posttoday

มาเลเซียสนใจลงทุนไทย เล็งรับเบอร์ซิตี้-อีอีซี

15 กันยายน 2560

มาเลเซียชวนหนุนเอกชนไทยหันใช้ท่าเรือปีนังเพิ่ม เชื่อมท่าเรือสงขลา หวังลดต้นทุนขนส่ง

มาเลเซียชวนหนุนเอกชนไทยหันใช้ท่าเรือปีนังเพิ่ม เชื่อมท่าเรือสงขลา หวังลดต้นทุนขนส่ง

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง ดาโต๊ะ ซรี โจฮารี บิน อับดุล กาห์นิ รัฐมนตรีคลังคนที่ 2 มาเลเซีย และคณะผู้บริหารชมรมธุรกิจกัวลาลัมเปอร์ (KLBC) เข้าพบหารือที่ทำเนียบรัฐ เมื่อ วันที่ 14 ก.ย. 2560 ว่า ทางมาเลเซียต้องการให้ความสัมพันธ์โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจของ 2 ประเทศมีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยมาเลเซียสนใจโครงการสำคัญ คือ โครงการเมืองยางพารา หรือรับเบอร์ซิตี้ และการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ทางมาเลเซียต้องการผลักดันให้เกิดขึ้น คือ การเชื่อมท่าเรือน้ำลึกสงขลาของไทยกับท่าเรือปีนัง ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกเพื่อขนส่งระหว่างประเทศอยู่แล้ว โดยจะสามารถช่วยลดระยะเวลาในการส่งออกของผู้ส่งออกได้

ปัจจุบันไทยและมาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านมานาน แต่ที่ผ่านมายังไม่มีความใกล้ชิดเท่าที่ควร การจะเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่ดี จึงอยากให้มีการหารือระดับรัฐบาล จะทำให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามมา ที่ผ่านมาโดยหลักจะเป็นการหารือผ่านกรอบความร่วมมือสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย (IMT-GT) แต่หลังจากนี้จะผลักดันให้มีการหารือผ่านสมาคมด้านธุรกิจของ 2 ประเทศเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ การสนับสนุนบทบาทของภาคธุรกิจมาเลเซียที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ซึ่งจะเป็นการเน้นย้ำความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ พร้อมหวังว่ามาเลเซียจะสนับสนุนและผลักดันให้ภาคเอกชนของมาเลเซียเข้ามาลงทุนในโครงการสำคัญของรัฐบาลไทย

"ในวันที่ 15 ก.ย. รัฐมนตรีคลังคนที่ 2 ของมาเลเซียจะเดินทางเข้าพบหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.คลัง และ รมว.อุตสาหกรรม ของไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้หารือกัน เพราะที่ผ่านมาเราใกล้กันแต่ก็เหมือนไกล" นายสมคิด กล่าว

สำหรับภาพรวมการมาเยือนประเทศ ไทยของรัฐมนตรีเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (เมติ) พร้อมคณะนักลงทุนญี่ปุ่น มาเยือนไทยในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เป็นปรากฏการณ์ที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ซึ่งทาง เมติระบุที่จะให้ไทยเป็นศูนย์กลางเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้านด้วย

นายสมคิด กล่าวอีกว่า ได้สั่งการนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม สานต่อความสัมพันธ์ครั้งนี้ให้เกิดประโยชน์กับไทยมากยิ่งขึ้น โดยการจับคู่ความร่วมมือเจาะลงไปในภูมิภาคโดยเชื่อมอีอีซีกับจังหวัดทางเศรษฐกิจสำคัญ เช่น กับจังหวัดฟูกุโอกะ คันไซ โทยามะ

นอกจากนี้ ต้องการให้มีความร่วมมือเจาะลงไปในเมืองระดับภูมิภาคของญี่ปุ่นมากกว่าที่จะเป็นระดับเมืองหลวงพบกัน เพราะที่ไทยต้องการ คือ เอสเอ็มอีที่อยู่ในจังหวัดต่างๆ ของญี่ปุ่น เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพพร้อมที่จะออกไปลงทุนในต่างประเทศ