posttoday

จัดระเบียบร้านสะดวกซื้อ

26 มิถุนายน 2560

ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล[email protected]นช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มินิมาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อในอินโดนีเซียเติบโตเป็นจำนวนมาก และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากกำลังซื้อผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางถึงสูงของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งร้านมินิมาร์เก็ตและสะดวกซื้อเป็นคู่แข่งหลักของร้านขายของขนาดเล็กแบบดั้งเดิมหรือที่เรียกกันว่า Warung

ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล[email protected]

นช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มินิมาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อในอินโดนีเซียเติบโตเป็นจำนวนมาก และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากกำลังซื้อผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางถึงสูงของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งร้านมินิมาร์เก็ตและสะดวกซื้อเป็นคู่แข่งหลักของร้านขายของขนาดเล็กแบบดั้งเดิมหรือที่เรียกกันว่า Warung

ปัจจุบันอินโดนีเซียมีร้านมินิมาร์เก็ตและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ 65% ดำเนินงานโดยบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ เช่น กลุ่มบริษัท Salim Group เจ้าของ Indomaret ที่มีสาขาอยู่กว่า 1.39 หมื่นสาขาทั่วประเทศ และบริษัท Sumber Alfaria Trijaya เจ้าของ Alfamart จำนวนกว่า 11,115 สาขาทั่วประเทศ

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย แจ้งว่า กระทรวงการค้าของอินโดนีเซียกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการออก Presidential Regulation ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ของร้านสะดวกซื้อและมินิมาร์เก็ต เพื่อปกป้องร้านค้าปลีก และตลาดแบบดั้งเดิม แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแก่ร้านสะดวกซื้อและ มินิมาร์เก็ต และกฎระเบียบใหม่นี้จะครอบคลุมสินค้าที่จำหน่ายในมินิมาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ ซึ่งรัฐบาลต้องการเปิดโอกาสให้กับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่วางจำหน่ายสินค้าในร้านสะดวกซื้อและมินิมาร์เก็ต

ทั้งนี้ เมื่อปี 2556 กระทรวงการค้าได้ออกกฎระเบียบกระทรวง การค้า Ministry of Trade Regulation ฉบับที่ 7/2013 ได้กำหนดข้อจำกัดสำหรับร้านค้าปลีกทันสมัย เพื่อควบคุมการขยายตัวของผู้ค้าปลีกแฟรนไชส์ โดยจำกัดจำนวนร้านค้าสำหรับบริษัทละ 250 ร้าน หากบริษัทมีร้านค้าครบ 250 ร้านแล้ว และต้องการเพิ่มร้านใหม่อีกต้องใช้ในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยร่วมกับบุคคลที่สาม โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง และได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมในกฎระเบียบกระทรวงการค้าว่า ก่อนที่จะได้รับอนุญาตจะต้องมีการจำหน่ายสินค้า ในประเทศอย่างต่ำ 80%

อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกยังคาดการณ์เศรษฐกิจของอินโดนีเซียในเชิงบวก โดยในเดือน ม.ค. 2560 มีการขยายตัวอยู่ที่ 5.3% เพราะเศรษฐกิจของอินโดนีเซียยังคงแข็งแกร่งและเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพ ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไปเพิ่มขึ้น ส่งผลให้จีดีพีของอินโดนีเซียขยายตัว

นอกจากนี้ การจัดอันดับสินเชื่อล่าสุดของอินโดนีเซียด้านการลงทุนโดย Standard & Poor และจากหน่วยงานในการจัดอันดับสินเชื่อทั่วโลกที่สำคัญ 3 หน่วยงาน พบว่า อินโดนีเซียมีอันดับที่ดีขึ้น เนื่องมาจากโครงการปฏิรูปของรัฐบาลอินโดนีเซีย เช่น การยกเลิกกฎระเบียบ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินรูเปียห์ที่แข็งค่าขึ้นหรือมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งความพยายามของรัฐบาลอินโดนีเซียในการแก้ไขกฎระเบียบและลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตที่ซ้ำซ้อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน เนื่องจากภาคการลงทุนมีศักยภาพมีส่วนร่วมต่อจีดีพีของประเทศ ทำให้อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่นักลงทุนจับตามองและสนใจในการลงทุน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากจำนวนประชากร ค่าแรงถูก และเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ส่งผลให้กำลังซื้อของชาวอินโดนีเซียเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้าสะดวกซื้อสนใจเข้าไปเปิดตลาดในอินโดนีเซียมากขึ้น และเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปเช่นกัน

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ