วอนรถเครน50ตันวิ่งบนถนน
ผู้ประกอบการรถเครนอ้อนกระทรวงคมนาคม ปลดล็อกให้รถเครนขนาดน้ำหนัก 20-50 ตัน วิ่งบนถนนได้ถูกกฎหมาย สกัดปัญหาส่วย
ผู้ประกอบการรถเครนอ้อนกระทรวงคมนาคม ปลดล็อกให้รถเครนขนาดน้ำหนัก 20-50 ตัน วิ่งบนถนนได้ถูกกฎหมาย สกัดปัญหาส่วย
นายศิริ ชีวชื่น กรรมการบริหารสมาคมผู้ประกอบการรถเครน เปิดเผยว่า ได้ยื่นเรื่องขอให้ทางกระทรวงคมนาคมพิจารณาผ่อนผันเพื่อคุ้มครองชั่วคราวให้ผู้ประกอบการรถเครนสามารถนำรถเครนขนาดน้ำหนัก 20-50 ตัน ออกวิ่งบนท้องถนนได้โดยไม่ผิดกฎหมายหรือต้องขออนุญาตก่อน เพื่อลดช่องว่างทางกฎหมายในการเรียกเก็บส่วยตามรายทาง ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาคอร์รัปชั่นและเป็นต้นทุนของผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ
“สมาคมอยากให้มีการจัดหมวดหมู่ให้ ให้จำแนกรถเครนให้อยู่ในหมวดเครื่องจักรหนัก ซึ่งจะแยกออกจากการกำหนดน้ำหนักของรถบรรทุกที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการขนส่ง โดยยินดีที่จะเสียภาษีในอัตราที่แพงขึ้นให้ เพราะเท่าที่ทางสมาคมสำรวจดูแล้ว พบว่าท้องถนนในประเทศไทยสามารถรองรับน้ำหนักของรถขนาด 50 ตันได้ จึงมั่นใจว่าจะไม่สร้างความเสียหายให้กับผิวถนน” นายศิริ กล่าว
ปัจจุบันสมาคมผู้ประกอบการรถเครนมีสมาชิกกว่า 300 บริษัท รวมจำนวนรถเครนทั้งหมด 8,000 คัน ซึ่งคิดเป็น 80% ของจำนวนรถเครนที่ให้บริการอยู่ทั่วประเทศ และในจำนวนนี้กว่า 7,000 คัน เป็นรถเครนขนาดน้ำหนักตั้งแต่ 20-50 ตัน ซึ่งจัดว่าอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง
อย่างไรก็ดี สำหรับรถเครนขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนัก 100 ตันขึ้นไปนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นของบริษัทผู้ประกอบการรถเครนขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีถอดประกอบในการขนย้ายและมีการขนย้ายไม่บ่อยนัก ซึ่งทางผู้ประกอบการยินดีที่จะยอมรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอง
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายดรุณ แสงฉาย ปลัดกระทรวงคมนาคม ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ในการแบ่งประเภทรถเครน น้ำหนักกดเพลาและน้ำหนักบรรทุกรถเครนที่เหมาะสมควรเป็นอัตราเท่าไรในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และไม่ทำให้ถนนเกิดความเสียหายหรือทรุดตัว และมีความปลอดภัย โดยได้ให้ไปศึกษารายละเอียดและเสนอกลับมาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาในเดือน ต.ค.นี้
“ถ้ากำหนดขนาดรถให้ชัดเจนจะทำให้รู้ว่าขนาดไหนน้ำหนักเท่าไรที่ไม่ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานของรัฐ และขนาดไหนที่ต้องขออนุญาตจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้” นายออมสิน กล่าว


