posttoday

ผู้จัดการ’ และ ‘ผู้นำ’ แตกต่างกันอย่างไร (จบ)

04 พฤษภาคม 2560

เมื่อบริบทในการบริหารเปลี่ยนไป บุคลากรในทีมมีความหลากหลายมากขึ้น การจัดการที่ดีถึงแม้จะยังมีความจำเป็นอยู่ แต่ไม่เพียงพอในการบริหารทีมและองค์กร โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่องค์กรเผชิญกับคลื่นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ภาวะผู้นำ (Leadership) มีความสำคัญยิ่งขึ้นหากจำลองสถานการณ์ดูว่า ผู้บริหารและผู้จัดการในองค์กรของท่านใช้สถานะผู้จัดการมากเกินไป และใช้สถานะผู้นำน้อยเกินไป จะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง องค์กรจึงให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้แต่เนิ่นๆ เพราะบางคนก็มีภาวะผู้นำติดตัวมา จึงพัฒนาได้เร็ว แต่บางคนก็ต้องมาพัฒนาหรือเสริมประสบการณ์กันไป ใช้เวลาไม่เท่ากัน หากจะแบ่งเป็นช่วงเวลาในการพัฒนาให้เกิดความต่อเนื่องมีแนวทางเช่นเมื่อเล็งเห็นแวว เมื่อพอเล็งเห็นว่าบุคคลนี้เป็นผู้มีแววดี มีศักยภาพความเป็นผู้นำ อาจเริ่มปูพื้นฐานให้มีประสบการณ์ในการร่วมปฏิบัติงานข้ามหน่วยงาน มอบหมายให้ไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ ให้ได้เข้าไปร่วมทำงานในโครงการที่ท้าทายต่างๆ เช่น การพลิกสถานการณ์ธุรกิจ การยุบหน่วยงาน หรือการขยายธุรกิจ จัดระบบให้มีโค้ชภายในหรือจากภายนอกองค์กร ช่วยกระตุ้นและติดตามการเรียนรู้เมื่อมีผลงานชัดเจน เมื่อบุคคลนี้สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน

เมื่อบริบทในการบริหารเปลี่ยนไป บุคลากรในทีมมีความหลากหลายมากขึ้น การจัดการที่ดีถึงแม้จะยังมีความจำเป็นอยู่ แต่ไม่เพียงพอในการบริหารทีมและองค์กร โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่องค์กรเผชิญกับคลื่นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ภาวะผู้นำ (Leadership) มีความสำคัญยิ่งขึ้น

หากจำลองสถานการณ์ดูว่า ผู้บริหารและผู้จัดการในองค์กรของท่านใช้สถานะผู้จัดการมากเกินไป และใช้สถานะผู้นำน้อยเกินไป จะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง

องค์กรจึงให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้แต่เนิ่นๆ เพราะบางคนก็มีภาวะผู้นำติดตัวมา จึงพัฒนาได้เร็ว แต่บางคนก็ต้องมาพัฒนาหรือเสริมประสบการณ์กันไป ใช้เวลาไม่เท่ากัน หากจะแบ่งเป็นช่วงเวลาในการพัฒนาให้เกิดความต่อเนื่องมีแนวทางเช่น

เมื่อเล็งเห็นแวว เมื่อพอเล็งเห็นว่าบุคคลนี้เป็นผู้มีแววดี มีศักยภาพความเป็นผู้นำ อาจเริ่มปูพื้นฐานให้มีประสบการณ์ในการร่วมปฏิบัติงานข้ามหน่วยงาน มอบหมายให้ไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ ให้ได้เข้าไปร่วมทำงานในโครงการที่ท้าทายต่างๆ เช่น การพลิกสถานการณ์ธุรกิจ การยุบหน่วยงาน หรือการขยายธุรกิจ จัดระบบให้มีโค้ชภายในหรือจากภายนอกองค์กร ช่วยกระตุ้นและติดตามการเรียนรู้

เมื่อมีผลงานชัดเจน เมื่อบุคคลนี้สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน ขยับขยายให้เขาหรือเธอไปสู่ตำแหน่งที่ได้มีโอกาสติดต่อสื่อสารกับผู้ลงทุน สื่อมวลชน ลูกค้าคนสำคัญขององค์กร ให้ได้ร่วมงานใกล้ชิดกับผู้นำองค์กรที่มีประสบการณ์สูง หรือให้ได้เป็นผู้นำโครงการการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ต้องใช้ความสามารถในการสื่อสาร การโน้มน้าว ความเป็นนักการทูต หากขาดทักษะการสื่อสาร เป็นโอกาสเหมาะในการให้การอบรม เพราะเขาหรือเธอจะได้ประยุกต์ใช้ได้ทันที

การสนับสนุนด้านทีมงาน การคัดสรรทีมงานที่ดีให้มือใหม่ ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจได้เช่นกัน เช่น ทีมงานที่มีความสามารถ มีความมุ่งมั่น และกล้าแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ การส่งเสริมกิจกรรมที่เสริมความไว้วางใจ ทำให้ “รู้เขา รู้เรา” ก็จะช่วยให้การปรับตัวเข้าสู่ตำแหน่งใหม่สำเร็จได้เร็วขึ้น

ก่อนขึ้นเขียง ก่อนจะขึ้นรับตำแหน่งสำคัญจริงๆ เปิดโอกาสให้บุคคลนี้ได้เข้าโปรแกรมการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง เปิดโอกาสให้มีโค้ชและมีที่ปรึกษาที่เขาหรือเธอไว้วางใจ การเข้าสู่โปรแกรมรูปแบบนี้ดีต่อการปรับตัวและการสร้างเครือข่ายสัมพันธ์ในสังคมธุรกิจอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม บางครั้งเราจะได้ยินจากผู้จัดการบางท่านบ่นว่า “ทำไมให้ฉันไปทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ งานปัจจุบันก็ยุ่งอยู่แล้ว” หรือ “ผมได้รับเชิญไปเข้าหลักสูตรนี้ทำไม ไม่เห็นเกี่ยวกับงานของผม” ตามมาด้วยการโดดร่ม ปัญหาเช่นนี้พอจะคลี่คลายได้ โดย

หนึ่ง ผู้จัดหาโปรแกรมการพัฒนา ควรสรรหาโปรแกรมที่นำไปใช้ได้จริงในการทำงาน (Practical) มีกระบวนการเรียนรู้และเครื่องมือที่เข้าใจง่าย (Simple)  

สอง คือ ผู้บริหารของเขาเอง จำเป็นต้องสื่อสารอย่างชัดเจนถึงความสำคัญในการเข้าร่วมโปรแกรมและท้ายสุด อยู่ที่ตัวของผู้จัดการเองว่า จะเปิดรับโอกาสที่ได้รับ หรือจะปล่อยโอกาสนั้นไป

ข่าวล่าสุด

ถอดพฤติกรรมการเงินคนไทย 4 เจเนอเรชัน จาก Gen Z ถึง Baby Boomer