posttoday

เว็บไซต์ดีลท่องเที่ยว รุกกลุ่มไทยเที่ยวเอง

30 มีนาคม 2560

วงจรการเดินทางในปัจจุบันมีความเกี่ยวพันกับโลกออนไลน์ค่อนข้างมาก

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

วงจรการเดินทางในปัจจุบันมีความเกี่ยวพันกับโลกออนไลน์ค่อนข้างมาก เริ่มตั้งแต่ความฝันว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน ก็เกิดขึ้นเพราะดูภาพจากสังคมออนไลน์ทำให้อยากไป จากนั้นก็ไปค้นหาและจองการเดินทางบนออนไลน์ เมื่อเดินทางไปแล้วก็กลับมาเขียนรีวิวบนโลกออนไลน์เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นอีกทอด ซึ่งวงจรเหล่านี้เองเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างอี-คอมเมิร์ซท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นมา เช่น เว็บไซต์ดีลท่องเที่ยว

หมิง เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เว็บไซต์เคเคเดย์ (www.kkday.com) ซึ่งเป็นเว็บดีลท่องเที่ยวที่ก่อตั้งขึ้นในไต้หวัน เปิดเผยว่า เคเคเดย์เปิดตัวขึ้นเมื่อปี 2557 ในไต้หวัน จุดเริ่มต้นมาจากประสบการณ์ส่วนตัวในการเดินทาง โดย 10 ปีก่อนมีแฟนและตัดสินใจพาแฟนไปเที่ยวกับทัวร์แต่ก็เหมือนฝันร้ายถูกบังคับให้ตื่นเช้า เดินทางด้วยรถบัสด้วยเวลายาวนาน อาหารไม่ถูกปาก และเกิดความรู้สึกอึดอัดตลอดการเดินทางเพราะถูกบังคับซื้อนั่นซื้อนี่ตลอดเวลา จบการเดินทางจึงถูกแฟนทิ้ง

เมื่อมีแฟนอีกครั้งก็พาไปเที่ยวญี่ปุ่นเช่นเคย แต่คราวนี้เดินทางไปเอง ก็จัดแจงจองตั๋วเครื่องบินและห้องพักเอง แต่มีปัญหาคือกิจกรรมที่จะทำในพื้นที่ เพราะกิจกรรมเหล่านี้ไม่มีข้อมูลบนออนไลน์มากนัก ที่สำคัญถ้ามีข้อมูลก็เป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งเฉินพูดไม่ได้ ทำให้ไม่แน่ใจว่าถ้าไปเลือกซื้อทัวร์ไปกิจกรรมต่างๆ บนออนไลน์จะได้สินค้ามีคุณภาพหรือไม่ สุดท้ายก็ต้องเลิกกับแฟนอีกครั้ง

จากเหตุการณ์ทั้งสองครั้งนี่เอง ที่เป็นแรงบันดาลใจทำให้สร้างเคเคเดย์ขึ้นมา เพื่อเป้าหมาย 3 ด้าน คือ ทำลายกำแพงเรื่องภาษาที่เป็นอุปสรรคสำคัญของการเดินทางเที่ยว ทำให้คนเที่ยวเองสามารถหาแพ็กเกจกิจกรรมจากบริษัทนำเที่ยวในท้องถิ่นได้ง่าย และแน่ใจได้ว่าบริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมนำเสนอดีลแพ็กเกจมีคุณภาพที่ดี

ปัจจุบันเคเคเดย์มีสำนักงานอยู่ใน 9 ประเทศ คือ ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และล่าสุดเพิ่งเปิดสำนักงานแห่งที่ 10 ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งสาเหตุที่มาเปิดสาขาในไทย เพราะเคเคเดย์มองเห็นโอกาสเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ในไทย 

กระแสคนรุ่นใหม่ในไทยที่จองตั๋วเครื่องบินผ่านเว็บไซต์สายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) จองห้องพักจากตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์ (โอทีเอ) ชื่อดังระดับโลกมาแรงเหมือนกับประเทศอื่นในโลก กลุ่มนี้เมื่อวางแผนเดินทางไปเที่ยวเองแล้วจะไม่กลับไปเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์ใหญ่ เพราะต้องการไปเที่ยวต่างประเทศแบบอิสระ ดื่มด่ำกับการสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น

สำหรับในไทยกลุ่มคนเดินทางเที่ยวเอง (เอฟไอที) มีสัดส่วน 30% ของคนไทยที่ไปต่างประเทศทั้งหมด ถือว่าสัดส่วนยังน้อยกว่าอีกหลายประเทศ แต่เป็นเพราะอยู่ในช่วงเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงเชื่อว่ายอดการเติบโตของอี-คอมเมิร์ซท่องเที่ยวในไทยรองรับตลาดเอฟไอทีจะไปได้เร็ว

ทั้งนี้ เคเคเดย์ตั้งเป้าหมายว่า ใน 3 ปีข้างหน้าจะมียอดผู้เข้าชมเว็บไซต์จากทั่วโลก 7 ล้านคน/เดือน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2 ล้านคน/เดือน ขณะที่คนไทยแม้สัดส่วนเข้ามาชมและใช้บริการเว็บไซต์ยังน้อย แต่หลังเปิดตัวในไทยแล้วก็ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มยอดคนไทยเข้ามาติดตามเคเคเดย์เพิ่มเป็น 1 ล้านคน/เดือน ให้ได้ใน 3-4 ปี

นอกจากนี้ มองว่าจะสามารถแบ่งส่วนแบ่งตลาดคนไทยที่เที่ยวด้วยตัวเองมาซื้อแพ็กเกจผ่านเคเคเดย์ 3% ของตลาดรวมคนไทยเที่ยวเอง ภายใน 1-2 ปี ขณะที่ปัจจุบันเคเคเดย์มีจำหน่ายดีลกิจกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 6,000 แพ็กเกจ ตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 1 หมื่นแพ็กเกจสิ้นปีนี้ โดยในส่วนของประเทศไทย มีดีลกิจกรรมท่องเที่ยวให้เลือกแล้วกว่า 1,000 แพ็กเกจ

หลังจากขยายสำนักงานในไทยแล้ว ไตรมาส 2 ปีนี้ก็เตรียมไปขยายสำนักงานในอเมริกาเหนือและยุโรปด้วย โดยจะนำเสนอจุดแข็งเป็นเว็บไซต์ดีลท่องเที่ยวที่ให้น้ำหนักกับกิจกรรมในเอเชียเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาแพ็กเกจกิจกรรมที่ขายดีที่สุดก็คือกิจกรรมในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน

อย่างไรก็ตาม เคเคเดย์ไม่มีแผนไปขยายตลาดในจีน เพราะมองว่าเป็นประเทศที่มีการแข่งขันสูง อีกทั้งจุดมุ่งหมายสำคัญของคนจีนคือต้องการเรื่องราคาถูกมากกว่าการมองเรื่องคุณภาพ ในขณะที่เคเคเดย์จะให้ความสำคัญที่คุณภาพของบริการเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นกิจกรรมในจีนสำหรับเสนอขายให้กับคนไทยหรือคนจากประเทศอื่นที่จะเดินทางไปนั้น มีให้บริการอยู่แล้ว

“เว็บไซต์ดีลท่องเที่ยวแบบเคเคเดย์ก็มีคู่แข่งเหมือนกับอี-คอมเมิร์ซท่องเที่ยวกลุ่มอื่น เป็นธรรมดาของธุรกิจที่เกิดจากแนวคิดน่าสนใจก็จะมีการแข่งขันสูงตามมา แต่ก็เชื่อว่าการเป็นรายแรกๆ ที่เข้ามาเปิดตัวในไทยจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสร้างการจดจำในแบรนด์ ทำให้ธุรกิจเติบโตได้เร็ว” เฉิน กล่าว

เฉิน ยืนยันว่า คงไม่ขยายตลาดไปทำอี-คอมเมิร์ซจองห้องพักและตั๋วเครื่องบินเพิ่มเติมด้วย เพราะตัวกลางเหล่านี้มีในตลาดมากแล้วและผู้ประกอบการที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็แข็งแรงมาก โดยจะยืนหยัดเจาะตลาดกิจกรรมอย่างเดียวต่อไป เนื่องจากเชื่อว่าการพุ่งเป้าทำธุรกิจเดียวจะสร้างการขยายตัวทางธุรกิจได้ดีกว่า

อย่างไรก็ดี ในธุรกิจเปิดตัวเว็บไซต์ดีลท่องเที่ยวในไทย เมื่อเดือน ม.ค. 2559 ก็มีคนไทยเปิดตัวเว็บไซต์จองกิจกรรมท่องเที่ยวในไทย ชื่อว่า แชลทราเวลดอทคอม (Shalltravel.com)

อาณดา พฤฒิอางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอลล็อต ผู้บริหารแชลทราเวลดอทคอม กล่าวว่า แชลทราเวลดอทคอม เป็นเว็บไซต์ที่ทำโดยคนไทยเพื่อการจองกิจกรรมท่องเที่ยว ระยะแรกของการเปิดตัวเว็บไซต์ก็จะมีเฉพาะกิจกรรมท่องเที่ยวในไทยให้เลือกซื้อก่อน โดยเฉพาะจุดหมายท่องเที่ยวหลัก เช่น กรุงเทพฯ พัทยา ราชบุรี เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ภูเก็ต กระบี่ พังงา และสมุย

จากนั้นจึงค่อยขยายขอบเขตธุรกิจออกไปต่างประเทศ ปัจจุบันมีกิจกรรมท่องเที่ยวให้เลือกซื้อครอบคลุม 13 ประเทศแล้ว และเว็บไซต์รองรับผู้ใช้บริการที่เข้ามา 5 ภาษา กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการคือนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ โดยที่ผ่านมายังไม่ได้เปิดตัวเว็บไซต์เป็นทางการ แต่ภายในปีนี้จะเปิดตัวเป็นทางการเพื่อทำตลาดในเชิงรุกมากขึ้นแน่นอน

เมื่อคนต้องการเดินทางท่องเที่ยวเองมากขึ้น เทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านการท่องเที่ยวที่รองรับความต้องการของคนเดินทางเองก็จะทยอยเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เพื่อรองรับโอกาสจากช่องว่างตลาดนี้ที่ยังมีอีกมาก ซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยวเองเพราะมีทางเลือกมากขึ้นที่จะช่วยเหลือให้การเดินทางท่องโลกกว้างทำได้ง่ายยิ่งขึ้น  

ข่าวล่าสุด

ปตท. จัดละครเพลง "Still On My Mind ในดวงใจนิรันดร์" รำลึกพระพันปีหลวง!