ท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์
อาเซียนเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลกมากมาย และ “การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” (Creative Tourism)
โดย...สดุดี วงศ์เกียรติขจร
อาเซียนเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลกมากมาย และ “การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” (Creative Tourism) ก็เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวในระดับสากลที่ค้นหาประสบการณ์แปลกใหม่ที่แท้จริงได้ การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมในด้านศิลปะ วัฒนธรรม มรดก หรือลักษณะพิเศษเฉพาะของสถานที่
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวของอาเซียนเริ่มมีลักษณะเป็นกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro-Tourism) การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Green Tourism) รวมไปถึงแม้แต่การเข้าคอร์สเรียนทำอาหาร และการเข้าชมงานศิลปะหรือการแสดงต่างๆ เช่น ดนตรี การเต้น หรือละคร เป็นต้น
เมื่อปี 2547 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ได้ดำเนินการจัดตั้งเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ (Creative Cities Network) เพื่อเป็นกลไกส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมในเชิงสร้างสรรค์ และการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนในรูปของการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการท่องเที่ยว และนับตั้งแต่ปี 2551
เรื่อยมา อาเซียนก็ได้กลายเป็นที่สนใจของสากลในด้านศักยภาพของการเป็นหุ้นส่วนที่จะส่งเสริมแนวคิดอุบัติใหม่ข้างต้นได้
จนกระทั่งในที่สุดก็ได้ส่งผลให้เกิดการผลักดันเป็นโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของเมืองสำคัญต่างๆ ในอาเซียน เช่น สินค้าหัตถกรรมของเมืองบันดุง อินโดนีเซีย สินค้าเฟอร์นิเจอร์ของเมืองเซบู ฟิลิปปินส์ รวมถึงซอฟต์แวร์และสินค้าหัตถกรรมของ จ.เชียงใหม่ ของไทย นอกจากนี้ยังมีความพยายามผลักดันบางเมืองที่มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรมและเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจให้ยกระดับสู่การเป็นเมืองแห่งการออกแบบ (City of Design) รวมถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ของเมืองขนาดย่อมที่มีชุมชนเข้มแข็งเป็นฐานสนับสนุนอีกด้วย
กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของอาเซียนมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นภายในอาคารมากขึ้น โดยเมืองใหญ่ของหลายประเทศได้สร้างห้างสรรพสินค้าและร้านค้าขนาดใหญ่ที่ติดเครื่องปรับอากาศในรูปของ “จัตุรัสในร่ม” (Indoor Squares) ที่สอดรับกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ของการจับจ่ายใช้สอยและทำกิจกรรมต่างๆ ของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป เช่น การศึกษาแนวใหม่ และการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน รัฐบาลของหลายประเทศก็ให้เงินอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการบูรณะและรื้อฟื้นพิพิธภัณฑ์ต่างๆ และพื้นที่ที่เป็นมรดกของชาติให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์แห่งใหม่ที่ทันสมัยเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจหรือการศึกษาที่ให้ความบันเทิง
นับจากนี้ไปจนถึงทศวรรษข้างหน้า การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของอาเซียนจะเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมุ่งดำเนินนโยบายที่ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่จ่ายราคาได้ของทุกภาคส่วนของสังคมอย่างทั่วถึง พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งในมิติเชิงพาณิชย์และวัฒนธรรมอย่างสมดุล
รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ


