posttoday

‘เดลต้า’ กับโอกาสใหม่ อินเดีย-รถยนต์ไฟฟ้า

03 เมษายน 2560

โดย...พูลศรี เจริญบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) บริษัทระดับชั้นนำของโลก เดลต้า และบริษัทย่อยประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพาเวอร์ซัพพลายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ อุปกรณ์สำหรับศูนย์ข้อมูล (ดาต้า เซ็นเตอร์) จุดกระจายสัญญาณโทรคมนาคม เครื่องมือทางการแพทย์และเครื่องมือที่ใช้ในอุตสาหกรรม รวมทั้งชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีในระดับสูงปัจจุบันมีโรงงานในไทย 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่เขตนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ และในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ จ.ฉะเชิงเทรา โรงงานในต่างประเทศ ได้แก่ อินเดีย สโลวาเกีย  และเมียนมา“อนุสรณ์ มุทราอิศ” กรรมการ เดลต้า กล่าวว่า แผนในอนาคตเน้นกลุ่มยานยนต์มากขึ้น โดยเป็นสินค้าที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กับรถยนต์ที่ขับได้เองอัตโนมัติ เพราะเป็นตลาดที่จะเติบโตในอนาคตปี 2559 ทีมวิจัยและพัฒนาของเดลต้า ได้เริ่มนำอุปกรณ์ชุดเชื่อมต่อแบตเตอรี่ อุปกรณ์แปลงไฟ DC/DC (DC/DC Converter) และอุปกรณ์ประจุไฟฟ้าภายในรถยนต์ออกสู่สายการผลิตเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว การดำเนินการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับบริษัทต่อไปในอนาคต เพราะจะทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่

โดย...พูลศรี เจริญ

บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) บริษัทระดับชั้นนำของโลก เดลต้า และบริษัทย่อยประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพาเวอร์ซัพพลายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ อุปกรณ์สำหรับศูนย์ข้อมูล (ดาต้า เซ็นเตอร์) จุดกระจายสัญญาณโทรคมนาคม เครื่องมือทางการแพทย์และเครื่องมือที่ใช้ในอุตสาหกรรม รวมทั้งชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีในระดับสูง

ปัจจุบันมีโรงงานในไทย 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่เขตนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ และในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ จ.ฉะเชิงเทรา โรงงานในต่างประเทศ ได้แก่ อินเดีย สโลวาเกีย  และเมียนมา

“อนุสรณ์ มุทราอิศ” กรรมการ เดลต้า กล่าวว่า แผนในอนาคตเน้นกลุ่มยานยนต์มากขึ้น โดยเป็นสินค้าที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กับรถยนต์ที่ขับได้เองอัตโนมัติ เพราะเป็นตลาดที่จะเติบโตในอนาคต

ปี 2559 ทีมวิจัยและพัฒนาของเดลต้า ได้เริ่มนำอุปกรณ์ชุดเชื่อมต่อแบตเตอรี่ อุปกรณ์แปลงไฟ DC/DC (DC/DC Converter) และอุปกรณ์ประจุไฟฟ้าภายในรถยนต์ออกสู่สายการผลิตเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว การดำเนินการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับบริษัทต่อไปในอนาคต เพราะจะทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น อุปกรณ์แปลงไฟ DC/DC ประสิทธิภาพสูง และอุปกรณ์เชื่อมต่อแบตเตอรี่ให้มีรูปแบบมากขึ้น สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ได้

“ซอฟต์แวร์และนวัตกรรมยานยนต์จะมาแรงทั่วโลก แนวโน้มคำสั่งซื้อชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า จากผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐ ยังขยายตัวได้ดีเช่นกัน มั่นใจว่าเรามาถูกทาง” อนุสรณ์ กล่าว

ส่วนการขยายกิจการไปต่างประเทศ ถัดจากนี้เน้นเจาะตลาดภูมิภาคมากขื้น โดยเฉพาะอินเดียที่เดลต้ามองเป็นขุมทรัพย์ใหม่ เพราะอุตสาหกรรมยานยนต์ขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการชิ้นส่วนรถยนต์ในตลาดอินเดียปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเดลต้าได้เปิดโรงงาน  5 แห่ง

ทั้งนี้ เดลต้าวางแผนจะลงทุนในอินเดียเพิ่ม 30-50 ล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากอินเดียในปี 2559-2561 ประมาณ 20% ของยอดขายทั้งหมด และในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีรายได้จากอินเดียประมาณ 50% ของยอดขายทั้งหมด ขณะเดียวกัน เดลต้าได้ซื้อที่ดิน 200 ไร่ ในอินเดีย ส่งมอบแล้ว 100 ไร่ คาดว่า 5 ปี จะได้ครบ และขณะนี้ได้เริ่มสร้างโรงงานแล้ว โดยที่ดินของบริษัทอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมซึ่งมีพื้นที่รวม 1,000-2,000 ไร่ 

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างปรับสายการผลิตโรงงานในไทยทั้งหมด เพื่อเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยมีนโยบายปรับให้โรงงานเป็นระบบอัจฉริยะ หรือใช้เทคโนโลยีแทนคน จึงมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตโดยการปรับเปลี่ยนตนเองให้เข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างแท้จริงอีกด้วย

“ปีนี้เดลต้าตั้งงบ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้เพื่อการพัฒนาและวิจัย 1,000 ล้านบาท โดยเน้นไปที่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รถยนต์ไฟฟ้า ส่วนอีก 1,000 ล้านบาท ใช้ในการปรับปรุงสายการผลิตเพื่อเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0”

ล่าสุดวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา เดลต้าแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดตั้งบริษัทร่วมทุนในไทย มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 70 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสายผลิตภัณฑ์ของธุรกิจกลุ่มระบบอัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรมด้วยการใช้โอกาสทางธุรกิจใหม่จากอุตสาหกรรม 4.0 ที่สามารถใช้เครื่องจักรอัตโนมัติเป็นส่วนหนึ่งในการผลิต โดยคาดว่าจะช่วยสร้างยอดขายให้เพิ่มขี้น

ปี 2559 เดลต้ามีกําไรสุทธิ 5,516 ล้านบาท ลดลง 18% จากปีก่อนหน้า เพราะการลดลงของยอดขาย และอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ในกลุ่มดาต้า เซ็นเตอร์ อย่างไรก็ตาม อนุสรณ์มั่นใจว่าปีนี้แม้จะมองว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกยังไม่ชัดเจน แต่คาดว่าผลประกอบการจะดีกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่การขายบริษัทลูกในต่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจการตลาด หรือเซลออฟฟิศ จะเสร็จสิ้นครึ่งปีแรก คาดว่าทำให้ลดต้นทุนได้ทันที 3-4% ปัจจุบันบริษัทมีเซลออฟฟิศในยุโรปเกือบ 20 แห่ง

นอกจากนี้ จะเพิ่มประสิทธิภาพในสายการผลิต เน้นการเพิ่มมูลค่าเข้าไปในสินค้ามากขึ้นเพื่อให้ได้อัตรากำไรขั้นต้น หรือมาร์จิ้นปีละประมาณ 25-27% 

สำหรับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐ อนุสรณ์ บอกว่า ไม่กลัว ไม่มีผลต่อเดลต้า เพราะสามารถตั้งโรงงานที่ประเทศไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย อินเดีย และยุโรป

ข่าวล่าสุด

ยึดไม้เถื่อน! นายทุนจีน พบ ลักลอบตัดจากเขตอุทยาน มูลค่ารวม 300 ล้าน