posttoday

คิงแตกสินค้านันออยล์

09 กันยายน 2559

น้ำมันรำข้าวคิง เร่งขยายธุรกิจนันออยล์เสริมทัพ หวังดันธุรกิจก้าวสู่ผู้ผลิตสินค้ารำข้าวระดับโลก

น้ำมันรำข้าวคิง เร่งขยายธุรกิจนันออยล์เสริมทัพ หวังดันธุรกิจก้าวสู่ผู้ผลิตสินค้ารำข้าวระดับโลก

นายประวิทย์ สันติวัฒนา กรรมการบริหาร บริษัท น้ำมันบริโภคไทย กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง เปิดเผยว่า แผนธุรกิจของบริษัทจะหันมาให้ความสำคัญกับการขยายกลุ่มธุรกิจนันออยล์ หรือกลุ่มสินค้านอกเหนือจากน้ำมันรำข้าว โดยเร่งพัฒนาสินค้าที่สร้างมูลค่าจากรำข้าว ซึ่งใช้งบลงทุนโรงงาน 100 ล้านบาท เมื่อปีที่ผ่านมา วางเป้าหมายมีสัดส่วนรายได้เพิ่มจาก 1% เป็น 10% ในอีก 5 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ การทำธุรกิจนันออยล์ยังเป็นส่วนหนึ่งผลักดันให้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำในกลุ่มสินค้าจากรำข้าวของโลกในปี 2565 เนื่องจากเริ่มมีน้ำมันรำข้าวจากอินเดียเข้ามาแข่งขันและชิงตำแหน่งผู้ผลิตอันดับหนึ่งไปแล้ว ด้วยการใช้วัตถุดิบรำข้าว 5-6 แสนตัน/ปี ส่วนบริษัท 4 แสนตัน/ปี เบื้องต้นกำลังอยู่ระหว่างพัฒนาสินค้า 3-4 รายการ และปีหน้าจะเปิดตัวแป้งรำข้าว เป็นสินค้ากลุ่มนันออยล์ออกมาทำตลาดตัวแรก

ทั้งนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญการขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดอาเซียน อาทิ กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา ที่กำลังศึกษาโดยมีแผนระยะ 2 ปี จะเข้าไปสร้างโรงงานเป็นลักษณะการร่วมทุนกับผู้ประกอบการท้องถิ่น เนื่องจากขณะนี้ตลาดอาเซียนเติบโตสูง คาดว่าภายใน 5 ปี รายได้มาจากอาเซียนคิดเป็นสัดส่วน 3-5% จากปัจจุบันตลาดหลักมาจากยุโรป อเมริกาและเอเชีย โดยรายได้จากต่างประเทศยังคงมีสัดส่วน 40% และในประเทศ 60%

นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า การทำตลาดภายในประเทศ บริษัทใช้งบ 20 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “รู้จริง เลือกคิง” ดึงโอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล มาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อมุ่งเน้นการสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับน้ำมันรำข้าว เนื่องจากขณะนี้กระแสสุขภาพที่มาแรง ผู้บริโภคมองหาน้ำมันพืชที่ตอบโจทย์สุขภาพจึงมองว่าเป็นโอกาส จากการที่คิงเป็นผู้นำตลาดรำข้าวมีส่วนแบ่ง 90%

สำหรับภาพรวมตลาดน้ำมันพืชบรรจุขวดมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 1-2% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยน้ำมันปาล์มสัดส่วน 65% เริ่มมีหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาดและใช้กลยุทธ์ราคาเข้ามาทำตลาด ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองสัดส่วน 25% พบว่าต่างจังหวัดมองว่าเป็นสินค้าพรีเมียม ส่วนน้ำมันรำข้าว 7% กลุ่มคนเมืองเริ่มใช้สินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันพรีเมียมรำข้าว และน้ำมันนำเข้าสัดส่วน 3% เติบโตเพิ่มขึ้น

ขณะที่บริษัทได้วางเป้าหมาย 5 ปี ต้องการสร้างรายได้ 8,500 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 6,000 ล้านบาท และปีนี้คาดว่ารายได้จะไม่เติบโต เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคลดการทำอาหารกินภายในบ้าน แต่คาดว่ารายได้ในปีหน้าจะเติบโต 7% จากการที่ผู้บริโภคเริ่มบริโภคน้ำมันระดับพรีเมียมมากขึ้น

ข่าวล่าสุด

ALATi “สยาม เคมปินสกี้” เมดิเตอร์เรเนียนโมเมนต์ สำหรับวันธรรมดาที่สุดพิเศษ