‘ไพรซ์’ ข้าวกล้องป๊อป ออร์แกนิก
แรงบันดาลใจสู่ธุรกิจ จากแนวคิดขนมทานเล่น แต่ให้คุณค่าทางอาหาร เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ ไพรซ์ ข้าวกล้องป๊อป ออร์แกนิก ขนมทานเล่นผ่านกรรมวิธีการป๊อป
โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง
แรงบันดาลใจสู่ธุรกิจ จากแนวคิดขนมทานเล่น แต่ให้คุณค่าทางอาหาร เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ ไพรซ์ ข้าวกล้องป๊อป ออร์แกนิก ขนมทานเล่นผ่านกรรมวิธีการป๊อป ที่แปรรูปจากข้าวกล้องออร์แกนิกของไทย สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 เติบโตแบบก้าวกระโดด วางเป้าบุกต่างประเทศเพิ่มขึ้น
สายฝน เหตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮปปี้ บอกซ์ หรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ ไพรซ์ ข้าวกล้องป๊อป ออร์แกนิก เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ มาจากพฤติกรรมการบริโภคข้าวของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป มีอาหารหลากหลายชนิดให้เลือกทานมากขึ้น ประกอบกับความเชื่อที่ว่า หากกำลังควบคุมน้ำหนักควรลดการทานข้าว เช่นเดียวกันกับครอบครัวของเธอที่เน้นการทานข้าวน้อยมาก จนกระทั่งได้รับคำแนะนำจากลูกสาวคนโต (ศวิตา เศรษฐาภรณ์) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารสุขภาพ แนะนำให้ทานข้าวกล้องออร์แกนิก และรู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้น อีกทั้งน้ำหนักลดลง จึงเกิดเป็นความคิดในการทำธุรกิจเกี่ยวกับข้าวกล้องออร์แกนิก ทำอย่างไรให้คนหันมาทานข้าวกล้องมากขึ้น ซึ่งต้องการส่งต่อความรู้และประสบการณ์ที่ดีจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารให้แก่คนทั่วไป เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
โจทย์ต่อไปที่ต้องขบคิด คือ จะทำอย่างไรให้คนหันมาทานข้าวกล้องมากขึ้นนั้นหมายความว่า ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทานได้ง่าย เหมาะกับคนทุกช่วงวัย ลูกสาวคนเล็ก (ศลิษา เศรษฐากรณ์) ได้เสนอไอเดียขนมป๊อปชิปที่กำลังนิยมในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะใช้มันฝรั่งในกระบวนการป๊อป เลี่ยงการทอดให้โทษต่อร่างกายลดลง จึงปรับกระบวนการมาใช้กับข้าวกล้อง ออร์แกนิกสายพันธ์ุของไทย ที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น และมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า โดยเหตุผลที่เลือกข้าวกล้องออร์แกนิก เนื่องจากเมื่อทราบจุดเด่นสินค้าของตนเองว่ามุ่งเน้นคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ วัตถุดิบที่เลือกใช้จึงเลือกข้าวที่ผ่านการปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี หรือออร์แกนิก โดยได้เลือกสายพันธ์ุข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวหอมนิล และข้าวหอมแดง จากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ จ.อุทัยธานี และสุรินทร์ กล่าวได้ว่าเป็นธุรกิจของครอบครัวที่ริเริ่มความคิดจากคนใกล้ตัว ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีในกลุ่มผู้รักสุขภาพ ส่งผลให้ยอดขายโตเฉลี่ย 100% ในทุกปี (ตั้งแต่ปี 2557)
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลัก คือกลุ่มบุคคลทั่วไปที่รักสุขภาพ และกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งนโยบายในอนาคตจะเน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่นและคนทั่วไปมากขึ้น ตลาดระดับกลางถึงระดับบน ด้วยเป็นสินค้าพรีเมียม นอกเหนือจากนี้ได้วางขายทั้งในและต่างประเทศ สัดส่วนในประเทศ 85% และต่างประเทศ 15% การค้าภายในประเทศมีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านห้างสรรพสินค้าทั่วไป และกลุ่มเฉพาะ เช่น ร้านเพื่อสุขภาพ หรือกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ ที่คัดสรรอาหารและขนมที่เข้าไปจัดจำหน่ายในรั้วโรงเรียน สำหรับในต่างประเทศได้จัดจำหน่ายผ่านตัวแทนในประเทศ ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย และสิงคโปร์ นอกเหนือจากนี้ร้านค้าขนาดเล็กได้สนใจวางขายซึ่งไม่ได้ผ่านตัวแทนจำหน่ายโดยตรง ในประเทศออสเตรเลีย และอังกฤษ ซึ่งนโยบายในอนาคตจะบุกพื้นที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรปมากขึ้นภายในปี 2560 ซึ่งปัจจุบันมีมาตรฐาน NOP รองรับ เพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภค
นอกเหนือจากนี้ มีแผนเจาะตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งต้องได้รับมาตรฐานฮาลาลจากที่นั่นโดยตรง รวมถึงตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการส่งออกต่างประเทศให้สูงขึ้น
“สินค้าแบรนด์เราถือว่าราคาอยู่ในตลาดระดับกลางและระดับบน ซึ่งสินค้าแมสจะเจาะกลุ่มประเทศในอาเซียนได้ มากกว่าหน้าที่ของไพรซ์ คือ สื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงความคุ้มค่ากับสินค้าที่ได้รับ ซึ่งถือว่าราคาไม่สูงเลย”
ขณะที่ทิศทางตลาดออร์แกนิกโลกโตขึ้น 15% ต่อปี แต่ในประเทศไทยยังเป็นกลุ่มที่จำกัด การทำตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบ เชื่อว่าตลาดอาหารสุขภาพในไทยโตช้า แต่เติบโตแน่นอนทุกปี ยิ่งภาวะที่กำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ ยังมีโอกาศทางธุรกิจอีกมากในตลาดอาหารสุขภาพ


