่ของวันนั้นได้ปลุกให้ชาวเหมืองพากันวิ่งออกมาดู และเมื่อรู้เรื่องแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ชาวเหมืองจึงได้ช่วยกันไปจับและอุ้มงูใหญ่ตัวนั้นออกไปจากกระต๊อบ
ผมไม่มีทางรู้เลยว่างูเหลือมตัวนี้ได้เข้ามาอยู่ในกระต๊อบก่อนที่ผมจะเข้าไป หรือว่ามันเลื้อยเข้ามาตามร่องรูไม้ไผ่ในขณะที่ผมหลับอยู่ แต่ไม่ว่ามันจะอยู่มานานแค่ไหนนับเป็นชั่วโมงหรือว่านานทั้งคืน ถ้ามันเห็นผมเป็นเหยื่อ ขณะที่ผมหลับอยู่ ผมคงไม่รอดแน่ หรือว่ามันได้เลื้อยขึ้นมาสำรวจ ที่ตัวผมแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร และที่แน่ๆ ผมคงโชคดีที่งูมันไม่หิว งูจึงแค่ขดตัวเฝ้าดูผมอยู่ใต้เตียง
อย่างไรก็ตาม การที่นอนกับงูทั้งคืนและรอดมาได้ในท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงัด และวังเวงของป่าใหญ่รอบๆ เหมือง คิดในด้านดีคืนแรกที่เขาใบลานอาจคือการต้อนรับจากเจ้าป่าเจ้าเขา แห่งบ้านยางน้ำกลัดเหนือก็เป็นได้
จึงท่องคำสอนของพ่อไว้ว่า "สู้ สู้ สู้ อย่างใจเย็น"


