เอกชนไม่สนเส้นตายกทช.ยันเปิดบริการคงสิทธิหมายเลขเดือนธ.ค.
เอกชนเปิดศึก กทช. ยืนยันกำหนดเดิมนัมเบอร์พอร์ทเสร็จ ธ.ค. ตั้งแต่ต้น ไม่สนเส้นตาย 1 ก.ย.พร้อมจ่าย 2 หมื่นบาท
เอกชนเปิดศึก กทช. ยืนยันกำหนดเดิมนัมเบอร์พอร์ทเสร็จ ธ.ค. ตั้งแต่ต้น ไม่สนเส้นตาย 1 ก.ย.พร้อมจ่าย 2 หมื่นบาท
นายปรีย์มน ปิ่นสกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์ หรือ เคลียริ่งเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ตามแผนบริการคงสิทธิเลขหมาย หรือ นัมเบอร์พอร์ทิบิลิตี้ ส่งให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ระบุชัดเจนว่ากำหนดที่สามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ คือ เดือน ธ.ค. ซึ่งกทช. ทราบเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใด ถึงต้องบังคับให้เปิดวันที่ 1 ก.ย.
ทั้งนี้ เนื่องจากตามแผนที่วางไว้ ในช่วงเดือน ก.ย. เป็นช่วงที่เอกชนจะเริ่มทดสอบระบบระหว่างผู้ให้บริการ โดยการสมมติกรณีต่างๆ ขึ้น ว่า หากลูกค้าขอโอนระบบจริง แล้วจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นได้บ้าง เช่น การตรวจสอบชื่อ-นามสกุล ที่อาจผิดพลาดจากการใช้คอมพิวเตอร์ การ โอนถ่ายข้อมูลต่างๆ ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง
นายปรีย์มน กล่าวว่า จากกรณีศึกษาของต่างประเทศ ขั้นตอนการทดสอบใช้เวลา 4-5 เดือน และการทดสอบระบบย่อมเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งจุดนี้เองทำให้เอกชนมีความเห็นร่วมกันว่าไม่ควรเร่งรีบเปิดให้บริการโดยที่ยังไม่ได้ทอดสอบระบบ ซึ่งจะสร้างปัญหาตามมาภายหลัง
สำหรับค่าปรับที่กทช.จะเรียกเก็บวันละ 2 หมื่นบาทนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากกทช. ซึ่งหากเอกชนยืนยันว่าได้ทำตามแผน แล้วกทช.ยังเห็นควรว่าต้องปรับอยู่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกทช.และเอกชนจะยอมเสียค่าปรับมากกว่าการยื่นฟ้องศาลปกครอง เพราะไม่ต้องการเป็นคดีความ
อย่างไรก็ตาม การเสียค่าปรับหรือการยื่นฟ้องนั้นเป็นสิทธิ์ของเอกชนแต่ละราย โดยไม่จำเป็นต้องเป็นมติร่วมกันของเคลียรริ่งเฮ้าส์ เพราะทางกทช.ไม่ได้ปรับเคลียริ่งเฮ้าส์ แต่ปรับไปที่เอกชนทั้ง 5 ราย โดยตรง คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค บริษัท ทรูมูฟ ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม
นายสรุจ ทิพเสนา ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เทเลคอร์เดีย เทคโนโลยี ประเทศไทย ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บริหารจัดการเคลียริ่งเฮ้าส์ ภายใต้ความร่วมมือกับ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวว่า หากการทดสอบแล้วมีปัญหาแล้วต้องเปิดให้บริการช้า ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ เพราะขณะนี้ประเทศอินเดียก็ต้องเลื่อนการเปิดให้บริการออกไปเช่นกัน เนื่องจากขั้นตอนการทดสอบระบบค่อนข้างยุ่งยาก เนื่องจากต้องทำให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานได้โดยไม่สะดุดแม้จะเปลี่ยนระบบแล้ว
ด้านนายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการ กทช. กล่าวว่า แม้เอกชนจะยอมเสียค่าปรับวันละ 2 หมื่นบาท แต่ต้องดูเจตนาด้วยว่าจงใจที่จะถ่วงเวลาออกไปให้ช้าหรือไม่ เพราะหากไม่สามารถระบุเวลาที่เปิดให้บริการได้อย่างชัดเจนแล้วเลื่อนไปเรื่อยๆ กทช.จะใช้มาตรการที่สูงขึ้น เช่น มีผลต่อการพิจารณาคุณสมบัติเข้าประมูลใบอนุญาตให้บริการ หรือ ไลเซ่นส์ 3 จี แน่นอน


