สมรภูมิโซดาคึกส่งท้ายปี 2 ยักษ์เปิดศึกแบรนด์น้องใหม่
โดย...จะเรียม สำรวจ
โดย...จะเรียม สำรวจ
เริ่มแข่งขันกันอย่างดุเดือดอีกครั้งสำหรับกลุ่มสินค้าโซดามูลค่าปีละหมื่นล้านบาท เห็นได้จากการออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ของของ 2 ยักษ์ใหญ่ของวงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยในส่วนของค่ายสิงห์ออกมาเปิดตัวไฟติ้งแบรนด์ “โซดาลีโอ” เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชอบผสมโซดากับเครื่องดื่มต่างๆ ขณะที่ค่ายช้างออกมาเปิดตัวไฟติ้งแบรนด์ “ร็อค เมาเท็น” เพื่อขยายฐานลูกค้าที่ชอบลิ้มลองของใหม่
การออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ดังกล่าวทั้งสองค่ายต่างงัดกลยุทธ์ ผลวิจัยพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังจากได้ลิ้มลองสินค้าใหม่ ซึ่งทั้งสองค่ายบอกว่า ผู้บริโภคมีความชอบในสินค้าใหม่ที่ได้เปิดตัวเข้ามาทำตลาด และพร้อมที่จ่ายเพื่อซื้อสินค้า
ประภากร ทองเทพไพโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจสุรา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า จากการวิจัยโซดาใหม่ภายใต้แบรนด์ ร็อค เมาเท็น ไปในกลุ่มผู้บริโภคพบว่าผู้บริโภคมองโซดา ร็อค เมาเท็น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูดีกว่าของคู่แข่งและมีรสชาติที่ดีกว่า โดย 92% ระบุว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนการซื้อโซดาจากแบรนด์เก่ามาเป็นแบรนด์ใหม่
หลังจากผลการวิจัยมาเป็นแนวทางในการทำตลาด ล่าสุดบริษัท ไทยเบฟฯ ได้ออกมาใช้งบ 250 ล้านบาท สร้างแบรนด์โซดา ร็อค เมาเท็น พร้อมกับทำกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบครบวงจร โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน พ.ย.2559-เม.ย.2560 เริ่มจากการสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้าผ่านสื่อต่างๆ เช่น ออนไลน์ ทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์ และผับบาร์
นอกจากนี้ ยังจะมีการสอดแทรกการสร้างแบรนด์สินค้าโซดา ร็อค เมาเท็น ไปในรายการทีวีต่างๆ รวมไปถึงการทำกิจกรรมทดลองชิมตามสถานที่ต่างๆ และหนึ่งในนั้นคือ การทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มสินค้าสุราสีในเครือ เพราะจากผลการวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า 90% ของคนที่บริโภคโซดาจะบริโภคร่วมกับสุราสี
จากแนวทางการทำตลาดของโซดา ร็อค เมาเท็น ดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับการปรับตัวการทำตลาดของกลุ่มสินค้าสุราสีของบริษัท ไทยเบฟฯ ที่ล่าสุดได้มีการปรับตัวด้านการทำตลาดของ เบลน 285 ที่จะใช้โซดาเข้ามาช่วยในการทำตลาด
ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าขยายช่องทางการทำตลาดโซดา ร็อค เมาเท็น ต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยปัจจุบันกลุ่มสินค้าโซดามูลค่าปีละ 1.5 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนยอดขายผ่านผ่านช่องทางห้างค้าปลีกประมาณ 30% ที่เหลืออีก 70% เป็นการขายผ่านช่องทางร้านค้าทั่วไปหรือโชห่วย ซึ่งหลังจากออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ บริษัท ไทยเบฟฯ มั่นใจว่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดโซดาสิงห์ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ในปัจจุบันได้อย่างแน่นอน
ด้านบริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง ผู้ทำตลาดโซดาสิงห์ ล่าสุดได้เปิดตัวโซดาน้องใหม่ยี่ห้อ โซดาลีโอ เพื่อเป็นไฟติ้งแบรนด์เข้ามาทำตลาดเช่นกัน ซึ่งการเปิดตัวโซดาน้องใหม่เข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ นอกจากช่วยตอกย้ำการเป็นเจ้าตลาดและป้องกันแชร์ให้กับโซดาสิงห์แล้ว ยังถือเป็นการช่วยสร้างแบรนด์เบียร์ลีโอ เนื่องจากปัจจุบันการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีข้อจำกัด
ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง กล่าวว่า การส่ง “โซดาลีโอ” เข้าทำตลาดโซดามูลค่าปีละกว่า 7,500 ล้านบาทครั้งนี้ ถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ลีโอ ให้มีความครบครันและครอบคลุมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการตอบสนองความต้องการตลาด หลังจากการวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า สัดส่วนมากถึง 36% ชื่นชอบการดื่มเครื่องดื่มแบบโซดาผสมน้ำ เป็นอันดับสองรองลงมาจากการดื่มเครื่องดื่มผสมโซดาเพียงอย่างเดียว
สำหรับจุดแข็งของโซดาลีโอ คือ การต่อยอดความแข็งแกร่งของแบรนด์ลีโอ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่จดจำแก่ผู้บริโภคในวงกว้าง เนื่องจากมีคาแร็กเตอร์ที่สื่อถึงความสนุกสนาน ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ผสานกับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มีความซ่า ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของเครื่องดื่มประเภทโซดา จึงทำให้เกิดความลงตัวกับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตโซดาลีโอ ที่จะมีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น
ภูริต กล่าวอีกว่า จากการทำวิจัยผลิตภัณฑ์โซดาลีโอกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยผู้บริโภคสัดส่วน 91% มีความชื่นชอบในรสชาติ และนำไปผสมกับเครื่องดื่มได้รสชาติกลมกล่อมถูกใจ ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการดื่มแบบโซดาผสมน้ำ จากความต้องการของผู้บริโภคดังกล่าว บริษัทจึงได้มีการวิจัยและพัฒนาสินค้าโซดาลีโอขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญของแบรนด์ลีโอที่ทำให้เกิดขึ้นในวงการเครื่องดื่มนันแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะตลาดโซดา
ในด้านของกลยุทธ์การทำตลาดของโซดาลีโอนั้น บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง ได้มีการวางตำแหน่งแบรนด์และสินค้าให้มีความเป็นวัยรุ่น ทันสมัย มีความซ่า สนุกสนาน และซ่อนความทะเล้นขี้เล่นเอาไว้ เพื่อตอบโจทย์และเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นหนุ่มสาวอายุ 20 ปีขึ้นไป ที่มีไลฟ์สไตล์รักสนุกสนาน ทั้งนี้ยังได้ดึงนักแสดงชื่อดังอย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโซดาลีโอ
การแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าว คาดว่าจะทำให้ภาพรวมของตลาดโซดากลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้แต่ละค่ายพยายามกระตุ้นตลาด ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ และสร้างประสบการณ์การบริโภคโซดาด้วยการนำมาผสมกับเครื่องดื่มในรูปแบบต่างๆ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคเครื่องดื่มต่างๆ มากขึ้น ส่วนค่ายไหนจะขยายฐานลูกค้าและสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การตลาดไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ผ่านสื่อต่างๆ การทำกิจกรรมส่งเสริมการขายรูปแบบต่างๆ และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายว่าจะครอบคลุมแค่ไหน


