posttoday

ตลาดหุ้นเกิดใหม่ สาวเนื้อหอม

25 เมษายน 2560

กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ ได้รับความนิยมจากนักลงทุนต่อเนื่อง

โดย...พูลศรี เจริญ

กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ได้รับความนิยมจากนักลงทุนต่อเนื่อง (ไม่นับรวมกองทุนประเภทเทอมฟันด์) รายงานจากบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ประกาศว่าไตรมาสแรกมีกองทุน FIF เปิดใหม่ 19 กองทุน เงินไหลเข้า 4.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปลายปีที่แล้ว 15.16% ส่งผลให้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ หรือเอ็นเอวี 4.6 แสนล้านบาท

ภาพรวมของสินทรัพย์ในกลุ่มกองทุน FIF มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลจากการปรับพอร์ตของนักลงทุน โดยสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 14.33% เป็น 18.89% และกลุ่มสินทรัพย์แบบผสมเพิ่มขึ้นจาก 28.26% เป็น 30.64% ในขณะที่สัดส่วนของกลุ่มตราสารทุนลดลงจาก 48.07% เหลือ 42%

แนวโน้มไตรมาส 2 ในมุมมองของมอร์นิ่งสตาร์ฯ โดย “กิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ” นักวิเคราะห์กองทุน ประจำประเทศไทย บอกว่า การลงทุนในตลาดเกิดใหม่จะมาแรง โดยอาจได้เห็นทั้งการออกกองทุนใหม่ และการนำกองทุนตลาดเกิดใหม่ที่มีมาปัดฝุ่นขายอีกก็ได้

ทั้งนี้ ช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย ออกกองทุนเปิดเค ซีเล็คทีฟ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ หุ้นทุน (K-SEMQ) โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไพรเวทแบงก์

“นาวิน อินทรสมบัติ” รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า ปีนี้ บลจ.กสิกรไทย มองหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ปัจจัยหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีโอกาสโตสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว นอกจากนี้ปัจจุบันหุ้นในตลาดเกิดใหม่ซื้อขายในระดับราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ปี 2560 เศรษฐกิจกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เติบโต 4.0% ซึ่งสัดส่วนหลักจะมาจากการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วจะเติบโตเพียง 1.9% ประกอบกับความน่าสนใจของตลาดเกิดใหม่ยังมาจากประชากรที่มีจำนวนมาก โดยเฉพาะวัยทำงานและประชากรเมืองที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีการบริโภคสูงและมีการเข้าถึงเทคโนโลยีมากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมด้านไอทีที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้น เหล่านี้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีที่ยังไม่นิ่ง ประเมินว่ากระแสเงินทุนต่างชาติจะทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเหนือ อย่างไต้หวัน เกาหลีใต้ และตลาดหุ้นญี่ปุ่น มาลงทุนในตลาดเอเชียใต้-อาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มทิป (ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) ที่ห่างไกลจากคาบสมุทรเกาหลี และเศรษฐกิจเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจในเอเชียเหนือแบบจำกัด

สำหรับตลาดหุ้นไทย ดัชนีจะกลับมาทดสอบและทะลุแนว 1,600 จุด ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2560 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และการกระจายความเสี่ยงจากการเมืองระหว่างประเทศที่เข้มข้นมากขึ้น น้ำมันและทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่กระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี

ผลการสำรวจผู้จัดการกองทุนต่างๆ ของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ (BAML) ชี้ว่า นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นในแนวโน้มของประเทศเกิดใหม่ รวมทั้งจีน อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก

รายงานของ BAML ระบุว่า นักลงทุนได้เข้าไปซื้อหุ้นของประเทศเกิดใหม่กันอย่างคึกคักในเดือน เม.ย.จนทำให้สัดส่วนน้ำหนักของประเทศเหล่านี้ในกองทุนต่างๆ ได้ปรับขึ้นไปถึงระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ