posttoday

พอร์ตลงทุนหุ้นไอพีโอครึ่งปีแรก หุ้นเดิม-ทายาทเศรษฐีคละกันไป

16 สิงหาคม 2560

ยินดี ฤตวิรุฬห์ บริษัทที่ได้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก(ไอพีโอ) เมื่อช่วงครึ่งแรกของปี 2560 จำนวน 3 บริษัทที่ได้ทยอยรายงานผลการเสนอขายหุ้นและรายย่อยนักลงทุนสถาบันและบุคคล 20 อันดับแรกที่ได้รับการจัดสรรหุ้นไปไอพีโอต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ยินดี ฤตวิรุฬห์

บริษัทที่ได้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก(ไอพีโอ) เมื่อช่วงครึ่งแรกของปี 2560 จำนวน 3 บริษัทที่ได้ทยอยรายงานผลการเสนอขายหุ้นและรายย่อยนักลงทุนสถาบันและบุคคล 20 อันดับแรกที่ได้รับการจัดสรรหุ้นไปไอพีโอต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ทั้งนี้ จะเห็นว่าในรายงานผลการเสนอขายนั้นมีความชัดเจนในการรายงานซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของ ก.ล.ต. ที่ระบุในเรื่องของผู้มีอุปการคุณ ที่มีการแจกแจงเหตุผลของเหตุในการจัดสรรหุ้นไว้อย่างชัดเจน

ตระกูลสุขะนินทร์-ชินธรรมมิตร์ ครองหุ้น MM

สำหรับบริษัทที่รายงานผลประกอบด้วย 1.บริษัท มัดแมน (MM) ที่ได้ขายหุ้นระหว่างวันที่ 29 มี.ค.-5 พ.ค. 2560 จำนวน 210.98 ล้านหุ้น ที่ราคาขายหุ้นละ 5.25 บาท มีมูลค่า ณ ราคาไอพีโอทั้งสิ้น 1,107.64 ล้านบาท ซึ่งในการขายครั้งนี้ บุคคลธรรมดา 20 อันดับแรกที่ได้รับหุ้นโดยใน อันดับ 1 จะเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทแม่คือบริษัท ทรัพย์ศรีไทย (SST) เข้ามาซื้อหุ้น ไอพีโอ คือ ศุภสิทธิ์ สุขะนินทร์ ซื้อ 8.13 ล้านหุ้น เงิน 42.70 ล้านบาท 3.86% ถัดมาคือ สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ซื้อ 8.03 ล้านหุ้น เป็นเงิน 42.20 ล้านบาท กมลี ปัจฉิมสวัสดิ์ ซื้อ 6.77 ล้านหุ้น เป็นเงิน 35.57 ล้านบาท ศุภชัย สุขะนินทร์ ผู้ถือหุ้น SST ซื้อ 4.2 ล้านหุ้น เป็นเงิน 22.56 ล้านบาท วิชัย วชิรพงศ์ ซื้อ 2.5 ล้านหุ้น เป็นเงิน 13.12 ล้านบาท วรพรรณ จึงทรัพย์ไพศาล ซื้อ 2.5 ล้านหุ้น เป็นเงิน 13.12 ล้านบาท ดวงแข ชินธรรมมิตร์ ซื้อ 2.31 ล้านหุ้น เป็นเงิน 12.16 ล้านบาท ดวงดาว ชินธรรมมิตร์ ซื้อ 2.69 ล้านหุ้น จำนวน 11.91 ล้านบาท จำรูญ ชินธรรมมิตร์ ซื้อ 2.01 ล้านหุ้น เป็นเงิน 10.58 ล้านบาท สมชาย ชินธรรมมิตร์ ซื้อ 1.51 ล้านหุ้น 7.94 ล้านบาท สมฤดี ปัจฉิมสวัสดิ์ ซื้อ 1.04 ล้านหุ้น เป็นเงิน 5.46 ล้านบาท และทวีฉัตร จุฬางกูร ซื้อ 0.8 แสนหุ้น เป็นเงิน 4.3 ล้านบาท

บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ขายหุ้นไอพีโอจำนวน 229.50 ล้านหุ้น ที่ราคา 26.25 บาท ได้เงินจากการระดมทุน 6,024.03 ล้านบาท ซึ่งในการขายแบบแบ่งขาย สถาบัน 1,851 ราย จำนวน 86.69 ล้านหุ้น 37.78% บุคคล 7,912 คน 80.53 ล้านหุ้น 35.09%

ผู้จองซื้อหุ้นอันดับ 1 คือ บริษัท บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ผู้ถือหุ้นใหญ่ซื้อหุ้นจอง 13.73 ล้านหุ้น เป็นเงิน 360.57 ล้านบาท รองมา จรีพร จารุกรสกุล ซื้อ 6.49 ล้านหุ้น จำนวน 170.62 ล้านบาท สมยศ อนันตประยูร ซื้อ 4.36 ล้านหุ้น เป็นเงิน 114.54 ล้านบาท สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ผู้มีอุปการคุณของผู้เสนอขายหลักทรัพย์ ซื้อ 26.16 ล้านบาท

ทายาทเศรษฐีของ GGC

สำหรับ บริษัท โกลบอลกรีน เคมิคอล (GGC) ขายหุ้นไอพีโอจำนวน 283.66 ล้านหุ้น ที่ราคา 11.20 บาท มูลค่า 3177 ล้านบาท ผู้ซื้ออันดับแรกคือ อนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย ซื้อ 5 ล้านหุ้น เป็นเงิน 56 ล้านบาท อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนะประภา 5 ล้านหุ้น 56 ล้านบาท ชวิน ตั้งคารวคุณ 5 ล้านหุ้น เป็นเงิน 56 ล้านบาท แคทรียา บีเวอร์ ซื้อ 5 ล้านหุ้น เป็นเงิน 56 ล้านบาท สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ซื้อ 3 ล้านหุ้น เป็นเงิน 33.60 ล้านบาท มณฑล นันที ซื้อ 2.5 ล้านหุ้น เป็นเงิน 28 ล้านบาท คเณศ ตั้งคารวคุณ ซื้อ 2.31 ล้านหุ้น เป็นเงิน 25.90 ล้านบาท สรพจน์ เตชะไกรศรี ซื้อ 2 ล้านหุ้น เป็นเงิน 22.40 ล้านบาท ประภา ศีตวรรัตน์ ซื้อ 2 ล้านหุ้น เป็นเงิน 22.40 ล้านบาท ชวินธร คุณากรปรมัตถ์ ซื้อ 1.7 ล้านหุ้น เป็นเงิน 19.04 ล้านบาท นนธญา อภิธโนทัย ซื้อ 1.08 ล้านหุ้น เป็นเงิน 12.09 ล้านบาท สายฝน เลิศศันสนีย์ ซื้อ 1 ล้านหุ้น เป็นเงิน 11.20 ล้านบาท และ สุวิน ไกรภูเบศซื้อ 0.9 แสนหุ้น เป็นเงิน 10.08 ล้านบาท

ส่วน บริษัท ทีพีไอเพาเวอร์ (TPIPP) ขายหุ้นไอพีโอจำนวน 2,500 ล้านหุ้น ราคา 7 บาท เป็นเงิน 17,500 ล้านบาท ผู้จองซื้อหุ้น อันดับ 1 คือ นเรศ งามอภิชนซื้อ 13.30 ล้านหุ้น เป็นเงิน 72.10 ล้านบาท บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ซื้อ 10 ล้านหุ้น เป็นเงิน 70 ล้านบาท เทวัญ ลิปตพัลลภ ซื้อ 6.71 ล้านหุ้น เป็นเงิน 47 ล้านบาท และ ทวีฉัตร จุฬางกูร ซื้อ 6.25 ล้านหุ้น เป็นเงิน 43.79 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

ถอดพฤติกรรมการเงินคนไทย 4 เจเนอเรชัน จาก Gen Z ถึง Baby Boomer