posttoday

ตามรอยเส้นทางการค้า จากแม่สอดถึงย่างกุ้ง

02 สิงหาคม 2560

PSL KandaExtra Pro (Regula 12 Pt)ตามที่ทราบกันดีว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-เมียนมา กว่า 80% อยู่ในรูปของการค้าชายแดน โดยเฉพาะด่านแม่สอด จ.ตาก ที่นับเป็นประตูการค้าที่สำคัญที่สุดระหว่างไทย-เมียนมา สะท้อนได้จากในปี 2559 มีมูลค่าส่งออกผ่านด่านนี้ถึง 8 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 60% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดจากไทยไปเมียนมา

PSL KandaExtra Pro (Regula 12 Pt)

ตามที่ทราบกันดีว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-เมียนมา กว่า 80% อยู่ในรูปของการค้าชายแดน โดยเฉพาะด่านแม่สอด จ.ตาก ที่นับเป็นประตูการค้าที่สำคัญที่สุดระหว่างไทย-เมียนมา สะท้อนได้จากในปี 2559 มีมูลค่าส่งออกผ่านด่านนี้ถึง 8 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 60% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดจากไทยไปเมียนมา

เป็นที่น่าสนใจว่า เส้นทางการค้าจากแม่สอดที่จะต่อไปยังเมืองสำคัญอื่นๆ ของเมียนมา โดยเฉพาะจุดหมายปลายทางที่จะไปเมืองย่างกุ้งมีลักษณะและความสำคัญอย่างไร ตลอดจนมีจุดเด่นอะไรที่จะช่วยขยายการค้าการลงทุนแก่ผู้ประกอบการ ดังนั้น บทความนี้จะพาไปสำรวจเส้นทางดังกล่าว ด้วยการนั่งรถตู้จากด่านชายแดนแม่สอดข้ามไปยังจุดจอดเปลี่ยนรถบริเวณชายแดนเมียนมา เพื่อเปลี่ยนเป็นรถบัสขนาดเล็กของเมียนมา ก่อนจะเดินทางต่อไปยังถนนสายเมืองเมียวดี-เมืองผาอัน-เมืองมะละแหม่งไปจนถึงเมืองย่างกุ้งระยะทางราว 450 กิโลเมตร

เริ่มต้นการเดินทางที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ฝั่งเมียนมา เพื่อยื่นหนังสือเดินทางและตรวจลงตราวีซ่า (Visa) ก่อนที่จะเข้าเขตพื้นที่เมียนมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งใช้เวลารอพิธีการต่างๆ อยู่ราวครึ่งชั่วโมง จึงมีโอกาสได้เห็นรถกระบะและรถบรรทุกจากฝั่งไทยวิ่งขนสินค้าข้ามไปยังเมียนมาค่อนข้างหนาตาพอสมควร โดยสินค้าส่วนใหญ่มีทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลไม้หลากหลายชนิด รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆ จำนวนมาก สอดคล้องกับสถิติการส่งออกของไทยไปเมียนมาที่เครื่องดื่มเป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับ 1 มีสัดส่วนเกือบ 10% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดจากไทยไปเมียนมา

ทั้งนี้ รถบรรทุกของไทยจะวิ่งเข้าไปสุดทางที่เขตการค้าเมียวดี (Myawaddy Trade Zone) ซึ่งเป็นจุดตรวจสอบสินค้าก่อนจะกระจายสินค้าไปเมืองหลักของเมียนมา โดยรถบรรทุกของไทยจะต้องขนถ่ายสินค้าต่อให้รถบรรทุกของเมียนมาที่จุดนี้ ซึ่งอยู่ห่างชายแดนเมียนมาราว 16 กิโลเมตร ถัดมาในบริเวณใกล้เคียงกันเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมเมียวดี (Myawaddy Industrial Zone) เป็นที่น่าสังเกตว่ามีโรงงานตั้งอยู่เพียงไม่กี่แห่ง ส่วนหนึ่งอาจมาจากข้อจำกัดด้านแรงงาน เพราะชาวเมียนมาในเมืองเมียวดีส่วนใหญ่มักข้ามมาทำงานฝั่งไทย เพื่อรับค่าจ้างแรงงานที่สูงกว่า (ปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำของเมียนมาอยู่ที่วันละ 3,600 จ๊าด หรือราว 100 บาทเท่านั้น) อย่างไรก็ดี บริเวณชายแดนแม่สอด-เมียวดี น่าจะเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจโลจิสติกส์ เนื่องจากเป็นจุดกระจายสินค้าสำคัญระหว่างไทย-เมียนมา

จากนั้นได้มุ่งหน้าสู่เมืองผาอัน เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง ในช่วงแรกใช้ถนนสายเมียวดี-กอกาเร็กเป็นระยะทางราว 45 กิโลเมตร โดยรัฐบาลไทยเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณและการก่อสร้างทั้งหมด นับได้ว่าเป็นถนนที่ดีที่สุดเส้นหนึ่งในเมียนมา รวมทั้งเป็นเส้นทางคมนาคมทางบกสำคัญที่เชื่อมจากไทยไปถึงเมืองชั้นในของเมียนมา เส้นทางสายนี้ได้ช่วยร่นระยะเวลาเดินทางจากราว 3-4 ชั่วโมง เหลือเพียง ชั่วโมงกว่าๆ เนื่องจากเส้นทางสายเก่าเป็นทางขึ้นเขาแคบและคดเคี้ยว และยังต้องใช้การเดินรถทางเดียวสลับกันแบบวันคู่-วันคี่ (รถไม่สามารถสวนทางกันได้) ดังนั้น ถนนสายใหม่เส้นนี้นับได้ว่าเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-เมียนมา ขยายตัวได้อีกมหาศาล

ถนนสายเมียวดี-กอกาเร็ก นับเป็นถนนที่ดีที่สุดเส้นหนึ่งใน เมียนมา หลังสิ้นสุดถนนสายนี้ก็เข้าสู่ถนนลูกรังผสมหินบดที่พื้นถนนขรุขระตลอดทาง ดังนั้น การขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางนี้จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการบรรจุสินค้าให้ดี เนื่องจากมีโอกาสที่สินค้าจะเสียหายได้ง่าย นอกจากนี้ ถนนมีขนาดเล็กเพียง 1 ช่องจราจร ที่ต้องขับรถสวนทางกัน รถโดยสารจึงไม่สามารถทำความเร็วได้มากนัก เฉลี่ยอยู่ที่ราว 30 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น ส่งผลให้การเดินทางไปยังเมืองผาอันต้องใช้เวลากว่าครึ่งวันทีเดียว

ตลอดเส้นทางเมียวดี-ผาอัน-มะละแหม่ง-ย่างกุ้ง สังเกตว่ามีด่านเก็บค่าผ่านทางเป็นจำนวนมาก นับได้เกือบ 20 แห่ง ซึ่งรัฐบาล เมียนมาให้สัมปทานภาคเอกชนในการสร้างและดำเนินการเก็บค่าผ่านทาง ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งผ่านเส้นทางสายนี้ค่อนข้างสูง แต่ผู้ประกอบการไทยบางส่วนก็นิยมขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางนี้ เนื่องจากช่วยร่นระยะเวลาการขนส่งสินค้าจากแม่สอดไปถึงย่างกุ้งได้ภายใน 3 วัน ซึ่งรวดเร็วกว่าการขนส่งสินค้าจากท่าเรือแหลมฉบัง-ท่าเรือย่างกุ้ง ซึ่งใช้เวลานานกว่า 10 วัน

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงเมืองผาอัน เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยงในช่วงบ่ายเพื่อสำรวจนิคมอุตสาหกรรมผาอัน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายกอกาเร็ก-ผาอัน-มะละแหม่ง โดยทางนิคมอุตสาหกรรมได้จัดสรรพื้นที่ลงทุนภายในเขตอุตสาหกรรมเป็น 4 โซน ตามประเภทนักลงทุน ได้แก่ โซน 1 สำหรับนักลงทุนต่างชาติ โซน 2 สำหรับนักลงทุนในรัฐกะเหรี่ยง โซน 3 สำหรับนักลงทุนทั่วไปในเมียนมา และโซน 4 สำหรับผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะจุดเด่นของนิคมอุตสาหกรรมผาอัน คือ ค่อนข้างมีความพร้อมด้านสาธารณูปโภคมากกว่าเขตอุตสาหกรรมเมียวดี ขณะที่อยู่ห่างจากชายแดนไทย-เมียนมา ไม่มากนัก ประกอบกับค่าเช่าที่ดินยังมีราคาถูก และมีแรงงานในพื้นที่จำนวนมาก

นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งของเมืองผาอันยังเหมาะที่จะเป็นศูนย์กระจายสินค้าไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของเมียนมาอีกด้วย ดังนั้น หากนักธุรกิจไทยสนใจจะเข้าไปตั้งโรงงานในเมียนมา ก็นับได้ว่านิคมอุตสาหกรรมผาอันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ปัจจุบันมีนักลงทุนเข้าไปตั้งโรงงานแล้วจำนวน 14 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเบา อาทิ โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์และโรงงานพลาสติก เป็นต้น ขณะที่โรงงานอีก 20 แห่ง อยู่ระหว่างการก่อสร้างและยังเหลือพื้นที่ว่างอีกราว 40% n

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด 'บิว ภูริพล' นำทัพ วิ่ง 4x100 ชาย ซีเกมส์2025 วันนี้ 15 ธ.ค.68