ผู้ใช้ฟอร์ดร้องสคบ.-สภาทนายฯช่วยฟ้องร้องกรณีรถมีปัญหา
ผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดเข้าร้องเรียน สคบ.-สภาทนายความ ให้ช่วยฟ้องร้องกรณีรถยนต์มีปัญหาบกพร่องทั้งเกียร์กระตุก-เครื่องดับกระทันหัน
ผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดเข้าร้องเรียน สคบ.-สภาทนายความ ให้ช่วยฟ้องร้องกรณีรถยนต์มีปัญหาบกพร่องทั้งเกียร์กระตุก-เครื่องดับกระทันหัน
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. เวลา 09.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) นายพัฒนพงศ์ อ่องแก้ว แกนนำ "กลุ่มเหยื่อรถยนต์" นำผู้ประสบปัญหาจากการใช้รถยนต์ฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า และรุ่นโฟกัส ที่รวมตัวกันกว่า 250 คน เข้าร้องเรียนต่อ สคบ. ให้ช่วยเรียกร้องความรับผิดชอบจาก บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด กรณีบริษัทจำหน่ายสินค้ารถยนต์ไม่ได้มาตรฐาน มีปัญหาบกพร่องร้ายแรง เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ กลุ่มผู้เรียกร้องได้รวมตัวกันขับรถที่มีปัญหาไปจอดไว้บริเวณด้านหน้าอาคารบี ศูนย์ราชการฯ พร้อมทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ติดสติ๊กเกอร์คำว่า “เหยื่อรถยนต์” และ “เหยื่อเกียร์กระตุก” รอบคัน
นายพัฒนพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดรุ่นเฟียสต้าและรุ่นโฟกัส มากกว่า 500 คันที่มีปัญหาการใช้งาน โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากการออกแบบและผลิตระบบเกียร์ Power Shift ทำให้รถจำนวนมากมีอาการสั่น กระตุก กระชาก เครื่องร้อน มีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์ เร่งไม่ขึ้น ความเร็วตกกระทันหัน เครื่องยนต์ดับกระทันหันขณะขับขี่ ประตูปิดไม่ได้ หรือประตูเปิดเองขณะขับขี่ และปัญหาชิ้นส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์เสื่อมสภาพและชำรุดเสียหายเร็วกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรถยนต์ยี่ห้ออื่นทั่วไป ที่พบบ่อย เช่น พวงมาลัย เบรก สายพาน หม้อน้ำ โช๊ค ฯลฯ ที่น่าตกใจคือ ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้ห้องเครื่องและตัวรถของทั้งสองรุ่นนี้แล้วอย่างน้อย 3 ราย ขณะเดียวกัน ผู้ใช้รถต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายการซ่อม ไม่ได้รับความสะดวก ต้องเสียเวลานำรถเข้าศูนย์ซ่อมบ่อยครั้ง เสียโอกาสในการใช้รถอย่างเต็มที่ และที่สำคัญ ต้องเสี่ยงอันตรายขณะขับขี่อยู่บนท้องถนน
"เราต้องการให้ สคบ. บังคับใช้กฎหมาย สั่งให้บริษัทเยียวยาผู้บริโภคด้วยการรับซื้อคืน และหยุดจำหน่ายรถที่ไม่มีมาตรฐาน ไม่มีความปลอดภัย แต่สิ่งที่เห็นทุกวันนี้ คือ สคบ. ยังไม่มีความจริงใจ และทำงานล่าช้า พยายามบ่ายเบี่ยงมาตลอด อีกทั้งยังไม่มีหน่วยงานใดจัดการให้บริษัทฟอร์ดออกมารับผิดชอบได้เลย เราจึงมาเรียกร้องความเป็นธรรมและในวันพรุ่งนี้เวลา09.30น.จะเข้าไปร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป"นายพัฒนพงศ์ กล่าว
นายพัฒนพงศ์ กล่าวอีกว่า ได้เข้าร้องเรียนกับบริษัทฟอร์ด ตั้งแต่ปี 2557 และบริษัทตกลงยินยอมขยายเวลารับประกันบางชิ้นส่วนของระบบเกียร์ ได้แก่ ชุดคลัตช์ และกล่องคอมพิวเตอร์ควบคุมเกียร์ แต่มีผู้ใช้รถหลายรายนำรถเข้าเปลี่ยนชุดคลัตช์ถึง4-5 ครั้ง สูงสุดถึง7ครั้ง แต่ก็ยังเกิดปัญหาเดิม โดยบริษัทมีเงื่อนไขว่ารถคันใด ที่แม้จะมีปัญหาการขับขี่ แต่หากวัดค่าความสั่นของเกียร์แล้วสั่นไม่ถึงเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด ก็จะไม่ได้รับการเปลี่ยนชุดคลัตช์ดังกล่าว ทั้งนี้ โดยบริษัทจะไม่มีการ Recall รถทั้งสองรุ่นเพื่อปรับปรุงระบบเกียร์ใหม่ทั้งหมด และจะไม่ซื้อรถคืนตามที่ผู้เสียหายเรียกร้อง
"พวกเราผู้เสียหายเคยนำตัวอย่างรถยนต์ที่พบปัญหาเข้ารับการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญของ สถาบันยานยนต์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังแล้ว และได้รับการยืนยันว่ารถยนต์ดังกล่าวมีปัญหาระบบเกียร์จริง"นายพัฒนพงศ์ กล่าว
นายปรัชญา ธนานันท์ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ผู้ประสบปัญหารถยนต์ฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า เกิดไฟไหม้ห้องเครื่องและตัวรถเสียหายทั้งหมด กล่าวว่า กว่า 2 ปีที่ตนทนใช้รถคันนี้มา แม้จะนำรถเข้าเปลี่ยนคลัตช์แล้ว แต่ก็มีอาการสั่น กระตุก กระชาก เครื่องยนต์อืด กินน้ำมัน เคยได้ยินเสียงลมรั่ว และระบบเกียร์หยุดทำงานกะทันหัน ทำให้เร่งความเร็วไม่ขึ้นขณะขับขี่ และเคยเจอเหตุการณ์เครื่องยนต์ดับกะทันหันขณะขับขี่ 2 ครั้ง และได้เห็นข่าวว่ามีรถยนต์รุ่นนี้ไฟไหม้ที่มอเตอร์เวย์ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุขึ้นกับตนเอง
"ขณะขับรถช่วงถึงหน้าหมู่บ้าน ผมได้กลิ่นเหม็นไหม้ ขับไปได้ 800 เมตร กลิ่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ จึงลงมาเปิดฝากระโปรงรถดู ตกใจมาก เพราะไฟไหม้ผนังห้องเครื่อง และลุกลามไหม้ทั้งคัน โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เอกสารสำคัญและทรัพย์สินที่อยู่ในรถเสียหายทั้งหมด "นายปรัชญา กล่าว
ทั้งนี้ในเวลา13.30น.กลุ่มเหยื่อรถยนต์ ได้เดินทางไปที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พหลโยธิน บางเขน กรุงเทพฯ เพื่อขอให้สภาทนายความฯ เป็นตัวแทนผู้ใช้รถ ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลแบบกลุ่ม (Class action) ให้บริษัทฟอร์ดออกรับผิดชอบต่อสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและเป็นอันตราย โดยขณะนี้ มีเจ้าของรถที่ลงนามร่วมฟ้องร้องผ่านสภาทนายความฯ แล้วประมาณ 250 คน อย่างไรก็ตามทางสคบ.และสภาทนายความได้รับเรื่องร้องเรียนไว้เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณา และเตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้นมา พร้อมรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือในเรื่องคดีต่อไป


