‘อ๊อดปลาเค็มอบโอโซน’ นวัตกรรมอาหารไทย
ถือเป็นรายแรกและรายเดียวในโลก กับการสร้างสรรค์ เมนู “อ๊อดปลาเค็มอบโอโซน” เพื่อสร้างสินค้าเมนูอาหาร ที่มีความแปลกใหม่ มีความแตกต่าง รวมถึงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เมนูอาหารไทย
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
ถือเป็นรายแรกและรายเดียวในโลก กับการสร้างสรรค์ เมนู “อ๊อดปลาเค็มอบโอโซน” เพื่อสร้างสินค้าเมนูอาหาร ที่มีความแปลกใหม่ มีความแตกต่าง รวมถึงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เมนูอาหารไทย พร้อมกับผลักดันเมนูอาหารไทย ปลาเค็ม ที่เกิดจากภูมิปัญญาถนอมอาหารในอดีต มาสร้างนวัตกรรมอาหารไทย
“นพดล แก้วช่วงศรี” ผู้ก่อตั้งแบรนด์ อ๊อดปลาเค็ม (Aoddplakem) ห้างหุ้นส่วนจำกัด อ๊อดกรีนฟิช เปิดเผยว่า จากความสนใจที่ต้องการสร้างนวัตกรรมให้แก่อาหารไทยปลาเค็มของประเทศไทย และความต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่าง ทำให้สนใจนำงานวิจัยที่มีอยู่ในประเทศมาร่วมพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ “ปลาเค็มอบโอโซน” พร้อมกับการสร้างแบรนด์ เชื่อมั่นว่าจะช่วยตอบสนองกับผู้บริโภคสนใจที่ดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น
ปลาเค็มอบโอโซน ผลิตโดยกรรมวิธีฆ่าเชื้อ-สลายสารพิษ ด้วยระบบโอโซนเป็นรายแรก โดยที่จะมีคุณสมบัติช่วยทำลายเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงสารที่ปนเปื้อนในปลาเค็ม เพราะปลาเค็มที่วางจำหน่ายในตลาดทั่วไป อาจจะมีสารปนเปื้อนในขั้นตอนการผลิต หรือมีการใส่สิ่งที่เป็นอันตราย ดังนั้น เมื่อผ่านขั้นตอนอบโอโซน จึงช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า
ทั้งนี้ ปลาทูเค็มที่ผ่านการผลิตทุกขั้นตอนทำการสุ่มตัวอย่างนำส่งตรวจวิเคราะห์เชื้อ-สารพิษ ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หลังจากนั้นจะนำมาบรรจุในระบบสุญญากาศ เพื่อรักษารสชาติและเก็บได้นานยิ่งขึ้น โดยมีโรงงานผลิตสินค้าอยู่ที่ จ.นนทบุรี โดยเมนูปลาเค็มอบโอโซน จะมีทั้งปลาทู ปลาสลิด ปลาอินทรี และปลากุเลา
ขณะที่ราคาสินค้าของบริษัทจะมีราคาสูงกว่าปลาเค็มที่วางจำหน่ายทั่วไปประมาณ 10-15% เท่านั้น เพื่อให้ผู้บริโภคในทุกกลุ่มสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกและมีราคาไม่แพง ซึ่งสินค้าสามารถจัดเก็บได้แบบอูณหภูมิปกติ เป็นระยะเวลา 30-40 วัน และอยู่ในอากาศที่เย็นหรือแช่ในตู้เย็นได้ประมาณ 10-12 เดือน
พร้อมกันนี้ ได้ร่วมโครงการของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในโครงการร่วมพัฒนาบรรจุภัณฑ์ (แพ็กเกจจิ้ง) เพื่อปรับแพ็กเกจจิ้งให้มีความสวยงาม และมีความแปลกใหม่ โดยได้เปิดตัวแพ็กเกจจิ้งแบบใหม่ เมื่อช่วงกลางปี 2560 ที่ผ่านมา พบว่าทำให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 50% และสร้างสินค้าที่มีความโดดเด่นกับลูกค้า
ในปัจจุบันแบรนด์ได้สร้างเมนูใหม่ ที่เป็นเมนูอาหารปลาเค็มสำเร็จรูป เพื่อขยายตลาดส่งออกไปในภูมิภาคอาเซียน และจะอยู่ในรูปแบบถุงดีพอตเทาซ์ ทำให้สามารถจัดเก็บสินค้าได้ประมาณ 2 ปี โดยสินค้าใหม่คาดว่าจะมีการเริ่มส่งออกไปต่างประเทศในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงจะปรับเมนูอาหารให้มีรสชาติที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ เช่น ประเทศกัมพูชา ที่จะนิยมรสชาติอาหารที่มีความหวาน ก็ต้องปรับรสชาติให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค
ช่องทางทำตลาดของแบรนด์ จะมีการร่วมออกงานในพื้นที่ศูนย์การค้า รวมถึงการร่วมทำตลาดผ่านเว็บไซต์ของบริษัท www.fishozone.com การทำตลาดผ่านเฟซบุ๊ก รวมถึงช่องทางไลน์ และห้างค้าปลีก
“นพดล” กล่าวต่อว่า บริษัทจะมุ่งสร้างไอเดียเมนูปลาเค็ม ออกมาสู่ประเทศ พร้อมผลักดันการส่งออกไปต่างประเทศมากขึ้น เชื่อมั่นว่าในตลาดต่างประเทศมีโอกาสสูง และจะผลักดันอาหารไทย ก้าวสู่เมนูอาหารในโลก เพื่อร่วมส่งเสริมครัวไทยสู่ครัวโลก


