เคาะเงินหนุนผู้ประกอบการรถตู้เปลี่ยนเป็นมินิบัสรายละ2แสน
เคาะเงินหนุนผู้ประกอบการมินิบัสรายละ 2แสน พร้อมดอกเบี้ยจูงใจไม่เกิน 5% ขนส่งไฟเขียว 6 เส้นทางนำร่อง ตั้งเป้าเปิดทั้ง 13เส้นทางภายในต้น ก.ค.
เคาะเงินหนุนผู้ประกอบการมินิบัสรายละ 2แสน พร้อมดอกเบี้ยจูงใจไม่เกิน 5% ขนส่งไฟเขียว 6 เส้นทางนำร่อง ตั้งเป้าเปิดทั้ง 13เส้นทางภายในต้น ก.ค.
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังจากการประชุมโครงการศึกษาความปลอดภัยรถตู้โดยสารประจำทางว่า ภายหลังจากหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)แล้วที่ประชุมมีมติว่าจะให้เพิ่มวงเงินค่าประกันภัยภาคสมัครใจของผู้ประกอบการรถตู้เพื่อคุ้มครองผู้โดยสารและบุคคลภายนอก จากเดิม 3 แสนบาทจะเพิ่มเป็น 7แสนบาท ภายในวันที่ 1 ม.ค. 2561 โดยจะให้ ขบ.เป็นผู้ออกประกาศบังคับใช้ต่อไป
ด้านแนวทางการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนจากรถตู้มาเป็นรถโดยสารขนาดเล็กไม่เกิน 20 ที่นั่ง (มินิบัส) กระทรวงคมนาคมจะเสนอเงินอุดหนุนเพิ่มเติมให้กับผู้ประกอบการเดิมรายละ 2 แสนบาท บนเงื่อนไขที่ว่าต้องเปลี่ยนรูปแบบบริการจากรถตู้มาเป็นรถมินิบัสและจะต้องดำเนินมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบตามที่ ขบ. กำหนดเป็นต้น โดยเบื้องต้นได้มอบแนวทางให้ ขบ.ไปพิจารณาเงื่อนไขเพิ่มเติมก่อนจะนำมาประชุมเพื่อสรุปผลอีกครั้งในวันที่ 31 พ.ค.นี้ส่วนด้านสถาบันทางการเงินและบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ยืนยันมาแล้วว่าสามารถให้ดอกเบี้ยเงินกู้ได้ต่ำกว่า 5% บนระยะเวลาการกู้รวม 7 ปีส่งผลให้ผู้ลงทุนจะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 3 ปีและมีช่วงทำกำไรอีก 4 ปี แต่ต้องมีผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 60% (Load Factor) ส่วนด้านราคารถมินิบัสจะอยู่ในช่วง 1.7-2.2ล้านบาทตามที่ได้ศึกษามาก่อนหน้านี้
"ยืนยันว่าการลงทุนไมโครบัสมีโอกาสคุ้มทุนอย่างมากเนื่องจากปริมาณคาดการณ์ผู้โดยสารร้อยละ 60 นั้นต่ำกว่าความปริมาณเป็นจริง อีกทั้งเจ้าของรถตู้ยังเอารถเก่าไปขายกับสหพันธ์ขนส่งรถบรรทุกเพื่อนำเงินก้อนมาดาวน์รถมินิบัสได้อีกด้วย"นายพิชิตกล่าว
นายพิชิต กล่าวต่อว่า กรมทางขนส่งทางบกได้อนุมิติเส้นทางนำร่องรถโดยสารขนาดเล็กไม่เกิน 20 ที่นั่ง ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร ของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) รวมทั้งสิ้น 6 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพ-ลำนารายณ์ กรุงเทพ-อยุธยา กรุงเทพ-นครสวรรค์ กรุงเทพ-สุพรรณบุรี กรุงเทพ-จันทบุรี กรุงเทพ-ตราด ส่วนอีก 7 เส้นทางตามโครงการนำร่องทั้ง 13 เส้นทางของ บขส.นั้นคาดว่ากรมการขนส่งทางบกจะสามารถอนุมัติได้เร็วๆนี้ ได้แก่ กรุงเทพ-สระบุรี กรุงเทพ-ปากช่อง กรุงเทพ-หัวหิน กรุงเทพ-ประจวบ กรุงเทพ-ระยอง กรุงเทพ-พัทยาและกรุงเทพ-ตลาดโรงเกลือ อย่างไรก็ตามคาดว่าทั้ง 13 เส้นทางจะเริ่มวิ่งให้บริการประชาชนได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ตามแผนที่ บขส.วางไว้ รวมทั้งสิ้น 55 คัน
ในอนาคตกระทรวงคมนาคมจะเปลี่ยนรูปแบบการออกใบอนุญาตเส้นทางการเดินรถโดยสารประจำทางหมวด 1 (กรุงเทพมหานครและปริมณฑล) ตามแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จาก 202 เส้นทางเพิ่มมาเป็น 269 เส้นทาง โดยจะเปลี่ยนจากการให้สัมปทานรายเส้นทางมาเป็นการให้สัมปทานเชิงพื้นที่แทน (โซนนิ่ง) เพื่อให้รถเมล์รอบกรุงเทพและปริมณฑลเป็นเพียงรถฟีดเดอร์หรือรถเมล์เชื่อมต่อระยะสั้นไปยังการขนส่งรูปแบบอื่นอย่างระบบรางและการขนส่งทางน้ำ จนอาจจะไม่มีรถเมล์เส้นทางระยะไกลแบบเมื่อก่อน ซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคมกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการออกกฎหมายคาดว่าจะสามารถบังคับใช้ได้ภายในปีนี้ และจะใช้เวลาเปลี่ยนผ่านราว 2 ปี ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตรายเดิมจะต้องหมดอายุภายใน 2 ปีเพื่อขอใบอนุญาตเส้นทางใหม่
ส่วนผู้ประกอบการที่มีอายุไม่ถึง 2 ปี จะออกใบรับรองชั่วคราวให้ใช้ก่อนเพื่อออกใบอนุญาตเส้นทางใหม่ต่อไป ทั้งนี้ตนเชื่อว่าผู้ประกอบการรายเดิมจะได้ประโยชน์ในแง่ว่าการเตรียมตัวแข่งขันประมูลเส้นทางใหม่สำหรับรถมินิบัสและมีโอกาสทำรายได้จากเส้นทางใหม่ที่ว่านี้อีกด้วย


