ณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ปั้นธุรกิจด้วยใจรัก
การทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำจะมีแรงผลักดันให้เราทำเรื่องเหล่านั้นได้ดีและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง
โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
การทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำจะมีแรงผลักดันให้เราทำเรื่องเหล่านั้นได้ดีและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง เพราะเราจะไม่ย่อท้อกับสิ่งเหล่านั้น นี่คือแนวคิดที่ทำให้ซีอีโอหลายคนปลุกปั้นธุรกิจจนเติบใหญ่ได้
ณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โฟคอล อินเทลลิเจนซ์ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ทีทูพี เป็นอีกหนึ่งคนที่มีแนวคิดนี้ โดยเชื่อว่าหากจะทำธุรกิจต้องหาสิ่งที่ตัวเองรักและชอบว่ามีแง่มุมไหนบ้าง ซึ่งตัวณัฐวุฒิชอบเรื่องนวัตกรรม จึงตอบโจทย์การทำในสิ่งที่รักด้วยการเปิดบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีทั้งสองบริษัทนี้
ณัฐวุฒิ เล่าย้อนว่า ตัวเองเรียนจบด้านวิศวกรรมและบริหารธุรกิจ ช่วงเริ่มทำงานก็อยู่ในวงจรสาขาที่เรียนมา โดยหลังจบการศึกษาก็ทำงานให้ทรูเกือบ 10 ปี กระทั่งเป็นผู้จัดการทั่วไป ทรู อินเทอร์เน็ต จากนั้นเริ่มคิดอยากทำธุรกิจของตัวเองที่เกี่ยวพันกับเรื่องนวัตกรรม เพราะเป็นคนชอบนำเทคโนโลยีมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตให้ดีขึ้น
ระหว่างคิดจะทำธุรกิจเอง เป็นจังหวะที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. ซึ่งเป็นองค์กรมหาชนกำลังรับสมัครผู้อำนวยการพอดี เวลานั้นณัฐวุฒิอายุ 35 ปี ก็อยากสมัครทดลองทำดู เพราะมองว่าเป็นงานที่มีระยะเวลาทำงานในตำแหน่งชัดเจน เมื่อครบวาระจะต้องออกจากองค์กรแน่นอน ประกอบกับเคยทำงานแต่องค์กรเอกชนจึงอยากลองเปลี่ยนไปเป็นผู้บริหารองค์กรรูปแบบอื่นบ้าง และก็ได้เข้าไปเป็นผู้อำนวยการ สสปน. ซึ่งการทำงานยังคงตอบโจทย์ความชอบเรื่องนวัตกรรม โดยระหว่างทำงานได้ออกบริการใหม่ เช่น เลนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองพิเศษสำหรับนักเดินทางธุรกิจ
หลังหมดวาระแล้วจึงมาเริ่มทำธุรกิจเอง ซึ่งณัฐวุฒิยอมรับว่า การมีประสบการณ์เป็นผู้บริหารทั้งองค์กรเอกชนขนาดใหญ่และองค์กรมหาชนเอื้อประโยชน์ให้มองภาพการบริหารองค์กรได้รอบด้านขึ้นทั้งเรื่องการเงิน การขาย การผลิตสินค้า และทำให้รู้จักวิธีการสร้างความสัมพันธ์กับคนแต่ละกลุ่มดีขึ้น เช่น เวลาจะคุยกับลูกค้าก็มีวิธีทำให้เข้าใจลักษณะของลูกค้า แล้วนำมาปรับสินค้าให้ตอบโจทย์ นอกจากนี้การบริหารทั้งสององค์กรยังเปิดโอกาสให้ได้สร้างเครือข่ายรู้จักคนกว้างขวางขึ้น เป็นที่มาให้ได้รู้จักกับหุ้นส่วนและร่วมมือทำธุรกิจ
“เราได้ค้นพบว่าอะไรคือจุดแข็งและจุดอ่อนของเรา จากนั้นก็หาหุ้นส่วนที่เสริมจุดอ่อนของเราได้ และเราสามารถไปเสริมจุดอ่อนของเขาได้ ซึ่งถ้าเริ่มธุรกิจตั้งแตยังเป็นเด็กจบใหม่อาจหาสิ่งเหล่านี้ไม่เจอ” ณัวุฒิ กล่าว
ทั้งนี้ การทำธุรกิจเอง ได้เริ่มจากบริษัท โฟคอล อินเทลลิเจนซ์ ก่อน เป็นบริษัททำแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการหาตำแหน่งและนำทาง เช่น ทำระบบให้พิพิธภัณฑ์ ว่าห้องไหนมีรายละเอียดอย่างไร แล้วทำสื่อที่ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้ (อินเตอร์แอ็กทีฟ) ในแต่ละห้องให้ ซึ่งทำให้พิพิธภัณฑ์แล้วกว่า 100 แห่ง รวมถึงการทำระบบสำหรับการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งปัจจุบันให้น้ำหนักกลุ่มงานนี้มาก มีทั้งจัดทำระบบการประกาศอัตโนมัติภายในเรือ ว่ากำลังแล่นไปที่ท่าไหน เป็นการทำให้กับเรือด่วนเจ้าพระยา นอกจากนี้ยังมีระบบนำทาง ระบบโฆษณาภายในเรือ
ขณะที่บริษัท ทีทูพี เป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำอี-มันนี่ หรือเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่ผ่านมามีลูกค้ากว่า 10 แบรนด์ให้บริษัททำบัตรเติมเงินและบัตรโลยัลตี้ในใบเดียวให้ จากนั้นก็ขยายไปทำแอพพลิเคชั่นดีพพ็อกเกต (Deeppocket) กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างบัตรมาสเตอร์การ์ดชำระค่าสินค้าและบริการได้ และล่าสุดกำลังขยายธุรกิจไปต่างประเทศที่เมียนมา เป็นการไปทำอี-มันนี่รูปแบบบัตรเติมเงินกับแอพพลิเคชั่นที่จ่ายผ่านมือถือได้ควบคู่กัน
ท้ายนี้ ณัฐวุฒิแนะนำคนอยากทำธุรกิจเองว่า ให้ทำตรงกับสิ่งที่รักสิ่งที่ฝัน โดยชีวิตคนเรานั้นสั้น ควรใช้เวลาที่มีอยู่ทำตามความฝันเลย อาจจะสำเร็จ หรือผิดหวังบ้าง แต่คงไม่มีคำว่าล้มเหลวตลอดเวลา เพียงแค่การลงมือทำต้องทำการบ้านให้มากและหนักเข้าไว้จึงจะไปสู่หนทางของความสำเร็จได้


