ผ้ายกอยุธยา มรดกแห่งผืนผ้าจากบรรพชน
การทอผ้ายก เป็นหนึ่งในศิลปะแห่งการทอผ้าที่มีมานานหลายร้อยปี โดยมีกระบวนการทอในลักษณะพิเศษเพื่อเพิ่มลวดลายลงบนผืนผ้า และ "กลุ่มทอผ้ายกอยุธยา" คือหนึ่งในผู้สร้างสรรค์งานศิลปะแห่งการทอผ้าที่สืบทอดกันมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน
การทอผ้ายก เป็นหนึ่งในศิลปะแห่งการทอผ้าที่มีมานานหลายร้อยปี โดยมีกระบวนการทอในลักษณะพิเศษเพื่อเพิ่มลวดลายลงบนผืนผ้า และ "กลุ่มทอผ้ายกอยุธยา" คือหนึ่งในผู้สร้างสรรค์งานศิลปะแห่งการทอผ้าที่สืบทอดกันมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน
คเณษ นพณัฐเมทินี มีบรรพบุรุษเป็นชาว จ.ปัตตานี ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานใหม่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา และยึดอาชีพทอผ้ามาตั้งแต่รุ่นเทียด บอกเล่าถึงการสืบทอดมรดกของตระกูลว่า ตามธรรมเนียมของตระกูลแล้ว งานทอผ้าโดยปกติจะไม่ถูกส่งต่อให้กับลูกหลานฝ่ายชาย แต่จะส่งต่อให้กับทายาทซึ่งเป็นลูกสาวคนโต แต่เพราะพี่สาวไม่สามารถรับช่วงต่อได้ ในที่สุดคุณยายจึงส่งมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กับเขา
"ผมคลุกคลีกับคุณยายมาตลอด พี่สาวติดภารกิจจึงไม่สามารถจะทำตรงนี้ได้เต็มที่ และแม้ว่าผมจะเป็นผู้ชาย แต่ทุกคนในครอบครัวต้องทำงานที่เกี่ยวกับการทอผ้าได้หมด เพราะลูกหลานต้องช่วยงานทุกอย่าง เช่น การเลี้ยงไหม การสาวไหม เพราะเวลาสาวไหมมีเวลาเพียงไม่เกิน 9 วัน เพราะหากเกินกว่านั้นตัวไหมก็จะเจาะทะลุรังทำให้รังเสียหายไม่สามารถนำมาสาวเป็นเส้นไหมได้ การเก็บไหมจึงเหมือนเป็นกิจกรรมหนึ่งของเด็กๆ ในบ้าน และมีข้อแม้ว่าทายาทที่สืบต่องานทอผ้าจะต้องเลี้ยงไหมเองด้วย เพราะพันธุ์ไหมมีคุณค่าต่อบ้านเรามาก เนื่องจากเป็นพันธุ์ไหมที่เลี้ยงต่อกันมาตั้งแต่รุ่นเทียด และใช้ไหมสายพันธุ์ของเราในการนำมาทอผ้าเท่านั้น ไม่ได้ไปซื้อไหมมาจากใคร"
เมื่อตัดสินใจหยุดการเรียนในระดับปริญญาตรี และมาศึกษาเรื่องงาน ทอผ้าอย่างจริงจัง โดยคุณยายได้ขายผ้าของตระกูล เพื่อนำมาเป็นทุนตั้งศูนย์สอนชาวบ้าน โดยตั้งกลุ่มทอผ้ายก อยุธยาเล็กๆ เปิดสอนชาวบ้านในชุมชน ทุกขั้นตอน ตั้งแต่เลี้ยงไหม สาวไหม ย้อมสี ทอผ้า ซึ่งหลังจากที่สำนักเลขาธิการสภาการศึกษาประกาศให้เขาเป็น "ครูภูมิปัญญาไทย" เมื่อปี 2554 และเปิดบ้านเป็นศูนย์การเรียนรู้ตั้งแต่นั้นมา
คเณษ เดินสายถ่ายทอดความรู้เรื่องการทอผ้าตามสถานที่ต่างๆ โดยมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการเผยแพร่ความรู้เรื่องการทอผ้า รวมถึงการนำผลงานร่วมจัดแสดงในงานต่างๆ ที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดขึ้น ทำให้ชื่อเสียงของ "ผ้ายกอยุธยา" เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
เมื่อไม่นานมานี้ ในงาน"ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกล ด้วย พระบารมี" ครั้งที่ 6 ซึ่งจัดขึ้นโดยมีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นแม่งานใหญ่ กลุ่มทอผ้ายกอยุธยาได้สร้างสรรค์ผ้าทอที่ทำขึ้นมาในโอกาสพิเศษ คือเพื่อเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งมีเพียง 9 ผืนในโลกเท่านั้น ความพิเศษของผ้าทอคอลเลกชั่นนี้ คือลวดลาย "พุ่มข้าวบิณฑ์" บนผืนผ้า ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และมีสีที่แตกต่างกัน ได้แก่ สีแดงครั่ง เขียวเทอร์คอยส์ สีเม็ดมะขามแก่ สีน้ำตาลทอง สีเหลืองทอง สีครีมออฟไวท์ สีชมพูปูน สีชมพูอ่อน และสีชมพูกลีบบัว โดยใช้เวลากว่า 1 ปีครึ่งในการสร้างงาน
"เคยมีลูกค้าที่ใช้งานทอผ้าของตระกูลเรามานานบอกว่า ซื้อผ้าไหมที่ไหนก็ซื้อได้แค่คำว่าผ้าไหม แต่ถ้าหาซื้อผ้าไหมที่สร้างสรรค์มาจากศิลปินที่ทอผ้าขึ้นเองต้องที่นี่เท่านั้น เป็นคำพูดที่ผมรู้สึกดีมากๆ และยิ่งตอกย้ำให้รู้สึกว่าสิ่งที่ทำไม่ได้สูญเปล่า" ผู้สืบสานการทอผ้ายกอยุธยา กล่าวทิ้งท้าย
ส่วนใครที่สนใจอยากเรียนรู้เรื่องการทอผ้ายกอยุธยาแบบละเอียดทุกขั้นตอน ติดต่อได้ที่ศูนย์เรียนรู้การ ทอผ้าครูภูมิปัญญาไทย กลุ่มทอผ้ายก อยุธยา 41/3 หมู่ 1 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา 13170 โทร. 08-1946-0948 หรือ 08-1286-1470 หรือ 08-1929-3401


