เอ็มเคแตกแบรนด์'ไลฟ์' เสริมแกร่งธุรกิจอาหาร
เอ็มเคฯ กรุ๊ป ปั้นเอ็มเคไลฟ์ เมนูและวัตถุดิบแตกต่างไปจากเอ็มเคเดิม หวังขยับราคาต่อหัวจาก 300 บาท เป็น 500 บาท สาขาแรกที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์
โดย...จะเรียม สำรวจ
แม้ว่าการแข่งขันธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยจะรุนแรงเพิ่มขึ้น ทุกวัน เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ธุรกิจร้านอาหารก็ยังมีช่องว่างให้ผู้ที่แสวงหาโอกาสเข้ามาทำตลาดได้อยู่เสมอ
เช่นเดียวกับบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป แม้ว่าปัจจุบันจะมีธุรกิจร้านอาหารในการดูแลถึง 8 แบรนด์ แต่ก็ยังมองหาโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจ ด้วยการเปิดตัวร้านอาหารใหม่ๆ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบของร้านอาหาร ในเครือ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากล่าสุดได้ ออกมาเปิดตัวร้านเอ็มเค ไลฟ์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่ม เป้าหมายรุ่นใหม่โดยเฉพาะ
ฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป กล่าวว่า การเปิดตัวร้านเอ็มเค ไลฟ์ ในรูปแบบแฟล็กชิปสโตร์สาขาแรกที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ครั้งนี้ก็เพื่อเจาะ กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่มองหาประสบการณ์แปลกใหม่ และความหลากหลายในการรับประทานอาหาร เนื่องจากเมนูอาหาร วัตถุดิบที่นำมาให้บริการจะมีความแตกต่างไปจากร้านเอ็มเคทั่วไป คือ ชูความสดใหม่ ทั้งบรรยากาศภายในร้าน อาหาร วัตถุดิบ ความสดใสของพนักงาน และการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ
จากสินค้าและบริการของร้านเอ็มเค ไลฟ์ ที่มีความแตกต่างไป จากร้านเอ็มเคทั่วไป ส่งผลให้ราคา ต่อหัวในการรับประทานอาหารปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คือ ร้านเอ็มเคทั่วไปจะมีราคาต่อหัวเฉลี่ยอยู่ที่ 300 บาท แต่ร้านเอ็มเค ไลฟ์ จะมีราคาเฉลี่ยต่อหัวประมาณ 500 บาท หากได้ ผลการตอบรับที่ดี และสามารถหาทำเลที่เหมาะสมกับการเปิดร้าน เอ็มเค ไลฟ์ ก็จะขยายสาขาใหม่เพิ่มทันที
การเปิดร้านเอ็มเค ไลฟ์ ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในการต่อยอดธุรกิจ และเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารของบริษัท เอ็มเคฯ เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจยังไม่ค่อยเอื้อ ต่อการทำธุรกิจมากนัก การขยายธุรกิจร้านอาหารเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายและแตกต่างกันไป จึงถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการลดความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจได้
สำหรับแผนการขยายธุรกิจร้านอาหารในปีนี้ บริษัท เอ็มเคฯ มีแผนจะขยายสาขาร้านอาหารในประเทศ 45 สาขาเป็นอย่างน้อย จากปัจจุบันมีธุรกิจร้านอาหารในเครือ 8 แบรนด์รวมกว่า 600 สาขา ขณะที่ตลาด ต่างประเทศมีแผนจะขายแฟรนไชส์ ธุรกิจร้านอาหารเพิ่มอีก 4-5 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการ 46 สาขา ใน 4 ประเทศ ประกอบด้วย สิงคโปร์ 7 สาขา เวียดนาม 5 สาขา ญี่ปุ่น 32 สาขา และลาว 2 สาขา โดยเน้นขยายสาขาร้านเอ็มเค สุกี้ และร้านยาโยอิเป็นหลัก
หลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจ อย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโตที่ 7-9% เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีรายได้ 15,498 ล้านบาท เติบโต 4% จากปี 2558 และมีกำไร 2,100 ล้านบาท


