ยาฝาแฝด
การอ่านฉลากให้ครบถ้วนถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกของผู้บริโภคที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการใช้ยารักษาโรคต่างๆ การอ่านฉลากยาแล้วปฏิบัติตามคำแนะนำรวมถึงข้อควรระวัง จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การอ่านฉลากให้ครบถ้วนถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกของผู้บริโภคที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการใช้ยารักษาโรคต่างๆ การอ่านฉลากยาแล้วปฏิบัติตามคำแนะนำรวมถึงข้อควรระวัง จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ทั้งนี้กฎหมายกำหนดให้ฉลากยาต้องมีรายละเอียดที่จำเป็น ได้แก่ ชื่อสามัญทางยา ชื่อทางการค้า เลขทะเบียนยา สรรพคุณยา วันผลิตและหมดอายุ แต่สิ่งที่ผู้บริโภคหลายคนอาจจะไม่รู้ก็คือ เดี๋ยวนี้พบว่ามีฉลากยาหลายรายการ มีรูปแบบที่ใกล้เคียงกันมาก มากจนอาจเรียกได้ว่าเป็น “ยาฝาแฝด” ซึ่งสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค และอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้ยาผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ
นิตยสารฉลาดซื้อร่วมกับชมรมเภสัชกรชนบท ได้สำรวจตัวอย่างและข้อมูลผลกระทบที่เกิดจากยาฝาแฝด ที่ชวนให้สับสนโดยพบตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น
กรณีตัวอย่างของผู้ป่วยโรคจิตเภทรายหนึ่งมารับยาจิตเภท (Schizophrenia) ซึ่งหลังจากเภสัชกรได้ตรวจสอบยาเดิมที่ผู้ป่วยรายนี้นำติดตัวมา พบว่าผู้ป่วยได้รับยาชนิดเดียวกัน แต่ 2 ความแรง คือ Risperidone 1 mg และ Risperidone 2 mg โดยเวลารับประทานยาทั้งสองเหมือนกัน คือครั้งละ 1 เม็ดก่อนนอน จากการสอบถามผู้ป่วยและญาติเข้าใจผิดคิดว่าเป็นยาแบบเดียวกัน เนื่องจากรูปลักษณ์ทั้งตัวฉลากและรูปแบบเม็ดยามีความเหมือนกัน ผู้ป่วยจึงเก็บยาทั้งสองความแรงรวมไว้ในซองเดียวกัน
แม้แต่ยาในกลุ่มยาสามัญประจำบ้านอย่างยาพาราเซตามอล ชนิดน้ำ หรือไซรัป ซึ่งส่วนใหญ่ใช้กับเด็กเล็ก ก็มีความแตกต่างของความแรงของตัวยามากถึง 4 ขนาด คือ มีตัวตัวยาพาราเซตามอลขนาด 120 มิลลิกรับ (มก.)/1 ช้อนชา, 160 มก./1 ช้อนชา และ 250 มก./1 ช้อนชา รวมทั้งยังมีขนาด 60 มก./ตัวยา 0.6 มิลลิลิตร ซึ่งฉลากในผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีรูปแบบคล้ายกันมาก อาจจะแตกต่างในเรื่องของสีซึ่งเป็นไปตามรสชาติที่ใส่เพิ่มให้รับประทานง่ายของแต่ละสูตรยา แต่ถ้าผู้บริโภคไม่สังเกตดีๆ ก็อาจจะมองข้ามเรื่องของปริมาณยาพาราเซตามอลที่ผสมอยู่ ซึ่งการใช้งานพาราเซตามอลในเด็กต้องใช้อย่างระมัดระวังและไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 5 วัน ยิ่งโดยเฉพาะในเด็กเล็ก
การแก้ปัญหาในเรื่องนี้ต้องเริ่มตั้งแต่การขอขึ้นทะเบียนยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบและกำหนดไม่ให้รูปแบบฉลากยามีความคล้ายคลึงกันมากเกินไป จนทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสน รวมทั้งไม่ควรให้ยาชนิดเดียวกันที่มีความแรงของยาไม่เท่ากัน ใช้ชื่อทางการค้าเดียวกัน ส่วนผู้บริโภคเองก็ต้องให้ความสำคัญเรื่องการอ่านฉลาก ต้องรู้ว่ายาที่รับประทานคือยาตัวใด รู้จักชื่อสามัญทางยา และปฏิบัตตามคำแนะนำและข้อควรระวังอย่างเคร่งครัด


