ปริญดา ตั้งสุภวงษ์ พรสวรรค์ไม่สำคัญเท่ากับพรแสวง
โลกแคบลงทุกวัน ทุกอย่างสื่อสารผ่านออนไลน์ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
โลกแคบลงทุกวัน ทุกอย่างสื่อสารผ่านออนไลน์ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
มีการค้าขายผ่านทางออนไลน์ที่แม่ค้าและลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว สะดวกสบาย จนใครๆ ก็อาจจะเป็นเจ้าของธุรกิจได้ตั้งแต่เงินหลักพันยันหลักล้าน ถ้าจังหวะดีโอกาสมา มีทั้งความเก่งและความเฮงไปพร้อมๆ กัน คุณก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้านได้เพียงเวลาแค่ข้ามปี เช่นเดียวกับสาวตาคมคนนี้ ที่ชีวิตของเธอไม่ได้ง่าย ไม่ได้มีแพ็กเกจสำเร็จรูป บ้านรวย การศึกษาดี
เปล่าเลย เธอมาจากครอบครัวคนชั้นกลาง พ่อแม่แยกทางกัน เรียนจบแค่อนุปริญญา แต่สิ่งที่เธอมีมากกว่าใครคือใจสู้ลุย หนักเอาเบาสู้ คิดแล้วลงมือทำไม่ขายฝัน คือใช้พรแสวงล้วนๆ และโอกาสก็มาถึงเธอ ที่สามารถสร้างยอดขายจากธุรกิจได้ร้อยล้านด้วยเวลาเพียง 1 ปี เธอสามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการที่ประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก ขอแค่มุ่งมั่นตั้งใจลงมือทำแล้วเต็มที่กับงานโอกาสคุณสร้างได้
แคนดี้-ปริญดา ตั้งสุภวงษ์ ผู้บริหารบริษัท ปริญ คอสเมติก จำกัด ผู้หญิงวัย 27 ปี เธอเริ่มต้นหาเงินเลี้ยงตัวเองตั้งแต่เรียนจบพาณิชย์ ตอนอายุ 18 ปี ได้จับเงินล้านตอนอายุ 23 ปี เธอไม่เคยทำงานออฟฟิศ เรียนจบปุ๊บไปขายของตลาดนัดด้วยเงินลงทุนพันกว่าบาท หาค่าขนมเลี้ยงตัวก๊อกแก๊กๆ อย่างไม่เป็นทางการพอขำๆ ไปก่อนจะตั้งหลักจริงจัง
จนกระทั่งแน่ใจว่าคงไม่ได้เรียนปริญญาตรีต่อแน่นอน จึงต้องยึดอาชีพค้าขายไปพลางๆ ก่อน เธอจึงเริ่มใหญ่ขึ้นด้วยเงินก้อนแรกในชีวิตเพียง 7,000 บาท เธอเคยลองทำอาชีพค้าขายหลายอย่าง ทั้งของกินของใช้ โดยเฉพาะเคสโทรศัพท์ ที่เธอเป็นเจ้าแรกๆ ของโคราชที่รับจากสำเพ็งมาขายจนกระทั่งซื้อเครื่องจักรมาปั๊มขายเอง
เธอขายตั้งแต่ตลาดนัด จนขึ้นห้างมีช็อปใหญ่โต ทั้งแบบขายตรงและแบบออนไลน์ จนทุกวันนี้ก็พัฒนาสินค้าไปเรื่อยๆ ซื้อมาขายไปพอมีคนมาเลียนแบบขายตามแล้วตัดราคา เธอก็ไปหาของใหม่มาขาย จนกระทั่งเธอเริ่มผลิตสินค้าเป็นแบรนด์ของตัวเองคือชาโคล เซรั่ม สามารถประสบความสำเร็จทางธุรกิจหลักร้อยล้านบาท อีกทั้งยังมีตัวแทนจำหน่ายสินค้าของเธอแล้ว 3,000 กว่าราย และต้นปีหน้าเธออาจจะขยับเข้าใกล้หลักพันล้านบาทเข้าไปทุกที
ด้านการศึกษา เธอจบประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาการบัญชี พออายุ 21 ปี เคยเรียนต่อคณะบริหารธุรกิจได้ 1 ปีแต่คุณพ่อไม่ให้เรียนต่อด้วยเหตุผลที่ว่า คุณพ่อเคยถามเธอว่า กว่าจะเรียนจบต้องใช้เงินเท่าไหร่ ทำไมไม่ลองเอาเวลาตรงนี้ไปลงทุนอย่างอื่น แล้วถ้าเรียนจบจะได้เงินพอใช้ไหม ถ้าไม่พอจะเรียนทำไมไม่ต้องเรียน ตอนนั้นเธอยอมรับว่าไม่เข้าใจคุณพ่อ เพราะเป็นลูกผู้หญิง หากทำธุรกิจแล้วล้ม จะเอาความรู้ที่ไหนติดตัว
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แคนดี้จึงเริ่มสนใจทางด้านการค้าขายเพราะอยากมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง เธอเริ่มขายตั้งแต่แซนด์วิชในร้านเกมตอนอายุ 18 ปี พัฒนาต่อมาเรื่อยๆ เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ ขนมครกญี่ปุ่นทาโกะยากิ เคสโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ทำเล็บ นาฬิกาข้อมือรุ่นหายาก กล้องแอ็กชั่นคาเมรา เคสโทรศัพท์มือถือแบบทำมือ ที่มีชื่อในอินสตาแกรมว่า มาย ดาร์ลิงค์ เคส ไปจนถึงรับหิ้วของเองให้ลูกค้าจากญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน สหรัฐ นอกจากนี้ เธอยังเคยซื้อของมาลงประมูลในกรุ๊ปเฟสบุ๊ค ที่ชื่อเครซี่ แบรนด์เนมอีกด้วย
เธอเล่าว่าตอนตัดสินใจว่าจะขายของ คนในครอบครัวก็ไม่ค่อยสนับสนุนสักเท่าไหร่นัก อย่างหลายปีก่อนคุยกับคุณพ่อว่าจะขายทาโกะยากิ ก็ไม่เห็นด้วย เพราะคนสมัยนั้นคนต่างจังหวัดยังไม่น่าจะรู้จักกัน และอย่างตอนบอกกับคุณแม่ว่าจะไปหาซื้อของที่สำเพ็งมาขายเหมือนกัน ก็บอกว่าไม่มีอะไรน่าเอามาขาย แต่ด้วยความที่คิดว่า ไม่เป็นไร ขอให้เธอได้ลองก่อน ผู้ใหญ่กับเด็กมีช่องว่างระหว่างวัย อาจทำให้มองเห็นสิ่งๆ หนึ่งในมุมมองที่ต่างกัน ซึ่งใช่ว่าสิ่งแปลกใหม่ที่คนไม่เคยรู้จักมาก่อนจะทำให้เธอขายไม่ได้ บางคนอาจมองว่าสิ่งนั้นขายไม่ได้ แต่เธอมองว่ามันขายได้
โดยเฉพาะพี่ชายของเธอ ที่ชอบล้อว่าเธอชอบหาทางออกโดยการค้าขาย ไม่รู้จักยอมเป็นมนุษย์เงินเดือนดูบ้าง มั่นคงกว่า แต่เธอกลับคิดว่าทำเองไม่ดีกว่าหรือทำมากได้มากมีอิสระกว่าด้วย รายได้แต่ละเดือนก็พอกัน แถมขายของถ้าจังหวะดีก็ฟลุกได้ง่ายๆ แล้วก็อยากเห็นเงินทุกวันไม่ใช่รับแค่เดือนละครั้ง
พี่ชายอาจคิดว่าเราไม่เคยโดนบีบหรือกดดัน จึงอยากให้ไปเจอแบบนั้นบ้างจะได้มีความอดทน เขามองว่าเรารักอิสระเกินไป เพราะชอบหาทางออกด้วยการขายของ แต่เรากลับคิดว่า ก็เลือกได้นี่ ที่จะเป็นเจ้านายของตัวเองและจะไม่เป็นลูกจ้างใคร หลังจากที่ได้ลองทำการค้าขายมาหลากหลายรูปแบบ จึงเริ่มคิดลองที่จะทำแบรนด์เป็นของตัวเอง
เธอว่าโอกาสถ้ามองไม่เห็นก็จะมองไม่เห็นตลอดไป แต่ถ้ามองเห็นว่า นั่นก็ลูกค้า นี่ก็ลูกค้า คนทุกคนบนโลกล้วนมีผม เช่น สมมุติทำอาหารเสริม เราต้องเข้าใจก่อนว่าไม่ใช่ทุกคนที่อยากขาวหรืออยากผอม แต่ที่เลือกทำเซรั่มบำรุงผม เป็นเพราะทุกวันคนต้องใช้ยาสระผม ผู้ชายเองก็ต้องสระผม อย่างผู้หญิงผมร่วงก็แค่ผมบาง แต่ผู้ชายถ้าผมร่วงอาจถึงขั้นศีรษะล้าน ที่สำคัญตลาดผมมันใหญ่กว่า แค่ตลาดอาเซียน เป็นตลาดที่มีอยู่ทั่วโลก หรือทางยุโรปเองตลาดก็ค่อนข้างใหญ่ ผู้ชายส่วนมากมีแนวโน้มที่จะศีรษะล้าน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เมื่ออายุมากขึ้น ผมก็จะเริ่มร่วง เพราะสารเคมีที่สะสมมาทั้งชีวิต ตอนนั้นจึงเริ่มคิดว่าจะหาอะไรมาช่วยชะลอการเสื่อมสภาพนี้ดี
แคนดี้บอกว่า เริ่มต้นทำเซรั่ม เพราะเธอชอบใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงผมมาตั้งแต่เด็กผมแห้งเสียหยิกชี้ฟู ต้องคอยยืดตลอดเวลา จึงชอบบำรุงผม และเมื่อมีโอกาสไปหิ้วของมาขายจากต่างประเทศ ได้ลองผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม ก็เกิดสงสัยว่าทำไมผลิตภัณฑ์ของเขาถึงใช้ดีและเห็นผลในทันที จึงเริ่มศึกษาส่วนผสมต่างๆ ของเขาว่ามีอะไรบ้างที่ดี และลองจับเอามาผสมกันจนกลายเป็นสูตรใหม่ของเธอเอง
ตอนแรกต้องการทำผลิตภัณฑ์นี้เพื่อส่งออก แต่พอเปิดตัวแค่โลโก้ปริญในเฟสบุ๊ค กลุ่มคนที่เราเคยหิ้วของให้เขาเกิดสนใจ ก็คิดว่าหากลองขายในไทยก่อนคงไม่เสียหาย จากนั้นจึงค่อยเริ่มเปิดรับคนไทยเป็นตัวแทนจำหน่าย ปรากฏมีคนติดต่อขอไปขายเยอะมาก โดยที่ยังไม่เห็นของแค่โชว์โลโก้เท่านั้น ซึ่งคนติดต่อมาก็เป็นคนที่เคยซื้อของเรา และรู้ว่าเราขายของดีจริง ติดต่อมาทั้งที่ยังไม่รู้ว่าผลิตภัณฑ์เป็นยังไง เราบอกเพียงแค่ว่า จะเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม แต่เรามีแฮชแท็กประจำตัวว่า ถ้าแคนทำมันต้องดี
แน่นอนว่า กว่าจะถึงวันนี้ เธอมีท้อ มีร้องไห้ มีเสียน้ำตา แต่ในขณะเดียวกัน ก็พยายามคิดว่าทุกวันนี้ยังไปไม่ถึงตามเป้าหมายที่ต้องการ ต้องลุกกลับขึ้นมาให้เร็วและรีบไปทำต่อให้ได้ ถ้าไม่ได้จะไม่เลิก จะกัดไม่ปล่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องตั้งเป้าหมายให้ตัวเองเห็นอย่างชัดเจน เช่น ส่วนตัวเธอตั้งใจเอาไว้ว่า สักวันจะต้องได้เดินทางไปเที่ยวรอบโลก ด้วยเหตุนั้น เธอจึงยังไม่คิดล้มเลิกง่ายๆ อีกฝันก็คือปลูกบ้านหลังใหญ่บริเวณกว้างๆ ที่เขาใหญ่ ให้พ่อแม่พี่น้องได้มาอยู่ด้วยกัน เพราะเธอโตมากับทาวเฮ้าส์ไม่เคยมีที่วิ่งเล่นเลย
ตอนนี้เธอกำลังหาที่เรียนเกี่ยวกับผมและหนังศีรษะที่ต่างประเทศ เนื่องจากในอนาคต เธอตั้งใจจะทำทุกอย่างเกี่ยวกับผมให้ครบวงจร สิ้นปีนี้ตั้งใจว่าจะมีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมา ซึ่งช้าไปจากผลิตภัณฑ์ตัวแรก แต่อยากทำให้ออกมาดี จึงต้องใช้เวลาศึกษาวิจัยที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่ได้ทุนจากโครงการของรัฐบาลที่สนับสนุนคนทำธุรกิจรุ่นใหม่ เพราะถ้าผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาไม่ดี มันจะส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ รวมถึงความน่าเชื่อถือที่มีอยู่จะลดลงตามไปด้วย
สูตรความสำเร็จคือหากได้ทำในสิ่งที่ชอบที่ใช่ ด้วยความใส่ใจ และอินกับมัน จะทำให้สามารถทำตรงนั้นได้ดี ทำให้ไปถึงจุดๆ นั้นได้ และมีความสุขในการทำงาน โดยเฉพาะกับสิ่งที่เจอหลายๆ อย่างในชีวิต มันจะช่วยเปลี่ยนเรา เราแค่ต้องเปลี่ยนมุมมองในการมองทุกอย่างใหม่ อย่างหลายๆ ครั้งผู้ใหญ่จะชอบห้ามไว้ก่อน แต่เราต้องมุ่งมั่นตั้งใจพิสูจน์ให้เห็นว่าเราจริงจังและจะสำเร็จได้ในที่สุด มาถึงจุดนี้ไม่ได้ฟลุกนะคะหนูทุ่มเทลงแรงจริงจังและกัดไม่ปล่อยค่ะเธอกล่าวทิ้งท้าย
แผนการทำงานในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าของเธอก็คือ เตรียมแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และทำตลาดส่งออกไปที่ประเทศจีน ซึ่งเธอได้วางแผนไว้แล้ว รวมทั้งดึงมืออาชีพเข้ามาร่วมบริหารงานมากขึ้น


