รมณี บุญดีเจริญ ช่วยพ่อ‘โยธิน’ทวงบัลลังก์อสังหาฯ
การกลับมาทวงบัลลังก์ “เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์” ของ “โยธิน บุญดีเจริญ” เมื่อ 6 ปีก่อน พร้อมเปิดตัวโครงการ
โดย...พูลศรี เจริญ
การกลับมาทวงบัลลังก์ “เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์” ของ “โยธิน บุญดีเจริญ” เมื่อ 6 ปีก่อน พร้อมเปิดตัวโครงการเดอะ แกรนด์ พระราม 9 บนที่ดิน 72 ไร่ ไม่ได้มาเดี่ยว แต่มีลูกสาว “แนน-รมณี บุญดีเจริญ” มาด้วย
“รมณี” มีพี่น้อง 3 คน เธอเป็นลูกสาวคนเดียวและเป็นคนกลาง มีพี่และน้องเป็นผู้ชาย
การพัฒนาโครงการใหญ่ “เดอะ แกรนด์ พระราม 9” ย่านพระราม 9 มูลค่าร่วม 4-6 หมื่นล้านบาท บนที่ดินกว่า 72 ไร่ พัฒนาครบวงจรทั้งคอนโดมิเนียม ศูนย์การค้า ออฟฟิศ โรงแรม และไลฟ์สไตล์มอลล์ รมณีก็มีบทบาท เธอกล่าวอย่างมั่นใจว่าทำเลโครงการของเธอดีที่สุด เพราะเป็นหัวมังกรนั่นหมายถึงอยู่หัวมุมถนนพระราม 9
“รมณี” กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการกลุ่มงานบัญชีและการเงินบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ (GLAND) จบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สิรินธร และปริญญาโท สาขาการเงิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“รมณี” ได้เข้ามาช่วยงานคุณพ่อเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 23 ปี เข้ามาทำงานไม่เท่าไหร่ พนักงานฝ่ายบัญชีลาออกไปครึ่งทีม ซึ่งตอนนั้นมีคน 12 คน พนักงานบางคนไม่ยอมรับ บางคนก็ยอมรับเธอ ปรากฏว่าพนักงานลาออกไปครึ่งทีม
“คุณพ่อสอนให้อดทนต้องใจเย็นๆ แนนชอบบรรยากาศการทำงานแบบครอบครัวและชอบทำงานเป็นทีม”
ภารกิจที่ “รมณี” บอกว่าตัวเองมีบทบาทในการช่วยงานคุณพ่อ มีทั้งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทางอ้อมหรือแบ็กดอร์ ลิสติ้ง ของจีแลนด์ผ่านบริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ ช่วงปลายปี 2552 ขั้นตอนดังกล่าวใช้เวลาเกือบ 1 ปี
ล่าสุด เธอได้พิสูจน์ฝีมืออีกครั้งด้วยการผลักดันการระดมทุนครั้งใหญ่ของจีแลนด์ได้สำเร็จ ด้วยการออกกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือกองรีทส์ ที่ชื่อว่าทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงานจีแลนด์ (GLANDRT) มูลค่า 5,997.68 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าพื้นที่สำนักงานของ “เดอะไนน์ ทาวเวอร์ส” และ “ยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์” ภายในโครงการเดอะ แกรนด์ พระราม 9 ชูศักยภาพอาคารสำนักงานทั้งสองแห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจใหม่ ทำเลความมั่งคั่งแห่งอนาคตของกรุงเทพฯ
“วางแผนมาตั้งแต่ปี 2554 แนนว่าการออกกองรีทส์ก็คือ การรีไซเคิลเงิน ซึ่งใครเขาก็ทำกัน” ทายาทเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ย่านพระราม 9 กล่าวอย่างถ่อมตัว ทำนองว่าสิ่งที่เธอทำไม่ใช่ของใหม่และของแปลก
ปัญหาและอุปสรรคที่เคยประสบ เธอเล่าว่า คงเป็นช่วงน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ทำให้ส่งมอบห้อง (ดอนโดมิเนียม) ให้ลูกค้าล่าช้า แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้
“แนนยอมรับผิด ช่วงนั้นคนงานต่างด้าวไม่มี กลุ้มใจมาก ลูกค้าก็มีแสดงความเห็นเยอะ แนนจะพบลูกค้าเพื่อชี้แจงด้วยตัวเองตลอด”
“10 ปีที่ผ่านมาเราโตขึ้น มีการทำงานเป็นทีม ทีมงาน ผู้ร่วมงาน ลูกค้า ทุกคนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรามีวันนี้”
“เป้า 3-5 ปี อยากจะให้เราเป็นผู้นำด้านอาคารสำนักงานเป็นมิกซ์ยูส บาลานซ์ขาย-เช่า โดยฝั่งเช่าเราวางตัวเองเป็นผู้นำอาคารสำนักงาน” ทายาทโยธิน กล่าวในที่สุด


