ไบโอเวกกี้จับผักอัดใส่เม็ด
ผักอัดเม็ด นวัตกรรมอาหาร ตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ที่มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบทานผัก ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง
ผักอัดเม็ด นวัตกรรมอาหาร ตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ที่มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบทานผัก ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ปัจจุบันได้มีนวัตกรรมอาหารผักอัดเม็ด ที่ยังคงคุณค่าสารอาหารจากพืชผักใกล้เคียงผักสด ด้วยงานวิจัยจาก บริษัท เชียงใหม่ไบโอเวกก้ี และการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ต่อยอดทางธุรกิจ ครอบคลุมการส่งออกทั้งพื้นที่ในประเทศและต่างประเทศ
เกษคง พรทวีวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ไบโอเวกกี้ เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจว่าผลิตภัณฑ์ “ผักอัดเม็ด” เป็นสินค้าตัวแรกที่ได้เริ่มต้นในธุรกิจด้านการเกษตร โดยก่อตั้งบริษัทในปี 2555 จากก่อนหน้านี้ได้ทำธุรกิจด้านปิโตรเคมี พร้อมนำมาปรับใช้กับธุรกิจในครั้งนี้ ด้วยมีเครือข่ายวิศวกรหลายท่าน และได้รับความรู้ในด้านเทคโนโลยีระบบสุญญากาศ นำมาปรับใช้ในกระบวนการผลิต
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ผักอัดเม็ด ยังคงวิตามิน แร่ธาตุจากผักไว้ได้ 80-90% ตามชนิดของผัก นอกเหนือจากคุณค่าทางอาหาร กระบวนการดังกล่าวสามารถคงสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในผัก จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้รักสุขภาพ
สำหรับจุดเด่นของผักอัดเม็ดไบโอเวกกี้ คือ วัตถุดิบในการผลิตที่มาจากธรรมชาติ 100% การตอบสนองของร่างกายจึงดีกว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเคมี ซึ่งจุดประสงค์หลักในการเลือกจับธุรกิจด้านนี้ มองว่าตลาดสุขภาพเติบโตสูง อีกทั้งต้องการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ไม่สามารถทานผัก แต่ยังได้รับสารอาหารครบถ้วน
สำหรับคู่แข่งในตลาดนั้น หากเป็นสินค้าเดียวกันแข่งขันโดยตรงแทบไม่มี เพราะเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในตลาด การแข่งขันจึงเป็นรูปแบบสินค้าทดแทนคืออาหารเสริม ซึ่งมีจุดแตกต่างชัดเจนในการเลือกวัตถุดิบจากธรรมชาติ
“ปัจจุบันไม่ว่าเทคโนโลยีจะเจริญก้าวหน้าไประดับไหน แต่ทุกคนยังต้องทานอาหาร เพียงแค่แนวโน้มการบริโภคอาจเปลี่ยนแปลงไปตามวิถีชีวิตที่เร่งรีบ” เกษคง กล่าว
โดยบริษัท เชียงใหม่ไบโอเวกกี้ ไม่ได้วางตัวเองในตำแหน่งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม แต่เป็นบริษัทขายสารอาหารให้แก่ลูกค้าที่มีวัตถุดิบมาจากธรรมชาติ สามารถทานได้ง่าย ซึ่งอนาคตวางแผนขยายสายการผลิตสินค้า ครอบคลุมสารอาหารบำรุงร่างกายด้านต่างๆ มากขึ้น โดย สวทช.เป็นหน่วยงานหลักที่ช่วยขับเคลื่อน สร้างนวัตกรรมด้านอาหาร ที่ทำให้อาหารกลายเป็นยาเพื่อสุขภาพที่ดี และเน้นการบำรุงรักษาร่างกาย
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ได้จัดจำหน่ายทั่วประเทศไทย ในร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าเพื่อสุขภาพ และร้านขายยาบางพื้นที่ ขณะที่ตลาดต่างประเทศได้บุกพื้นที่ในอาเซียน ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา และมาเลเซีย รวมถึงโปแลนด์ โดยเป็นสัดส่วนตลาดในประเทศ 90% และตลาดต่างประเทศ 10% ซึ่งได้เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนเป็นหลัก โดยเฉพาะในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับประเทศไทยกลุ่มเป้าหมาย คือลูกค้าระดับกลางถึงระดับบน ซึ่งผลิตภัณฑ์ผักอัดเม็ดที่จำหน่ายเป็นแพ็กสามารถทานได้ 30 วัน 1 กล่อง ราคา 500 บาท เป็นราคาที่ไม่ต่ำในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่สูงเกินไปในประเทศไทย โดยนโยบายในอนาคตวางแผนบุกตลาดยุโรปและตะวันออกกลาง คาดดำเนินการได้ภายในปีหน้า
ขณะที่สินค้าหลักในปัจจุบันเป็นสินค้าประเภทผักอัดเม็ด และไบโอเวกกี้ กัมมี่ วี มีส่วนประกอบจากผัก เหมาะสำหรับเด็กๆ และในอนาคตจะเพิ่มประเภทผง อาหารชง สำหรับกลุ่มผู้ป่วยและสูงอายุ รวมถึงอาหารเสริมเฉพาะกลุ่มพัฒนารสสัมผัส คุณค่าทางอาหาร วัตถุดิบจากธรรมชาติ สร้างผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของแต่ละคน
สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ขึ้นอยู่กับแนวทางการพัฒนางานวิจัยอย่างต่อเนื่องตลอดมา เพราะการทำผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ ส่วนใหญ่การพัฒนางานวิจัย จะร่วมกับ สวทช. และสำนักนวัตกรรมแห่งชาติ และในนามของบริษัท เชียงใหม่ไบโอเวกกี้ ยังรับจ้างผลิตสินค้าแก่แบรนด์อื่น เช่น โครงการหลวง โครงการภูฟ้า เป็นต้น


